Windows 95 มีอายุครบ 25 ปีแล้วเมื่อวานนี้ (ออก 24 สิงหาคม 1995) ถือเป็นก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการสำหรับพีซี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดหลายอย่าง เช่น Start Menu, Task Bar, Recycled Bin ที่ยังใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
เนื่องในโอกาส Windows 95 ครบ 25 ปี ไมโครซอฟท์จึงทำคลิปฉลองมาให้ดูกัน
ที่มา - Microsoft
Comments
ภาพความทรงจำเก่าๆ สมัยนั้นลอยมาเลย ขอบคุณมากครับ
อธิบายคลิปกับข่าวได้ไหมครับ ว่าสัมพันธ์กันอย่างไร ผมอยากอินบ้าง 55 (สมัย windows 95 ออก ผม 5 ขวบเองง่ะ)
95 แผ่นเต็ม มี MV นี้เป็นไฟล์ GOODTIME.AVI ในโฟลเดอร์ FUNSTUFF\VIDEOS ครับ
ถ้าใครได้แผ่นติดตั้งวินโดวส์ 95 แผ่นเต็ม ในนั้นจะมีคลิปเพลงนี้อยู่ครับ ลองอ่านคอมเม้นในคลิปนี้ได้ ทุกคนที่ฟังจะคิดถึงวินโดวส์ 95 ครับ
ในวิดีโอนี่ข้าม 98,2000,vista,8 ไปเลย สมเป็น Windows Flip-flop จริงๆ
[S]
2000, 98 ผมว่าหน้าตามันก็ไม่ต่างกับ 95 มากนะครับ ทำไปอาจจะดูไม่ transition แรงๆ
เช่นเดียวกับ vista -> 7
แต่ 8 นี่ข้ามจริงจัง เพราะ start menu มันเป็น start screen ไม่เหมือนชาวบ้าน
Windows ที่ flop น่าจะ ME มากกว่านะครับ 98 นี่ดีและแพร่หลายอยู่
ME นี่ของจริงของความห่วยของ Windows ส่วน Vista มันเป็นเพราะมันเปลี่ยนแปลงเยอะจนหลายๆ อย่างตามไม่ทัน แต่พอหลายๆ อย่างที่ว่ามันตามทันก็ดีไม่ต่างจาก 7 เลยครับ
เพื่อนผมเคยให้ชื่อเต็มของ ME ว่า maximum Error ครับ ช่วงนั้นนั้น window vista กำลังจะมาแล้ว ตอนแรกรู้จกกันในชื่อ Windows longhorn
98 นี้ใช้ดีอยู่ครับ กว่าจะทำใจเปลี่ยนเป็น xp นานพอตัว
Windows 2000 คือ Windows Server ครับ
สำหรับ Gen นั้น สาย Workstation คือ Windows Me ครับ
สำหรับผม ตอนนั้นผมมองที่ Kernel เป็นจุดเปลี่ยนครับ ในวงการผมยุคนั้น เรามองมุมนี้ครับ
Me คือตัวสุดท้ายที่ยังเป็น DOS Kernel ครับ
2000 เป็นตัวแรกที่ย้ายไปใช้ NT Kernel ครับ
จุดแตกต่างอย่างมากในการพัฒนางานบน 2 ตัวนี้คือ Multitask จริงกับเทียมครับ (NT เป็น Multitask จริง) ซึ่งในการควบคุมในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น เราไม่สามารถใช้ OS อย่าง DOS ซึ่งทำได้แค่ Timer และ Interrupt มาทำงานได้ ความผิดพลาดอาจถึงกับเกิดความเสียหายอย่างตีมูลค่าไม่ได้ (ยุคนั้นยังไม่ Multithread)
Windows ก่อนหน้า 2000 แยกเป็น 2 สายคือ Windows บน DOS Kernel และ Windows NT ชัดเจน
ในระบบควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมขณะนั้นก็แยกออกเป็น 2 สายชัดเจนคือ ส่วนที่ดึงข้อมูลจาก PLC Register มาเก็บใน Database จะใช้ Windows NT กัน เพราะมั่นใจในเสถียรภาพของ NT Kernel มากกว่า DOS และสำหรับการเขียนข้อมูลกลับไปใน Register ก็ทำได้แบบ Multitask จึงลงไป involve ได้ถึงระดับ Process control
ส่วนที่เป็น HMI (Human Machine Interface) จะใช้ Windows 3.11 for WorkGroup กัน เพราะการควบคุม (ส่งค่าไปยัง PLC Register) ร่วมกันเป็น Network Terminal ผ่าน IPX/SPX และ NetBUEI ทำได้ดีกว่า Windows NT มาก
พอ Windows XP ออกมา ก็ทำให้เริ่มเสียตลาดในวงการอุตสาหกรรมไปครับ เปิดโอกาสให้ *NIX ยึดตลาดได้มากขึ้น ซึ่งขณะนั้น Linux กำลังตั้งไข่พอดี
Timeline ไม่แม่นเป๊ะนะครับ ถือว่าอ่านนิทานปรัมปราก็แล้วกันครับ
Win95 ไม่ได้ทำงานผ่าน DOS ครับ
เพียงแต่ว่า DOS Kernel ยังอยู่ใน memory และจากนั้น DOS Kernel ก็โยนมาให้ Win95 kernel ทำงานแทนไปแล้ว
ไม่อธิบายนะครับ เรื่องยาวไปสำหรับ "เวลาพิมพ์" ที่ผมมีตอนนี้
ผมไม่ได้บอกว่า "ทำงานผ่าน DOS" นะครับ อ่านดีๆ ไม่มีเลย
แต่ Me ย้อนขึ้นไปทำ multitasking จริงไม่ได้เพราะ DOS ครับ
เรื่องการจัดการ Memory ทั้ง UMB (EMS/XMS) ตลอดจนการ swap page ยังต้องใช้ device driver ที่ทำงานเสมือน BIOS ที่เป็น Single task ตั้งแต่ตอน DOS boot ครับ
อืมมม์... เรื่องยาวนะเนี่ย... ก็อยากถ่ายทอด แต่ตอนนี้เวลาไม่พอครับ
ถ้าผมจะสรุปให้สั้นก็จะได้ว่า DOS ตอนนั้นสร้างขีดจำกัดให้ PC ติดอยู่ที่ 16 bit นั่นเอง
ผมพยายาม Google หาที่คนอื่นอธิบายไว้แล้วก็ได้ตามนี้นะครับ
https://www.uwe-sieber.de/umbpci_e.html
เมื่อเป็น NT Kernel เต็มตัว ทุกอย่างก็เข้าสู่ 32 bit ได้ รวมทั้ง Multitask และ Multiple processor ด้วยครับ
คุณพิมพ์ว่า DOS Kernel ครับ
Kernel ตั้งแต่ Windows 95 เป็น 32bit แท้ ไม่เกี่ยวกับ DOS ครับ แต่ Driver/Userland ยังมีส่วนที่เป็น 16bit (อ้างอิง: https://devblogs.microsoft.com/oldnewthing/20071224-00/?p=24063)
ส่วนการใช้งานจริงไม่เถียง แต่ Windows 95/98/Me ไม่ใช่ DOS Kernel แน่ๆ
ผมพิมพ์ว่า "DOS Kernel" ครับ แต่ไม่ได้พิมพ์ว่า "ทำงานผ่าน DOS" นะครับ ย้ำ!!! "ทำงานผ่าน" !!! (ทำไมเห็นแต่คำนามที่ว่า DOS Kernel กันครับเนี่ย? คุณอ่านแล้วคิดอะไรกันอยู่?)
อ่านทำความเข้าใจที่ผมเล่าให้ดีครับ ทั้งหมดที่ผมเล่าหมายความประมาณนี้
โลกยุคนั้น MS DOS ครองโลกซึ่งทำให้เกิดข้อจำกัดที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ PC ทั้งหมดตั้งแต่ CPU ขึ้นมาเลยต้อง Support ไว้ พอ NT Kernel มาครองโลกแทน ก็เป็นการปลดล็อคทุกอย่างออกไป
ผมไม่มีเวลาพิมพ์เยอะ แต่ในความคิดเห็นของผมทั้งหมด ไม่มีที่ว่า "ทำงานผ่าน"
แต่ที่มีก็คือ "...DOS ตอนนั้นสร้างขีดจำกัดให้ PC..."
Windows 95 เป็น 32 bit แท้จริง แต่มันติดที่ตัว Architecture ตั้งแต่ตอน Boot ต้องเริ่มที่ OS ที่ไปได้แค่ A20
สมัยนั้น แม้แต่เกมส์อย่าง DOOM ก็ยังต้องทำ Protect mode kernel ของตัวเองเพื่อรันเกมครับ (เกมอื่นมีอีก แต่จำเกมนี้เพราะเคย Re-engineering เขาเพื่อการศึกษา)
และที่ติดหนักๆ เลยคืิอ มันไม่ได้เป็น Multitasking จริงครับ ยังจำอารมณ์ที่เวลาคุณ Access อุปกรณ์จำพวก Floppy disk หรือ CD-ROM ได้ไหมครับ ที่ทำให้ทั้งระบบ Freeze ไปชั่วขณะนอกจาก Mouse cursor (ซึ่งทำงานด้วย Interrupt).... ฯลฯ เฮ้อ... ก็อยากอธิบายร่ายลงลึกไปกว่านี้นะ....
การทำงานเป็น 32 bit มันก็ไม่ได้มีความหมายเดียว (เรื่องเดียว) นอกจากการอ้างถึงขนาด Register, Int และ Floating point แล้ว มันยังหมายถึง Address และ Mnemonic table ด้วยนะครับ (ก็ขนาด NT Kernel เอง ตอนมาถึง XP ก็ยังติด Maximum memory support ที่ 3GB)
ขอให้ทำความเข้าใจคอมเม้นท์ผมหน่อยครับ ผมอาจจะสื่อไม่ได้ดั่งใจตัวผมเองนัก เพราะไม่ได้สะดวกพิมพ์ยาวๆ ก็ต้องขออภัย
ขอบคุณครับ
เดี๋ยวก่อนครับ ต้องเป็น Windows 2000 Professional หรือเปล่าครับ ที่เป็น Workstation เต็มตัว
Windows ME จัดเป็น Household OS ครับ ไม่ใช่สาย Workstation
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Windows อื่นๆเหมือนเป็นแค่ Minor ครับ เพราะสังเกตจะมีที่ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแค่ไม่กี่รุ่นที่ฮิตติดลมบนจริงๆชนิดที่ใช้ยาวนานเกิน 10 ปี อย่าง Windows 95 ก็เป็น Major มาจาก 3.X ที่จริงๆแล้วกว่าจะรู้จักก็น่าจะเป็น 98 มากกว่า เพียงแต่ 95 เป็นตัวแรกที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบครั้งใหญ่ แล้วก็มา 2000, Me ที่เป็นตัวรอง มาเกิดอีกทีก็ XP ที่ใช้กันมาสิบกว่าปี และระหว่างนั้นก็มี Project Longhorn ที่ภายหลังพัฒนามาเป็น Vista แต่สเป็คคอมสมัยนั้นยังไม่เอื้อเท่าไหร่เลยไม่ค่อยมีใครใช้ เพราะหนักเครื่อง มานิยมกันจริงๆก็ Windows 7 จนจอสัมผัสเริ่มเข้ามามีบทบาท ก็เลยเกิิด Windows 8 ขึ้นมา แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะการใช้งานกำๆกึ่งๆสเปะสปะพอสมควรครับ จะทัชก็ไม่สะดวก จะใช้เมาส์ก็ลาก UI เหลือเกิน แค่กด Start ก็ต้องเลื่อนเมาส์ทั้งจอเพื่อเข้าโปรแกรม ปุ่ม Start ก็ไม่มี ใครไม่เคยใช้มาก่อนงงเป็นไก่ตาแตก เลยออก Windows 8.1 มากู้หน้า แต่ก็เหมือนจะไม่ช่วย เพราะแค่เพิ่มปุ่ม Start กับฟังชั่นนิดๆหน่อยๆ กด Start ก็โผล่มาเต็มจอเหมือนเดิม จนท้ายสุดแล้วมาถึง Windows 10 ถึงจะลงตัวแล้วใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
ผมว่าคนก็คงไม่ค่อยอยากเปลี่ยนหรอกครับถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่สภาพแวดล้อมบังคับให้เปลี่ยนครับ เพราะถ้าไม่เปลี่ยนก็จะใช้ระบบต่อไปไม่ได้ อย่างตอนนี้ Windows 7 ก็เริ่มจะโดนลอยแพแล้ว XP ไม่ต้องพูดถึง ถ้าคอมต่อเนตก็ไม่มีใครใช้แล้ว ที่ใช้อยู่ผมเห็นแค่ลุงร้านค้าหน้าปากซอย เพราะไม่ได้ต่อเนต ใช้คิดตังอย่างเดียว 95/98 เห็นเเครื่องจักรในโรงงานยังใช้กันอยู่ เพราะ Windows ใหม่ๆมันไม่มี Driver และสุดท้ายใครจะรู้ว่า รถไฟฟ้า MRT รุ่นแรก และ BTS รุ่นแรกที่เป็นขบวนรถของ Siemens ยังใช้ Windows 3.1 ควบคุมระบบของขบวนรถอยู่เลยนะครับ
หัวข้อ Window -> Windows ครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
คลิปดักแก่ โชคดีทันตอนวินโดว์ 3.1
แก่กว่า :)
Windows แรกที่ได้ใช้ ก็ 95 เนี่ยแหละ
HBD
ทำไมไอค่อนในคลิปถึงแสดงไอค่อนถังขยะ
ในคลิปเค้าแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ ว่าจาก Win 95 - Win 10 อะไรมันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง แล้วก็ดึงสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Windows ออกมา ซึ่ง Recycle Bin ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีการปรับรูป icon ตลอด และทั้งคลิปก็ไม่ได้มีแต่ Recycle Bin อ่ะครับ เปิดมาก็ปุ่ม Start แล้ว
มีคนใช้อยู่ปะ
น่าจะแสดงวิวัฒนาการจอฟ้าด้วยยย
คิดเหมือนกันครับว่าน่าจะแอบใส่มุกจอฟ้ามาด้วย ออกแนวกัดตัวเองขำๆ ให้แฟนๆ ได้อมยิ้มหน่อย
มี Theme Sound แบบนั้นมาใส่กับ Windows 10 ไหมเนี่ย
ยังจำหน้า setup คีย์บอร์ดสีน้ำเงินได้อยู่ 5555
iPAtS
อ่า~~~เกิดไม่ทันเกิดมาก็เจอWindows10ละ:P
เป็น Windows แรกที่ได้ใช้งาน แหะๆ
..: เรื่อยไป
ได้เห็นมันครั้งแรก ในรายการ บ้านเลขที่ ๕
โชว์การทำงานของโปรแกรม Paint
รายการบ้านเลขที่ ๕ พูดแล้วนึกถึงเลย