Epic Games ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อศาล ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองการแบนเกม Fortnite ออกจาก App Store หลังจากก่อนหน้านี้ศาลคุ้มครองเฉพาะ Unreal Engine แต่ไม่คุ้มครอง Fortnite
ประเด็นสำคัญที่ Epic นำเสนอคือบริษัทและลูกค้า "ได้รับความเสียหาย" จากการแบนของแอปเปิล พร้อมเผยสถิติว่าปัจจุบัน Fortnite มีผู้เล่นที่ลงทะเบียนทั้งหมด 350 ล้านคน โดย iOS เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้เล่นเยอะที่สุด 116 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้เล่น 63% ที่เล่นเฉพาะบน iOS อย่างเดียวเท่านั้น ไม่เล่นบนแพลตฟอร์มอื่น
แต่จากการแบนของแอปเปิลทำให้ผู้เล่นต่อวันของ iOS หายไปมากกว่า 60% ซึ่งส่งผลกระทบให้ผู้เล่นบนแพลตฟอร์มอื่นๆ หายไปด้วย เพราะไม่สามารถเล่นร่วมกับเพื่อนได้
สถิติที่น่าสนใจอีกตัวคือ Epic ระบุว่าหลังเปิดระบบจ่ายเงินของตัวเอง เป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 11 วันก่อนโดนแบน พบว่าผู้เล่น 53.4% เลือกจ่ายเงินผ่าน Epic ในขณะที่อีก 46.6% ยังคงใช้ระบบ in-app purchase ของแอปเปิลต่อไป ถือเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าตลาดต้องการระบบจ่ายเงินทางเลือก
ศาลมีนัดคู่กรณีไปเจอกันในวันที่ 28 กันยายนนี้
ที่มา - Epic Games (PDF), Kotaku, The Verge
Comments
เห็นข่าวนี้ก็อดขำไม่ได้ แม้ลึกๆจะเชียร์ให้ epic เปลี่ยนแปลงสำเร็จก็เถอะ
+1 ผมคิดว่าน่าจะสำเร็จเกิดความเปลี่ยนแปลงในระดับนึงดูจากความเล่นใหญ่ งานนี้ต้องรอดูในศาลว่าแต่ละฝ่ายจะยกเหตุผลอะไรมาบ้าง
ขำตรงไหนหรือครับ ทำตัวเองอย่างนี้เหรอ?
epic ยอมเจ็บวันนี้ เพื่อวันข้างหน้า
แต่ถ้าแพ้ เจ็บยาวๆ เพราะจะโดนเกมใหม่ขึ้นมาแทน
แล้ว epic คงคิดว่า รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้...
มาขนาดนี้แล้วไม่น่ายอมอ่อนข้อนะเพราะตั้งใจผิดกฏ แทนที่จะฟ้องให้คุ้มครองแค่เกมเดียวสู้ฟ้องผูกขาดตลาดเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองไปเลยดีกว่า น่าจะมี backed แบบเงียบๆหลายฝ่าย
จริงๆแพ้ตั้งแต่ประตูแรกแล้วนะผมว่าก็มันเป็นข้อตกลงตั้งแต่เซ็นแล้ว
รู้สึกว่าถึงแม้จะเซ็นต์ไปแล้วแต่ถ้าสัญญามีความไม่เป็นธรรมเกิดเรื่องฟ้องร้องกัน ให้ศาลตัดสินก็สามารถยกเลิกหรือแก้ไขสัญญาได้นะครับ ไม่ใช่ว่าถ้าเซ็นต์สัญญาแล้วจะทำอะไรก็ได้ ผมว่าฝั่ง EPIC ก็คงเตรียมตัวมาแล้วแหละครับว่ามันอาจจะมีโอกาสชนะ
ถ้า EPIC คิดขนาดนั้น แล้วจงใจเอาลูกค้าตัวเองเป็นตัวประกัน ผมขอยกนิ้วกลางให้ EPIC
ในใจก็อยากให้ Apple ลงมาคุยเรื่องสัญญาที่เป็นธรรมกันสักที จะได้เป็นบรรทัดฐานให้ store อื่นๆ ไอ้ตัวเลข 30% ว่ากันตามตรงมันมีมาตั้งแต่ยุคก่อนจะมีอินเทอร์เน็ตซะด้วยซ้ำ......
มีการแก้สัญญาเหรอคับ. ถ้าไม่เป็นธรรม ทำไมไม่แก้ แต่กลับไปเซ็นตั้งแต่แรก
เพราะตอนแรกอาจจะเป็นธรรมแต่เวลาผ่านไปอาจจะไม่เป็นธรรมก็ได้ครับ อย่างเช่นกรณีของ Spotify ที่ Apple อาศัยความได้เปรียบที่ตัวเองไม่ต้องจ่าย 30% ครับ ก็ฟ้องร้องกันไป
มันมีเรื่องข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรมอยู่ด้วยครับ หมายถึงถ้าศาลตีความออกมาเป็นแบบนั้นนะ
ก็สมควรนะ คิดว่าตัวเองมีฐานผู้เล่นเยอะ เลยจะงัดกับ Apple เพื่อผลประโยชน์ตัวเองเรื่องเงิน คือคนใช้ iOS ทุกคนไม่ได้เล่น Fortnite นะ พอโดนจัง ๆ กับตัวเลยดิ้นใหญ่
เซ็นสัญญายอมรับเอง
เก็บเงินจากผู้เล่น,เด็กด้วยวิธีสารพัดของล่อใจ
พอตกผู้เล่นมาได้เยอะ
ก็ฉีกสัญญาทิ้งเอาผู้เล่นมาเป็นตัวประกัน
จ้ะ
ผมว่าจริงๆ Apple ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ด้วยถึงเม็ดเงินจะเยอะแต่ก็เศษๆส่วนเล็กๆเลยด้วยซ้ำแต่ที่ทำเพราะกฏมันมีอยู่แล้วเซ็นยอมรับไปตั้งแต่แรกแล้วถ้าผิดมาก็ต้องโดน
อยากได้ต้องทำเอง ออกมือถือมาชนกับ iphone ไปเลย!
ตลก ตัวเอง violated สัญญาเอง เพื่ออะไรไม่รู้ agenda ต้องการสู้เพื่อทุกคน หรือ hidden agenda เพื่อเงิน หรืออะไรทั้งหลาย แต่ฟ้องเขา จะสู้ในศาลกับจำเลย แต่ขออำนาจศาลให้คุ้มครองสิ่งที่ตัวเองละเมิดสัญญากับจำเลย เพราะเสียรายได้ ทั้ง ๆ ที้ศาลก็ให้รายละเอียดเบื้องต้นไปแล้วว่าเธอผิดสัญญาเองนะจ๊ะ
ถ้า Epic อยู่นิ่ง ๆ ทำตัวมีอุดมการณ์ก็จะน่าเห็นใจอยู่หรอก นี่เห็นชัดๆเลยว่าสู้กับยักษ์ใหญ่เพื่ออะไร เพื่อใคร ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ users
Gamerอยู่เฉยๆนานๆไม่ได้
1. ผู้เล่นน่าจะย้ายไปเกมอื่นแทน หรือ 2. ย้ายไปเล่นfortniteต่อบนplatformอื่น
ดูทรงแล้วแสดงว่าเป็นแบบที่1ซะเยอะ..แล้วเยอะกว่าที่คาดไว้มาก
แบบที่สองในไทยก็มีนะครับ เห็นวันก่อนในกลุ่ม iPhone มีคนมองหา Note 20 มาใช้แทน iPhone เพื่อเล่น Fortnite ผมก็แนะนำไปว่าอย่าเล่นรุ่นศูนย์ไทยเพราะซีพียูกากเกินทน (Exynos) ให้ไปเล่นเครื่องนอกที่ใช้ Snapdragon หรือรอเล่นบน Galaxy Tab S7 ยังจะดีกว่าครับ แม้จะเป็นส่วนน้อยก็ตาม
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
บีบแบบนี้ไม่ค่อยโอ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
คงจะคิดว่าถ้าโดนถอนเดี๋ยวคนเล่นจะตามไปเอง ปรากฏว่าไม่จ้าาาา 60% หายไปเลยยยย Who’s care...
Who's care... => Who cares...
เปลี่ยนเกม ง่ายกว่าเปลี่ยนมือถือ
อยากใหญ่ ใจต้องนิ่งสิ กระทบแค่นี้โวยวายต่อไปจะทำอะไรได้?
เห็นได้ชัดว่ายังไงแค่เกมส์สำหรับคนส่วนมากมันไม่คุ้มพอที่จะเปลี่ยนระบบos เกมส์มันก็เล่นได้นั้นแต่ ระบบiosเป็นอะไรที่มากกว่ากว่าเกมส์เยอะ ใช้ในเรื่องการเงินหรืองาน epic คงคิดว่าเกมส์คือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนมั้ง
ซวยแล้ว
หลายๆคนซ้ำเติมEpic แต่ผมกลับชื่นชมที่กล้าออกมาสู้ แล้วถ้าชนะคดีผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับคนใช้ไอโฟนเนี่ยแหละเพราะจะได้จ่ายเงินซื้อแอพหรือเกมส์ในราคาที่ถูกลง
แน่ใจว่าจะถูกลง?
ระยะยาวยังไงก็ถูกลงครับ
แรกๆพวกแอปเจ้าตลาดก็คงจะยึดราคาเดิมฟันกำไรมากขึ้น
แต่หลังจากนั้นแอปคู่แข่งก็จะมาปรับราคาถูกลง(หรือมอบผลประโยชน์ให้ผู้ใช้มากขึ้น)เพื่อดึงลูกค้ามากขึ้น
ถึงตอนนั้นเจ้าตลาดทั้งหลายก็ต้องขยับตัวไม่งั้นก็โดนแย่งตลาดไปหมดครับ
กรณีนี้ คู่แข่ง fortnite คือใคร ค่ายไหนเหรอครับ ที่จะทำให้ in app ถูกลงได้
ไม่ใช่ว่าเป็นแค่การเปลี่ยนจากซื้อใน app store/play store ไปซื้อกับ epic เองเจ้าเดียวเหรอครับ แล้วถ้าเหลือการเติมแค่กับ epic วันดีคืนดี อยากขึ้นราคาทำไงอ่ะ. มีอะไรการันตีว่าจะถูกลงๆ เรื่อยๆ
คนจริงมักซื้อแล้วได้กำไรตั้งแต่ครั้งแรกนะ
กล้าสู้ก็ถูกครับ แต่การกระทำนี่ดูงอแงเกิน ตอนแรกจะงัดเต็มที่ เตรียม vdo มาอย่างดีถ้าโดนถอนออก มาตอนนี้งอแงฟ้องศาลช่วยอย่าให้เอาออก
อีกอย่างครับ มี store ทางเลือกใช่ว่าจะถูกลง ฝั่งที่ได้หลักๆคือนักพัฒนาที่ลูกค้าจ่ายเท่ากันจาก 2 store แต่นักพัฒนาโดนหักส่วนแบ่งมากน้อยต่างกันครับ
ยกเว้น EPIC จะทำแบบ EGS ที่แจกๆๆๆๆ ทั้งเกม ทั้งคูปองในช่วงแรกๆเพื่อเรียกฐานลูกค้า
มองในทาง business ไม่ได้ทำเพราะลูกค้าหรอกครับอยากได้ส่วนแบ่งเพิ่มแค่นั้นแหละ
ทุกคนต้องคิดถึงตัวเองอยู่แล้วครับไม่เห็นจะผิดตรงไหน fortnite จะลดลงตามไหมไม่รู้แต่คนใช้ไอโฟนไม่ได้มีแค่คนเล่นforniteนะครับ ยังไงก็มีแอพอีกหลายหมวดที่ราคาถูกลง
เดี๋ยวก็มีเกมอื่นเปิดตัวรัวๆ
สงสัยว่า ถ้าทำระบบ ต่ายเงินเอง แต่ ไม่ได้มาประกาศ ให้เห็นบน แพลตฟอร์ม คือให้เจ้าไปจ่ายเติมเงินเองในเว็บ จะโดนแบนไหม
ถ้าเป็นเกมโดนครับ แต่ถ้าเป็นบริหารภายนอกappอยู่แล้วจะไม่โดน
เหมือนจะพยายามปั้นตัวเลขให้ดูเยอะทั้งที่จริงแล้วผู้เล่นลดไป 20% เท่านั้น ป.ล. "หลักฐานบ่งชี้ว่าตลาดต้องการระบบจ่ายเงินทางเลือก" ลูกค้าเลือกจ่ายเพราะมันถูกกว่าไม่ใช่เพราะมีทางเลือกเพิ่มถ้าตั้งราคาเท่ากันแล้วคนกดเยอะค่อยเอามาอ้างอิงเหอะ....
จ๋มม ^_^
ผมเห็นด้วยกับ Epic ในการฟ้อง Apple กรณีผูกขาด
ถ้า iOS มีมากกว่า 1 store, วันข้างหน้า App Store อยากจะทำอะไร กำหนดกติกายังไง ก็เอาที่พี่สบายใจเลย เพราะคนไม่พอใจก็ยังย้ายไป store ทางเลือกอื่นได้
แต่เรื่องคุ้มครอง Fortnite ก็เป็นอีกเรื่องนึง ผิดกติกา App Store โดยตรง ก็ต้องรับกรรมกันไป
แปลกดี ยอดซื้อผ่าน epic ถือว่าน้อยนะ เทียบกับว่ามันถูกกว่า
และ Epic ทำตัวเองด้วยเองเหมือนกัน มาแบน ios user กลับ
ถ้า ios user ยังคงเข้าเกมได้อยู่ก็อยู่ได้ชิวกว่านี้แท้ๆ
ทำตัวเองแล้วมางอแงทีหลังซะงั้น
อันนี้ตลก คือทำแบบนี้มันควรต้องยอมรับผลกระทบรึเปล่า เพราะตัวเองก็รู้ว่าโดนแบนแน่ๆ การกระทำจงใจทำให้ผู้เล่นที่เป็นลูกค้าได้รับผลกระทบชัดๆ ผู้เล่นเขาไม่รวมตัวกันฟ้องเอ็งก็บุญแล้ว
ตรูเขียม 555
ถ้า Epic ทำเรื่องร้องเรียนหรือปลุกกระแสเรียกร้องตามที่ตัวเองทำได้ โดยไม่ละเมิดกฎตั้งแต่แรกเสียก่อน และไม่ไปหาเรื่องหรือกร่างใส่คนอื่นไปทั่วก่อนหน้านี้ ผมว่าจะมีคนเห็นด้วยกับ Epic เยอะกว่านี้ และไม่ตกในสถานการณ์แบบนี้ด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าคิดว่า 30% แพง ทำไมไม่ลองสร้าง smartphone ขึ้นมาใหม่เอง ทั้ง hardware และ software แล้วหาฐานลูกค้าให้ได้เท่ากับ Apple หรือ Google
เปรียบเทียบกับเงินที่ต้องใช้ไปทั้งหมดนั้น ผมคิดว่า 30% ก็พอรับได้นะ
That is the way things are.
+1 เขียม คนที่คิดว่าเก็บ 30% ได้กำไรมหาศาลแน่นอน
ในโลกทุนนิยมเสรี ถ้ามันมี excess profit บริษัททั้งหลายก็แห่ไปทำกันจนหมดแล้ว
แต่ถ้าเค้าไม่ทำ ก็แปลว่าเค้าคำนวนณแล้วว่า ทำราคา (fee) ต่ำกว่า 30% ไม่ได้ หรือได้ แต่แลกมากับคุณภาพของ Store
windows phone ยังล่วงไปแล้วเลย ฮ่าๆ(หัวเราะทั้งน้ำตา)
+1 จริงมาก ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของแพลตฟอร์ม คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า hidden costs มันเยอะขนาดไหน...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1024
คิดแบบนี้เสร็จบริษัทยักษ์ใหญ่หมดครับ ไม่มีวันลืมหูลืมตาได้แน่นอน บริษัทเล็ก ๆ ไม่มีทรัพยากรไปสู้บริษัทใหญ่ ๆ ได้แน่นอน สิ่งที่สำคัญในการจัดการแบบนี้ที่ค่อนข้างเป็นธรรมกับฝ่ายอื่น ๆ (เว้นแต่ฝ่ายที่ได้ประโยชน์อยู่แล้ว) คือการแข่งขันครับ ต้องพยายามควบคุมสภาพแวดล้อมให้เกิดการแข่งขัน ไม่มีใครตอบได้ว่า 30% นั้นดีที่สุดแล้วหรือยัง แต่ถ้าเกิดการแข่งขัน ตัวเลขส่วนแบ่งนี้จะปรับตัวอาจจะเพิ่มหรือลดกว่า 30% ก็ได้ ตลาดจะเป็นตัวบอกเองว่าราคาที่เหมาะสมคือเท่าไร
คุณก็พูดถูกครับว่าทุนใหญ่ได้เปรียบในจุดนี้ ผมเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ผมไม่สามารถพูดได้เต็มที่ว่าตอนนี้ไม่มีการแข่งขัน เพราะขนาดมี Android มาแข่งกับ iOS และบน Android เองก็อนุญาตให้มี store อื่น ๆ ได้ แต่ราคาส่วนแบ่งตรงนี้กลับไม่เห็นลดลงไป
อีกอย่างหนึ่งคือ การอนุญาตให้มี alternative store และ app อื่น ๆ ในนั้นที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบโดยเจ้าของ platform หรือ hardware เลย น่าจะก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาและมี hidden cost ในกรณีที่เกิดปัญหาข้อพิพาท
ผมได้เขียนความคิดเห็นเรื่อง alternative store ไว้ในข่าวเก่าครับ
That is the way things are.
ชาวดอยมีมากกว่าชาวแอปเปิ้ลตั้งเยอะ อย่าไปกลัว โปรโมทชาวดอยหนักๆก็อยู่ได้
ชาวดอยมีแต่สายฟรีครับ เปย์ต่อหัวไม่เท่าชาว iOS
ใช่ครับ ผมใช้มือถือ Androidกับ iPad
Android นี่มั่นใจเลยว่าจ่ายเงินผ่าน Play Store ไปไม่เกิน 10 ครั้งแน่นอน
แต่ iPad นี่นับไม่ได้แล้ว
ทำตัวเองน่ะนะ ช่วยอะไรไม่ได้จริง ศาลยังไม่ทันตัดสินเรื่องผูกขาดด้วยซ้ำ
ถ้าราคาเท่ากน เขาก็เลือกเจ้าหลักที่เป็นตัวกลางคนเดียวเลยดีกว่าไม่ต้องเสี่ยฝ add เลขบัตรเครดิต เข้าไปหาลที่มันเสี่ยง ในที่นี้คือ in-app purchase ไง และเครื่องความปลอดภัยต่อการโดนแฮ็คอีก ตอนทำเรื่องคืนเงินตอนมีปัญหาอีก พวกจ่ายเงินแบบนีี้ไม่ได้มีกรณีแบบจ่ายเงินแล้วจบอย่างเดียวซะหน่อยอย่างกรณีจ่ายแล้วเงินไม่เข้าเงินหาย รองเรียนใครหล่ะ apple ไม่รับเพราะไม่ผ่านทางเขา เราก็ต้องลองเรียนกับบริษัทเกมแล้วทีนี่ไม่มีทางการในไทย ผลสุดท้ายคือลุ้นดวงว่าจะได้คืนไม่ได้คืน ถ้าไม่ได้คืนก็เหมือนโดนโกงกันหน้าด้านๆนั่นหล่ะ ร้องเรียนใครไปก็ช่วยไม่ได้ แต่ถ้ารองเรียน apple นี่บอกเลย ระดับโลกในการเสียชื่อเสียง คนจ่ายเลยมั่นใจมากกว่า ในกรณีจ่ายผ่านที่ไหนก็ราคาเท่ากันอ่ะนะ
จริง
การมีapp store, playstore ทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าปลอดภัย
มีปัญหาแล้วมีคนกลางช่วยเคลียร์ (แล้วคนกลางค่อนข้างเข้าข้างลูกค้าด้วย)
ยกตัวอย่าง แอปจากบริษัท start up ที่ no name ที่มาใหม่ ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก/แนะนำหรือรีวิว…… แล้วมีตัวเลือกให้โหลดผ่านplaystore กับลง.apkข้างนอก
ผมว่าร้อยทั้งร้อยเลือกวิธีลงจากplaystore
ปล.เมื่อเร็วนี้เอง ผมลองลงแอปsmart homeแบบเสียตัง(ของจีน)จากPlaystore. แล้วfeatureมันห่วยกว่าที่โฆษณา. ก็กดrefundได้ง่าย ไม่ถึง3นาทีจบ
อ่านแล้ว นึกถึงพวกพวกที่มีบริการ Auto Subscription ขึ้นมาทันทีเลยครับ ถ้าไม่ได้จ่ายเงินผ่านตัวกลางที่น่าเชื่อถือได้ บางที่กดปิดยกเลิกยากเหลือเกิน พวกนี้ยอมจ่ายแหล่งน่าเชื่อถือ ถึงจะแพงกว่ากันหน่อยแต่สบายใจกว่าจะยกเลิกตอนไหน หรือมีปัญหาก็แก้ง่ายสบายใจกว่า
อยากเห็น ผู้ใช้ iOS รวมตัวกันฟ้อง Epic ฐานจงใจทำให้แอพใช้งานไม่ได้
อันนี้ก็เรียกว่าสมละนะ...
กะจะให้ศาลคุ้มครอง ศาลดันไม่คุ้มครอง
พอรายได้หายตอนนี้เริ่มดิ้นเองละ
เห็นได้ชัดว่าสนอะไรมากกว่า ลูกค้าหรือเงิน
บิ้วให้เค้า #Freefortnite ซะขนาดนั้น
ถ้ารักอุดมการณ์จริงจะอยากกลับเข้า Store ตอนนี้ทำไม
ปล. ผมก็เล่นมาเกือบทุกซีซั่น เปย์สกินมาก็เยอะ แต่ไม่ขนาดยอมย้ายไปเล่น Platform อื่นหรอกนะ
ไม่มีความรู้กฎหมายหรอกนะครับ แต่คิดว่าเป็นแบบนี้น่าจะเข้าทาง epic แน่ๆ น่าจะมาประมาณชี้ให้เห็นถึงความผูกขาดและอาจทำให้เห็นศาลเห็นใจ
สมน้ำหน้าจริงๆ แหะๆ
ไม่ยอมให้ iOS ลงแข่งในซีซั่นล่าสุด แล้วมาดิ้นให้ศาลคุ้มครองเหรอ 5 5 5
Someone said that Epic shot itself in the foot, but I say Epic shot itself in the spleen and it is going to bleed itself to the death.