Facebook เตรียมจะเปิดฟีเจอร์จัดอีเวนท์แบบจ่ายเงินสำหรับภาคธุรกิจ ในช่วง COVID-19 โดยก่อนหน้านี้ Facebook เคยพยายามร้องขอ Apple เรื่องลดหรือละเว้นค่าธรรมเนียม 30% แต่ถูกปฏิเสธ
ล่าสุด Facebook เปิดเผยว่าถูก Apple ห้ามชี้แจงกับผู้ใช้งานว่าถูกเก็บค่าธรรมเนียม 30% โดย Apple อ้างกฎของ App Store ว่าห้ามระบุข้อมูลที่ "ไม่เกี่ยวข้อง" กับผู้ใช้งานในแอป ขณะที่จุดประสงค์ของ Facebook ก็เพื่อต้องการให้ผู้ใช้งานหรือภาคธุรกิจรับรู้ว่าเงินที่จ่ายหรือได้รับผ่านฟีเจอร์ข้างต้น หายไปไหนและต้องผ่านอะไรบ้าง
ในทางตรงกันข้าม Reuters ค้นพบว่าฟีเจอร์นี้ของ Facebook ไม่ถูกเก็บค่าธรรมเนียม 30% บน Play Store แต่ก็ไม่ได้มีการระบุเอาไว้เช่นกัน
ที่มา - Reuters
รูปที่ Facebook ใช้ส่งคำร้องไปยัง Apple เพื่อขอให้เว้นค่าธรรมเนียม
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
รูปประกอบมันคือบอกอะไรหรอครับ เห็นเก็บตังเท่ากัน
ความแตกต่างส่วน description ใต้ปุ่มว่า บน iOS มีชาร์จเพิ่มครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มีกฏ ห้ามระบุด้วยอีกเหรอนั้น
เตรีรยม -> เตรียม
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
แล้ว 30% ของ Play store เข้าเป๋าใคร
เข้าใจว่าไม่ถูกเก็บ แต่ภาพประกอบมันราคาเท่ากัน เลยสงสัยว่าไม่เก็บ แต่ทำไมราคายังเท่ากัน
คาดว่าเค้าคงถามว่า 30% นั้นไปไหน
“We asked Apple to reduce its 30% App Store tax or allow us to offer Facebook Pay so we could absorb all costs for businesses struggling during COVID-19,” said Fidji Simo, the head of the Facebook app in a blog post. “Unfortunately, they dismissed both our requests and SMBs will only be paid 70% of their hard-earned revenue.”
https://www.cnbc.com/2020/08/14/facebook-says-apple-refused-to-waive-30percent-fee-on-new-feature.html
ผมอ่านแล้วยังงงอยู่เลย คือมันตอบคำถามจริงๆใช่มะ ถ้าใช่ผมก็คงอ่านไม่ได้ความเอง /:
สมมติตั๋ว Live Event 1000 บาท
ถ้า user กดซื้อจาก android/web ทางฝั่ง Organizer จะได้เงิน 1000 บาท facebook ไม่เก็บอะไร
แต่ถ้า user กดซื้อจาก ios ทางฝั่ง Organizer จะได้เงิน 700 บาทครับ (Apple หัก 30%)
อ่อ ขอบคุณครับ
ถ้าให้ผมเดา ...
ซื้อบน iOS เงิน 30% เข้าแอปเปิ้ล ที่เหลือ 70 เข้าคนขาย เฟซบุ๊คไม่เก็บ (ใน screenshot เขียนไว้)
ซื้อผ่าน Android เงินเข้าคนขายหมด
และคนขายตั้งราคาขายแยกตามแพลตฟอร์มไม่ได้ครับ
ควรทำแบบ youtube ถ้าคนละ platform ก็คนละราคา
เกมพลิกตรง Play store นี่ล่ะ
เจอข่าวแบบนี้ไม่รู้จะอยู่ฝั่งไหนดี หุ้นก็ถือ มือถือก็ใช้
คิดเล่นๆนะ Epic (Fornite) Microsoft (Xcloud) Google (Stedia) ลงขันกันทำ AD ประมาณว่า There is no app on that ช่วง iphone13 เปิดตัว
ยิ่งถ้า Google / Facebook เล่นแรง ถอด Youtube / Facebook ออกจาก ios คงน่าสนุกน่าดู
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ที่ fb ออกมาบอกได้เพราะหัวข้อข่าวบอกไว้ว่า "ห้ามไม่ให้" = ทำได้ สินะ
ห้ามในแอปจ้า อ่านดีๆ เด้อ เลยรีบออกมาบอก
แอบรู้สึกว่า . . . เกินไปหน่อย ถ้าเกิด content แบบนี้ยังเก็บ %
Play store ไม่ได้เก็บอะไรเลยหรือ Facebook ไม่แสดง%หว่า
มันหมายถึงข้อความตัวน้อยๆที่บอกว่า เฟสบุกไม่ได้รับส่วนแบ่ง 30% / แอปเปิลได้รับส่วนแบ่ง 30% ไม่ใช่หรอ
ไม่ใช่ครับ
“We asked Apple to reduce its 30% App Store tax or allow us to offer Facebook Pay so we could absorb all costs for businesses struggling during COVID-19,” said Fidji Simo, the head of the Facebook app in a blog post. “Unfortunately, they dismissed both our requests and SMBs will only be paid 70% of their hard-earned revenue.”
“When people are paying $20 for a paid online event and they assume that the $20 is all going to the local business they’re trying to support -- when 30% is going to an almost $2 trillion company, that’s relevant information for people to have,” Simo said on a press call. “We felt this was an important thing to call out.”
https://www.cnbc.com/2020/08/14/facebook-says-apple-refused-to-waive-30percent-fee-on-new-feature.html
จะไม่รวยได้ไงน้า รีดต่อไปอึ๊บๆ
ถ้าไม่ติดนโยบายห้ามไว้ จริงๆ ผู้ให้บริการรายใหญ่ควรประชดด้วยการโชว์นะ
คือพอแบบเนี่ย คนเข้าข้างแอปเปิ้ลเยอะ (ไปใช้แพลตฟอร์มเค้า ก็ต้องจ่ายสิ) เพราะราคาของเท่ากันทุกแพลตฟอร์ม คือการรวมราคาแบบ Inclusive ทำให้คนคิดว่าผู้ให้บริการรับผิดชอบส่วนแบ่ง แต่ความจริงมันก็โยนมาให้ผู้บริโภค (และยังมีดีลกันลับๆ บางรายอ้างว่า 30 แต่ได้ดีลก็มี)
สู้เอาแบบชัดๆ (เช่น แบบ eventpop)
พอกดจ่ายตังหรือจะซื้อเสร็จ ขึ้นสรุปมาเลย
Item Cost 8.2$
Apple Fee 2.46$
GST 1.066$
NET 11.726$
เทียบกับแบบเดิม
11.726$
หรือถ้าไม่โชว์ที่นี่ ก็ไปแจ้งที่อื่นว่าเท่าไร แล้วตั้งราคาให้ไม่เท่ากันไปเลย
เห็นแจกแจงตัวเลข คนจะได้รู้สึกว่าจริงๆก็คือโดนผลักมานั่นแหล่ะ
โมเดล inclusive price มันทำให้รู้สึกเหมือนมีคนแบกแทนแค่นั้นเลย
แล้วจริงๆเรื่องนี้แก้กันในระดับนโยบายรัฐได้ (ของเมกาอ่ะนะ ถ้าจะมีคนไปทางนี้)
คือทำให้มันโชว์ พอโชว์แล้วคนเห็นว่าเยอะ ผู้บริโภคจะเริ่มรู้สึกได้เองว่า 11.726
เป็นราคาที่แพง 555
+1 วิธีนี้แฟร์ๆสุด
+1 เห็นด้วยกับแนวทางนี้เลยครับ
ผมนึกเล่น ๆ ถ้าแอปในสโตร์พร้อมใจกันโชว์การหักส่วนแบ่งในแอป จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป