By: arjin 
on 14 August 2020 - 07:28
Tags:
กูเกิลตัดสินใจถอด Fortnite ออกจาก Play Store แล้วเช่นเดียวกับแอปเปิล หลังจากที่ Epic ได้ทำระบบจ่ายเงินขึ้นมาเองในเกม Fortnite บนมือถือ ซึ่งไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งในระบบ In-App ให้กูเกิล
ทั้งนี้กูเกิลออกแถลงการณ์ถึงเหตุผลด้วย โดยระบุว่าแอนดรอยด์เป็นระบบเปิด ที่นักพัฒนาสามารถเผยแพร่แอปได้หลายช่องทางในแต่ละ Store สำหรับนักพัฒนาเกมที่เลือก Play Store นั้น กูเกิลมีกฎที่เป็นธรรมต่อนักพัฒนาอยู่แล้ว และทำให้ผู้ใช้งานใช้ได้อย่างปลอดภัย กรณีของ Fortnite นั้น จึงต้องถอดแอปออกไปเพราะผิดข้อกำหนดการใช้งาน อย่างไรก็ตามกูเกิลจะเจรจากับ Epic เพื่อหาแนวทางนำเกมนี้กลับมา
เรื่องนี้อาจไม่เซอร์ไพรส์มากนัก เพราะแรกเริ่ม Epic ก็ตั้งใจไม่นำ Fortnite ลง Play Store อยู่แล้ว และให้ดาวน์โหลดตรงจากเว็บไซต์แทน แต่ก็เพิ่งมาเปลี่ยนใจเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และก็จบที่เกมนี้ถูกถอดจาก Play Store
ที่มา: 9to5Google
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
รอดูคลิปโฆษณาล้อแอนดรอยว่าเตรียมไว้ไหม
คิดว่าไม่ได้เตรียมมั้ง แต่จะรอดูว่าจะมีสาวก Fortnite มาถล่ม Apple & Google มั้ย หรืออาจจะเป็นผลสะท้อนกลับ ไปถล่ม Epic ซะเอง
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
คิดว่า ไม่ครับ ผมเล่น Fortnite บนแอนดรอยด์ ผมก็โหลด apk มาลงเอง ไม่ได้ผ่าน play store ไม่เดือดร้อนตราบใดที่เปิดให้ลงแบบทางเลือก แต่ที่ไม่เห็นด้วยกับแอปเปิ้ล(มานานแล้ว)คือ แอปเปิ้ลควรเปิดทางเลือกให้ผู้ใช้ลงแอปในเครื่องแบบทางเลือกได้แล้ว ลูกค้าจ่ายค่าเครื่องสามหมื่น-สี่หมื่น โดนกั๊กสเปคไม่พอ โดนกั๊กไม่ให้ลงแอปโดยวิธีอื่น ๆ นอกจาก App Store เพียงเพราะอ้างว่า เพื่อความเป็นตัวและความปลอดภัยของผู้บริโภค จริงๆ เหรอครับ? ถ้าเป็นพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแบบสปอยล์แบบนี้ ลูกคงจะทำอะไรไม่เป็นน่าดูนะครับ ปล่อยบ้างครับ ให้เขาเกิดการเรียนรู้
หรือผูกขาดครับ?
ผมคิดว่าคนที่จ่ายเงินสามสี่หมื่นเขาคงรู้ลิมิตตรงนี้ดีนะครับเลยยินดีที่จะจ่าย
ผมเห็นด้วยครับ ยินดีโดนกั๊ก
ไม่เห็นด้วยกับตรงนี้ทั้งหมดครับ 3-4 หมื่นคือหน้าตา UI ตัวเครื่อง ตามที่เขาโฆษณา บางทีข้อจำกัดก็จะมารู้หลังจากนั้น
ผมว่า comment นี้เป็นจริงแค่ผู้ใช้บางกลุ่มครับค่อนข้างมั่นใจว่าส่วนใหญ่ไม่รู้ข้อจำกัดตรงนี้ หลายๆยังไม่รู้จัก itune ด้วยซ้ำไป
คือกลุ่มพวกเราใน blognone อาจจะรู้ดีแต่ภาพรวมมันไม่ใช่อย่างนั้น
iTune เดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องรู้จักแล้วครับ บน Mac ก็ถอดไปหมดแล้ว
จริงๆ ผมว่าเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ (และไม่จำเป็นต้องรู้) นั่นแหละครับ ที่ทำให้ไม่มีผลต่อคนทั่วไป คนทั่วไปรู้แค่ว่าเป็นมือถือ ลง app จาก app store ได้ตามที่โฆษณาพอแล้ว มีแต่สายไอที หรือคนที่ชินกับการลงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์แหละครับที่จะคาดหวังลงแอพนอก store เรื่องหัก 30% ไรนี่ user ทั่วไปยิ่งไม่จำเป็นต้องรู้
ส่วนเรื่องฝั่งผู้พัฒนาก็ต้องสู้กันไปว่าเข้าข่ายผูกขาดหรือไม่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
คนซื้อ ios ก็มีเหตุผลอยู่ครับ อย่างระบบปกป้อง privacy, จำกัดสิทธิของแอปดีกว่า android มาก หรือการที่ ecosystem เชื่อมต่อกันได้ดีมาก เห็นด้วยตรงไม่น่าจำกัดให้ลงแอปแค่จาก store ทำให้ระบบจำกัดสิทธิแอปที่ดีนักหนาดูประโยชน์ลดลงไปเยอะเลย
จริงๆ คือเป็นเรื่องของระบบอย่างที่คุณว่าแหละ ครับ
พวกอคติมันจะชอบหาเรื่องแซะคนใช้ ios ว่าโง่ ดักดาน ชอบเหยียดคนใช้แอนดรอยด์ ติดแบรนด์ บลาๆ ในหัวพวกนี้คิดได้แค่นี้แหละ
+1
ผมดสียเงิน 3-4 หมึ่นแต่พอใจกับสิ่งที่ได้รับนะครับ รวมถึงคนรอบตัวผมแทบทุกคนที่ใช้งานด้วย ไม่เห็นมีใครบ่น แถม 3-4 หมึ่นนี่ผมว่าสเปกโดยเฉพาะ CPU GPU ไม่กั้กเลยนะครับ
บ เกมยังไงก็สู้ บ ที่ทำ economics แข็งแกร่งยาก
ต้องการพูดถึง ecology รึเปล่าครับ?
eco system หรือเปล่าฮะ
แหม่ ก็อยากลองพิมพ์ไทยคำอังกฤษคำบ้าง มันเท่ดี
ผมว่าการแซวคนที่ใช้ภาษาต่างประเทศปนไทยเป็นเรื่องที่ควรหมดไปจากสังคมได้แล้วนะครับ
ผมว่ามันไม่ได้เท่หรอกครับ ถ้าเราใช้คำผิด การสื่อสารก็ผิดตามไปด้วย ..เวลาเขียนบทความสำหรับผม เดี๋ยวนี้ผมจะพยายามลดการใช้คำที่มาจากภาษาต่างประเทศลง เพื่อให้คนไทยอ่านได้เข้าใจมากขึ้น (ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็จะเขียนอธิบายเอาไว้ว่ามันคืออะไร การเขียนให้คนส่วนมากเข้าใจ ดีกว่าเขียนให้คนไม่กี่คนไม่เข้าใจ สุดท้ายก็ต้องมาตามตอบให้คนที่สงสัยหรืออ่านไม่เข้าใจอยู่เรื่อยไป)
ฮาดีค่ะ
T_T
T-T
ก็มันผิด conditions ของทั้ง App Store และ Play Store นี่นา ถ้าไม่อยากโดนหักก็อย่าขึ้น Play Store เหมือนตอนแรก ส่วน App Store ก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะ ไปตีตลาดคน jailbreak ที่แทบไม่เหลือ
อยู่กับใครก็หัวหมอ
ปล่อยผ่าน Firebase App Distribution สิ ?
เอาจริงถ้าไม่โดนแบนจาก play store ตามมา
พวก apple-hater คงจะรุมด่าแอปเปิ้ลรัวๆ แต่ตอนนี้น่าจะกลับลำหลายครแล้ว
ผมมองว่ามันก็ปรกตินะ ระเบียบก็ตั้งมาไม่ได้support ทุกเคสที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว และต่างคนก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ตัวเอง (ของตัวเองอย่างเดียวหรือคำนึงส่วนรวมด้วยนั่นอีกเรื่อง)
มีอะไรก็คุยๆกัน