Donald Trump ออกคำสั่งฝ่ายบริหารแบน TikTok อย่างเป็นทางการ โดยตัวคำสั่งให้เวลา 45 วันเพื่อให้ทาง ByteDance สามารถขาย TikTok ออกไปให้กับบริษัทสหรัฐฯ ตามที่ไมโครซอฟท์เคยออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ แต่ประกาศนี้ออกมาพร้อมกับประกาศแบบเดียวกันแต่แบน WeChat ของทาง Tencent ไปด้วย
เนื้อหาประกาศทั้งสองฉบับคล้ายกัน โดยระบุว่าแอปทั้งสองเก็บข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากจนเปิดทางให้รัฐบาลจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองสหรัฐฯ ได้กว้างขวาง และเซ็นเซอร์เนื้อหาตามความต้องการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ขณะที่คำสั่งแบน WeChat นั้นเพิ่มเนื้อหาว่า WeChat เปิดทางให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนติดตามพลเมืองจีนที่ได้มาเยือนสหรัฐฯ และได้สัมผัสสังคมเสรีเป็นครั้งแรกในชีวิต
ทาง TikTok ออกแถลงการณ์ว่าบริษัทช็อคกับคำสั่งที่ไม่ผ่านกระบวนการใด แม้ว่าบริษัทจะพยายามหาทางออกร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ มาตลอด โดยระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อ้างรายงานโดยไม่อ้างอิงว่าเป็นรายงานใด หรือใช้ข้อกล่าวหาหว่านแหว่า TikTok "อาจจะ" ถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
Comments
ทำตัวเหมือนไม่ใช่โลกเสรี
ปูตินถูกใจสิ่งนี้
จินตนาการไม่ถูกจริง ๆ ว่าถ้าทรัมพ์ได้สมัยสอง โลกในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง
บันเทิงแน่นอน 100% ทั้งตะวันออกกลาง คาบสมุทรเกาหลี ทะเลจีนใต้ เม็กซิโก ยุโรป และอีกหลายที่
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถูกใจตรงที่แบน Wechat เนี่ยแหล่ะครับ
ไม่ถูกใจจีนมาก ที่แบน Whatsapp ครับ Slack ในจีนยังโดนแบน
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
อีกหน่อยแอพที่มีข้อมูลส่วนตัวที่มีเอียวกับจีนนะจะโดนหมด
ประชาชนไม่สิทธิ์เลือกที่จะให้ข้อมูลกับจีนเองเหรอ ?
เลือกได้ แต่ปัญหาคือไม่ได้เลือก หรือเลือกโดยไม่ตั้งใจ
Terms of Service แอปจีนหลายตัวนี่เขียนร่ายยาวกันมาก อ่านลำบากมาก จนต้องกด agree ไปถ้าอยากใช้แอปนั้น บางทีหลงให้ sensitive data ไปด้วยแล้ว
หลายแอปที่ Bundle มากับเครื่องยี่ห้อจีนจะไม่สามารถ disable ได้เลยด้วยครับ
ยังคงเกมชิงไหวพริบของขั้วต่างของมหาอำนาจทางการค้าทั้งคู่
โดนเตะตัดขา สกัดดาวรุ่ง...
แบบนี้ต้องมาตั้งบริษัท nominee ที่ไทย แปลงสัญชาติ app จากจีนเป็นไทยซะ
อย่าเลยครับ ตาทรัมป์เพิ่งจะตั้งชื่อใหม่ให้เราเป็น Thighland วันนี้เองครับฮ่าๆๆๆ
ทำอะไรตามใจคือทรัมแท้ แบบนี้เหมือนโดนบังคับขาย
ถ้าประเทศอื่นบังคับขายแบบนี้กับ บ.อเมริกันบ้าง คงโดนเรือรบมาจอที่ปากอ่าวแล้ว
TikTok นี่ยังไม่มีหลักฐานประจักษ์ว่าเก็บข้อมูลเข้าจีน แต่ WeChat นี่ชัดเจนมาก
+1 TikTok นี่ผมยังไม่เก็ตแต่ WeChat นี่ค่อนข้างเห็นด้วยอยู่
ไม่ได้เข้าข้างอเมริกานะ แต่จีนก็แบน App ของต่างประเทศเหมือนกัน ไม่เห็นมีใครตำหนิเลยสักคำ แปลกว่ะ.
+1
ถ้าคิดแบบนั้นจีนยังไม่แบน Apple เลย ทำไมอเมริกาถึงแบน Huawei ล่ะครับ แบนคนเดียวไม่พอไปกดดันให้ประเทศอื่นแบนด้วยอีกตะหาก
รายละเอียดการแบนผมไม่มั่นใจว่าถูกไหม มันไม่เชิงแบน แต่การเข้าไปทำธุรกิจในจีนต้องเก็บข้อมูลในจีน โดย google facebook ไม่ยอมรับกฎหมายของจีนก็เลยเข้าไปทำธุรกิจไม่ได้
ส่วน apple ยอมตั้งศูนย์ดาต้าในจีน ก็เลยทำธุรกิจได้
+1024
Google, Facebook ตั้งในจีนไม่ได้ แต่ไม่เสียหายมากเพราะยังไม่ได้ลงทุน
TikTok เจ็บหนักเพราะลงทุนไปแล้ว
เห็น TikTok โดนบีบคอซื้อแล้วนึกถึงเคส Alstom ที่ผู้บริหารเคยถูกจับตัว(คล้ายๆกับ Huawei) จนสุดท้ายเขียนหนังสือชื่อ The American Trap
ต่างมากค่ะ จีนประกาศแบนตามข้อกำหนดที่ระบุชัดเจนแต่แรก ใครอยากคบค้าก็แค่ทำตามแล้วจบเข้าไปได้ แต่สหรัฐนึกอยากแบนก็แบนไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมายปกติ ซึ่งสำหรับ private company ที่ลงทุนไปมากมายแล้วมันเสียหายมหาศาล ไม่ต่างกับการกลั่นแกล้งกัน
+1024
WE ARE THE 99%
ถ้ามองว่ากฎแบบจีนนี่ทำตามแล้วจบก็ต้องถามว่าทำธุรกิจอะไรครับ ทำไมถึงมองแบบนั้น เจอกฎอะไรบ้าง
อย่างสมัยจีนเปลี่ยนใจกวาดล้างธุรกิจ cryptocurrency นี่มีกฎให้เห็นก่อนไหม ให้เวลาธุรกิจเท่าไหร่ นี่ได้ติดตามไหม
lewcpe.com, @wasonliw
จะให้ยกตัวอย่างจริงๆจีนมีกฎกีดกันธุรกิจภายนอกมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มสื่อ เช่น เกม หนัง เพลง ที่จีนเข้มงวดและออกกฎสำหรับสื่อนอกประเทศที่จะเข้าไปขายในจีนและบังคับใช้กับทุกเจ้าไม่เพียงแต่สหรัฐ ทำไมถึงมองแบบนั้น: เพราะกฎใช้กับทุกประเทศเสมอหน้า กฎอะไรบ้าง: โควต้า เนื้อหา ฯลฯ
ส่วนตัวมองว่าของที่เคยไม่มีกฎชัดเจน วันนึงให้หรือไม่ให้ทำต่อ น่าจะเข้าข่ายจัดระเบียบ (set standard) เพื่อผลประโยชน์สุ เพราะกฎที่ออกมาก็ยังถูกใช้กับทุกประเทศนอกจีน ต่างกับสหรัฐที่ออก executive order โดยตรงจากปธน.เป็นว่าเล่นโดยไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมายปกติเหมือนที่ประเทศอื่นๆเค้านิยมทำกัน มันไม่ค่อยน่ายอมรับนับถือ
อันนี้คือเชื่อจริงๆ ใช่ไหมครับว่าจีนใช้กฎเสมอหน้าจริงๆ ที่มียกเว้นบ้างแค่เรื่องที่ไม่มีกฎชัดเจน?
lewcpe.com, @wasonliw
ตอนนั้นจีนแบนธุรกิจ cryptocurrency เฉพาะของอเมริกาเหรอครับ อันนี้ไม่ได้ตามข่าวเลยจริงๆ
ไม่ทราบ (อย่างน้อยก็ช่วงแรกๆ ของมาตรการ) เพราะหากฎกันไม่เจอครับ ไม่รู้ว่าใครโดนหรือยังไม่โดนเพราะใช้การไป "กดดัน" เอา
lewcpe.com, @wasonliw
โซเชียลเน็ตเวิร์กจากต่างประเทศ ถูกใช้โดยรัฐบาลประเทศนั้นไม่สะดวกใจเพราะไม่สามารถใช้กฎหมายประเทศตัวเองคุมได้ ก็เหมือนการเสียอำนาจนอกราชอาณาเขตให้ต่างประเทศ ประเทศนั้นก็แก้ปัญหาด้วยการปิดซะเลย
ส่วนจะได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่? จะเป็นการปิดกั้นหรือปกป้องเอกราช?
ก็เป็นมุมมองของแต่ฝั่งที่ต้องไปชั่งน้ำหนักแล้วดีเบตสู้กันเอง
/me จำเขามาไม่ได้คิดเอง
ถึงแบนแต่เขาก็ไม่ได้บังคับซื้อนะครับ
2020 เมกาอันธพาลครองโลกเจงๆ
เหมือนกัน? จีนไม่ได้แบนแอปต่างประเทศ แต่จีนกำหนดข้อกำหนดของแอปต่างประเทศที่จะเข้ามาทำตลาดในจีนอย่างชัดเจน แอปไหนทำตามข้อกำหนดก็เข้ามาได้ ไม่มีการแบนเจาะจงเฉพาะแอปโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนแบบที่อเมริกาทำ
ถ้าให้เปรียบเปรย ก็เหมือนร้านค้าหนึ่งที่ห้ามคนไม่ใส่ชุดสุภาพเข้าร้าน กับอีกร้านค้าหนึ่งที่ห้ามแต่คุณที่เข้าร้าน
+10 อันนี้ตรงประเด็นมาก
เพราะไปแจกใบปลิวร้านอื่นในร้านของเค้าหรือเปล่าครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับ Trump และอเมริกาครับ(แต่ก็เข้าใจได้บ้าง--อ่านพารากราฟสุดท้าย) แต่ผมก็ต้องเห็นแย้งเรื่องจีนเป็นแค่ห้ามคนไม่ใส่ชุดสุภาพเข้าร้านครับ ผมมองว่ามันคือถ้าจะเข้าร้านเข้ามาแล้วต้องถอดเสื้อผ้าเดิมออกแล้วซื้อของที่ร้านเปลี่ยนใส่ก่อนออกไปนะ
ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะเลือกไม่เข้าร้านนั่นก็ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าเรื่องที่ร้านนั้นทำเป็นเรื่องดีและควรเห็นดีเห็นงามด้วยครับ
อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเข้าร้านค้าไม่เข้าร้านค้าครับ แต่มันเป็นเรื่องการค้าขายระหว่างประเทศ ประเทศนึงปิดกั้นการนำเข้าโดยต้องมีเงื่อนไข จะให้อีกประเทศเสียเปรียบโดยการเปิดการนำเข้าแบบอิสระก็ไม่ใช่เรื่อง ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยกับการแบนและบังคับขายแบบนี้ มันมีวิธีการอื่นๆที่ดีกว่าแค่การแบนแน่นอน
แต่อย่างว่า Trump มันคงคิดได้แค่แบบนี้..
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมไม่ได้จะสื่อว่าเห็นดีเห็นงามกับที่จีนทำครับ ผมแค่ต้องการเปรียบเปรยเฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นห้ามใส่ชุดสุภาพหรือต้องแก้ผ้าเข้าร้านหรือมีเงื่อนอะไรอื่นๆที่มันบ้าบอคอแตกและเลวร้ายเอาเปรียบเห็นแก่ได้แค่ไหน สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อคือ "เขามีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่าต้องทำยังไง และไม่ว่าใครที่ทำตามข้อกำหนดนั้นก็เข้าไปได้ครับ"
ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ แต่ผมแค่ต้องการจะเปรียบเปรยแบบง่ายๆว่าที่จีนกับอเมริกาทำมันต่างกันเท่านั้นเองครับ
และถึงแม้ว่า Tiktok จะทำตัวน่าสงสัยหรือทำอะไรผิดจริงๆจนอเมริกาต้องแบน มันก็ไม่เหมือนกับการที่จีนไม่ให้แอปอื่นๆเข้ามาทำตลาดในจีนอย่างที่เจ้าของเม้นเขาเข้าใจอยู่ดีครับ
เพราะคุณเปรียบเปรยเป็นการเดินเข้าร้าน(ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับกรณีนี้)มันเลยดูต่างครับ
การแบนแอพคือการแบนจากปลายทางครับ ตัวต้นทางคือ Facebook, Google, Tiktok ยังทำงานและดำเนินกิจการได้อยู่ เพียงแต่ปลายทางไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งทั้งสองกรณีเป็นกรณีเดียวกันครับ
ที่แย่กว่ามากสำหรับ Tiktok คือตัวเองเข้าไปตั้ง datacenter แล้วในสหรัฐ อยู่ๆโดนแบนต้องเสียหายทางธุรกิจ ประเด็นนี้ครับที่ควรเรียกว่าต่าง และสหรัฐควรถูกฟ้องและแพ้ด้วย
การอ้างข้อกำหนดมันไม่ใช่ valid reason เลยครับ เพราะข้อกำหนดที่ว่านั้นจะเป็นอะไรก็ได้ สหรัฐจะอ้างว่าตัวเองใช้ข้อกำหนดเหมือนกันก็ได้เช่น
ก็เรียกได้ว่าข้อกำหนดนะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เรื่องการแบนแอป... ผมไม่ได้บอกว่าจีนไม่ได้แบนแอป แต่ผมบอกว่าจีนไม่ได้แบน "แอปต่างประเทศ" ครับ ซึ่งแอปที่จีนแบนคือ "แอปที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของจีน" ต่างหาก ส่วนที่ผมเจาะจงไปแค่ "แอปต่างประเทศ" เพราะความเห็นแรกเขาเจาะจงมาแบบนั้นครับ
ประเด็นเรื่องข้อกำหนด... สำหรับผมคำว่า "ข้อกำหนด" ต้องเป็นสิ่งที่ชี้แจงก่อนและบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมครับ ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่อเมริกาทำในครั้งนี้ครับ เพราะเหตุนั้นผมจึงใช้คำว่าข้อกำหนดในการแยกความแตกต่างของการกระทำระหว่างจีนกับอเมริกาครับ แต่ถ้าหากผมเข้าใจความหมายของ "ข้อกำหนด" ผิดไปก็ต้องอภัยด้วยครับ
เรื่องการเปรียบเปรย.. ผมเข้าใจดีว่าการเปรียบเปรยเดินเข้าร้านมันไม่ได้เหมือนกรณีนี้แบบเป๊ะๆ 100% เพราะงั้นมันถึงเป็นแค่การเปรียบเปรย แต่โดยส่วนตัวผมมองว่ามันก็ยังเกี่ยวข้องและใกล้เคียงกันพอจะใช้เปรียบเปรยได้นะครับ เพราะผมมองว่าการที่แอปจะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศมันก็เปรียบเปรยได้เหมือนกับการเดินเข้ามาในร้าน ถ้าหากมุมมองของผมตรงนี้มันผิดและการเดินเข้าร้านมันไม่สามารถเปรียบเปรยกับกรณีนี้ได้เลยก็อยากจะให้ช่วยชี้แจงแก้ความเข้าใจผิดให้ผมทีครับ
ผมอยากรู้เพราะคุณกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ชี้แจงก่อนและบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม ดังนั้นขอถามคำถามนี้ครับ
ข้อกำหนดในการแบนของจีนคืออะไรครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เหมือนเคยอ่านผ่านๆมาว่าต้องตั้ง Data Center ในประเทศจีนและหน่วยงานรัฐต้องเข้าตรวจสอบได้ประมาณนี้แหละมั้งครับ และเหมือนต้องทำตามคำสั่งของรัฐบาล ถ้าบอกให้ลบให้เซ็นเซอร์อะไรก็ต้องทำตาม ซึ่งส่วนใหญ่ถ้ายอมทำตามก็เข้าไปได้ แต่บริษัทเมกาส่วนมากไม่ยอมเอง อย่างเช่น Google ก็เลือกที่จะออกมาจากจีนเองเค้าไม่ได้ไล่หรือแบนครับ
ดังนั้นแปลว่าแอพทุกแอพที่มีการเก็บข้อมูลแต่ไม่ได้มี datacenter ในจีนจะต้องถูกแบนตามความเห็นของคุณ iqsk131 ว่าต้องบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมสินะครับ
แบนครับ ผู้ใช้ในจีนไม่สามารถใช้บริการเหล่านี้ได้ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถูกแบนเพราะปฏิบัติตามข้อตกลงของทางรัฐบาลไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ยังใช้ได้นิครับ
เอ ดังนั้นแปลว่าไม่ใช่ การบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม สินะครับ แต่เลือกปฎิบัติว่าจะปฏิบัติกับบริษัทไหนตอนไหนมากกว่า?
ดังนั้นข้อกำหนดก็เป็นแค่สิ่งลวงตาที่เขียนมาเพื่อบังคับใช้อำนาจกับบริษัทที่อยากใช้ด้วย?
สรุปว่าข้อกำหนดของจีน เป็นสิ่งที่ชี้แจงก่อนและบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม หรือเปล่าครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ในเมื่อ Google เลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาลต่อไปจึงถูกแบน ซึ่งก็คือความหมายของผมที่บอกว่า Google เลือกที่จะเดินออกมาเอง ก็ถูกตามข้อตกลงแต่แรกที่บอกว่าต้องเซ็นเซอร์ตามที่รัฐบาลบอกให้ทำ ในเมื่อทำไม่ได้ก็ต้องโดนแบน ผมว่ามันก็ถูกแล้วนะครับ จะบอกว่าเลือกปฏิบัติก็ไม่ได้ครับ เพราะบริษัท search engine ในประเทศอย่าง baidu ก็ต้องทำตามข้อตกลงของรัฐบาล ไม่ใช่ว่าจะได้สิทธิ์พิเศษอะไรกว่า หรืออย่างกรณีล่าสุดอย่าง apple ถ้าจีนบอกให้ลบแอพไหนก็ต้องลบตามไม่งั้นก็โดน ซึ่ง apple ยังยอมทำตามกฏของรัฐบาลก็ยังให้บริการได้อย่างไม่มีปัญหานิครับ
บอกว่าเลือกปฏิบัติได้ครับ เพราะ Facebook Google ไม่ใช่ App ของจีน เหมือนกับแอพอีกประมาณ 1 ล้านแอพ(จากทั้งหมด 2.2 ล้านแอพ) นอกจีนที่ไม่โดนแบน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
และถ้าลูกค้าเดินเข้าไปในร้านที่ไม่มีข้อกำหนด แล้วไม่ซื้อของแต่นั่งแจกใบปลิวร้านอื่น กรณีนี้ร้านควรจะทำอย่างไรครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ก็แล้วแต่ร้านสิครับ?
ย้ำอีกครั้งนะครับ สิ่งที่ผมยกมาเปรียบเปรย ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าข้อกำหนดหรือเหตุผลที่ใช้แบนคืออะไร ไม่ได้อยู่ที่ว่ามันสมเหตุสมผลหรือเปล่า ไม่ได้อยู่ที่ใครดีไม่ดีกว่ากัน
ประเด็นที่ผมจะสื่อคือเรื่องกระบวนการที่แต่ละร้านปฏิเสธลูกค้านั้นแตกต่างกันเท่านั้นเองครับ
จีนกหนดขอบเขตแต่แรกไม่ได้ก็อย่าเข้าประมานนั้น ส่วนอเมริกามากำหนดขอบเขตทีหลังแล้วใช้ย้อนหลังด้วยกับบริษัทที่เข้ามาลงทุนแล้ว แฟร์มั้งครับนั่น เห็นๆเลย ถ้ามองมุมนี้
+1 ครับ ไม่แฟร์มาก
แต่ประเด็นที่คุณพูดก็เป็นคนละประเด็นกับที่คุณ iqsk131 กล่าวนะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ก่อนอื่นต้องตีความหมายของคำว่าแบน
แบนคือ มีอยู่แล้วแต่ถูกห้าม ถูกยกเลิก
ใครว่าอเมริกาเป็นเมืองเสรี เป็นตลาดเสรี จะไม่ว่าสักคำถ้าระบอบการปกครองเหมือนจีน
คนอเมริกันที่เล่น TikTok รวมหัวกันจองบัตรเข้างานปราศัยของทรัมป์ แล้วไม่ไป ทำให้งานปราศัยของทรัมป์ล่ม เหตุผลแค่นี้ก็พอละ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
คนที่ไปอยู่อเมริกาคงต้องเริ่มหาวิธีเจาะแบนมาใช้
เหมือนกับ คนที่ไปอยู่ในจีนหาวิธีเจาะ great firewall แล้ว
ความเหมือนที่แตกต่าง ???
เจาะ great firewall นี้ติดคุกยาวเลยนะ
มันไม่ยากมากนะ มีโปรแกรมให้ใช้ฟรี (อเมริกาเป็นสปอน์เซอร์) ให้ออกมาเล่น FB ได้อะไรได้
ผมเคยใช้สมัยอยู่จีน
TOR ก็ออกมาได้แต่ช้ากว่ามาก
tiktok ก็แค่เปิดบ.แยกสาขา(ลงศูนย์ข้อมูล)เองในเมกาไม่ได้เหรอ ?
มันไม่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูล มันเกี่ยวกับรัฐบาลปักกิ่ง ต่อให้เก็บทุกอย่างในอเมริกา แต่หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนก็จะโดนหากเลขไปด้วย เอาเป็นว่าแค่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะโดนลากทุกๆอย่างลงมา
เหมือนต่อรองซื้อขายกัน แล้วเอาปืนวางบนโต๊ะ ถามว่าจะขายไหม จริงๆ ในไทยยุทธจักรการประมูลงานภาครัฐที่เป็นพวกรับเหมาก่อสร้างต่างจังหวัด ก็ประมาณนี้เหมือนกัน
ได้ยินมาเยอะเหมือนกัน
ประมาณ คุณประมูลงานชนะขาใหญ่ได้ แต่อาจไม่มีชีวิตรอดไปทำงาน
usa ทำตัวเหมือนตัวเองไม่เคยมีกรณี NSA Snowden เกิดขึ้น
หรือเพราะเข้าใจว่าตัวเองทำอะไรได้ เลยระแวงว่าคนอื่นจะทำเช่นกัน
แบนวีแชทนี้ อาจจะไม่ดีกับ เอเปิลนะ
รู้สึกว่าการแบนนี้จะมีอะไรมากกว่าที่เห็น
โดยเฉพาะ WeChat ที่ดูเหมือนคำสั่งจะแบนไปที่
Tencent บริษัทแม่ ซึ่งจะส่งผลวงกว้างมาก ๆ เพราะ tencent ถือหุ้นในบริษัทอเมริกันเยอะมาก ๆๆๆๆ ถ้าเกิดห้ามบริษัทสัญชาติเมกา
ทำการค้าขายกับ tencent นี่ผลกระทบหนักกว่า bytedance มากแน่ ๆ
ผมคิดว่าเป้าหมายงวดนี้ คือ FinTech ของจีนครับ
WePay/AliPay กำลังขยายตัวมาก ทำเอา Visa/Master กังวลมาก
ยิ่งถ้าคนใช้กันทั่วโลกจริงๆ อาจกระทบความมั่นคงของดอลล่าห์เลยทีเดียว
เพราะธุรกรรมทั่วโลกอาจเริ่มวิ่งเป็นเงินหยวน
ส่วนตัวเห็นด้วยกับการแบน App ใดๆ ของประเทศอื่นใด ที่มีการ
"เก็บข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากและเปิดทางให้รัฐบาลอื่นใด สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองของชาตินั้นๆ"
และการแบนต้องมีหลักฐานชัดเจน หรือมีกฎว่าด้วยห้ามการกระทำข้างต้นให้ชัดเจน
มันไม่ถูกต้องถ้ารัฐบาลชาติหนึ่งจะมานำข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองอีกชาติหนึ่งไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ก็เห็นด้วยครับ ถ้ามีหลักฐานน่ะนะ
ขอแค่มีหลักฐานให้น่าสงสัยได้ว่ามีการกระทำ แล้วสั่งว่าถ้าไม่ออกมาชี้แจงจะแบนใน 45 วัน ผมว่าความเห็นคงต่างจากตอนนี้มากเลยล่ะ
ทำอย่างงั้นมันผิดอยู่แล้วครับ แต่ Bytedance เขาก็ทำทุกอย่างให้ขาวสะอาดหมดแล้วเพื่อทำตลาดที่อเมริกา(และที่อื่น) แต่ต่อให้ทำยังไงๆตาทรัมป์ก็จะแบนอย่างเดียว ถามหาหลักฐานก็ไม่มีบอกแค่ไม่ไว้ใจๆแค่นั้น
แบนก็แบนไป เค้าทำสงครามกันอยู่ เดี๋ยว สหรัฐก็อาจจะเปิดตัวว่าหนุนไต้หวันเต็มที่
แต่ถ้าทุกประเทศทำแบบจีน ก็คงไม่มีใครเอาแอปมาให้เราใช้หรอก กลับไปอยู่ประเทศตัวเองกันหมด
อันธพาลโลกจริงๆ
ยุคก่อนนู้นนน = World War I & II
ยุคที่พึ่งผ่านมา = Cold War
ยุคนี้ = App War
เดี๋ยวจะมี Fin War คอยดูนะ
อันนี้ไม่ได้บีบคอแค่คนขายนะ เหมือนบีบคอคนซื้อด้วยอ่ะ