สื่อต่างชาติหลายรายทยอยออกรีวิว Xbox Series X ก่อนวันวางขายจริง 10 พฤศจิกายนนี้
ภาพรวมของรีวิวออกมาในทางเดียวกัน ว่าจุดเด่นคือเครื่องแรง เล่นเกมระดับ 4K ได้ลื่น รองรับเฟรมเรตสูงถึง 120Hz (ขึ้นกับเกมที่ซัพพอร์ตด้วย) ทำงานได้เงียบกว่าที่คาด ฟีเจอร์เด่นของคอนโซลยุคนี้คือ SSD ทำให้โหลดเกมเร็วขึ้นมาก และรองรับ Quick Resume สลับเกมที่กำลังเล่นอยู่ไปมาได้ และใช้ได้แม้ปิดเครื่องแล้วเปิดขึ้นมาใหม่
The Verge ชี้ว่า Xbox Series X เหมือนการอัพเกรดพีซีใหม่ เพราะยังใช้งานเกมเดิม อุปกรณ์เสริมของเดิม บัญชีเดิมได้หมด หน้าตาของ OS เหมือนเดิม ไม่ต้องทำความคุ้นเคยใหม่ แต่ประสบการณ์ในการเล่นเกมดีขึ้น ภาพสวยขึ้น โหลดเร็วขึ้น
Engadget ชื่นชมเรื่องพัดลมที่เงียบมาก และ backward compatibility ที่ไมโครซอฟท์ทำได้ดีมาก ไม่ใช่เฉพาะการเล่นเกมเก่าได้อย่างราบรื่น แต่ยังเพิ่ม HDR ให้เกมเก่าๆ ดูดีขึ้นอีกมาก ภาพรวมเหมือนการซื้อพีซีเกมมิ่งดีๆ แต่ไม่ต้องวุ่นวายกับการอัพเดตซอฟต์แวร์ เพราะมีความสะดวกของคอนโซลอยู่ครบถ้วน
Eurogamer ชี้ประเด็นว่า Xbox Series X เครื่องใหญ่ แต่ชิ้นส่วนภายในอัดแน่นมาก (dense) ซึ่งไมโครซอฟท์ทำการบ้านเรื่องการระบายอากาศมาดีมาก ตั้งแต่การออกแบบให้ลมเข้าด้านล่างแล้วดูดขึ้นด้านบน และการออกแบบพัดลมที่ดี แต่ด้วยการออกแบบทรงแนวตั้ง ก็ควรวางเครื่องให้เหมาะสมเรื่องการระบายลมร้อนด้วย จึงไม่เหมาะกับการนำเครื่องไปตั้งไว้ในตู้ปิด
ส่วนเรื่องหน้าตาและดีไซน์เครื่อง ทั้ง Engadget และ The Verge บอกว่าสวยเฉพาะตอนวางแนวตั้ง ถ้าวางแนวนอนจะเห็นฐานที่ถอดออกไม่ได้ (ต่างจาก PS5 ที่ถอดฐานได้) ส่วน Kotaku วิจารณ์เรื่อง "รูระบายอากาศ" ที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนมาก เป็นปัญหากับคนกลัวรู ซึ่งมีสถิติทางวิทยาศาสตร์ว่ามีคนประมาณ 16% มีอาการนี้ ในขณะที่ Polygon เปรียบเทียบ Xbox Series X เหมือน "Xbox One ที่กินตู้เย็นเข้าไป"
ด้านคำวิจารณ์ The Verge วิจารณ์ว่าสตอเรจเสริมมีราคาแพง (1TB 219 ดอลลาร์) และยังมีแค่ของ Seagate เจ้าเดียวเท่านั้น และปัญหาสำคัญที่ทุกเจ้าพูดตรงกันคือ ยังไม่มีเกมเด่นๆ ในช่วงเปิดตัว จากปัญหาที่ Halo Infinite ต้องเลื่อน ตอนนี้จึงเป็นแรงกดดันไปยังสตูดิโอ 23 แห่งในสังกัดไมโครซอฟท์ ที่จะต้องสร้างเกมที่ควรค่าแก่การซื้อ Xbox Series X มาให้ได้
Engadget บอกว่าถึงแม้ Xbox Series X ดีขึ้นกว่าเดิมทุกด้าน แต่เหตุผลในการอัพเกรดอาจยังไม่เยอะพอ และถ้าทีวีที่บ้านยังเป็นแค่ 1080p หรือ 4K รุ่นเก่า ก็อาจไปเลือกซื้อ Xbox Series S แทนดีกว่า
Polygon บอกว่ารอบนี้ ไมโครซอฟท์เน้นที่เรื่องพื้นฐานให้แน่น ต่างจากตอน Xbox One ที่พยายามชูนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง Kinect (แล้วไม่ประสบความสำเร็จ) ผลคือ Xbox Series X ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่กลับเวิร์คกว่าในระยะยาว ส่วนประเด็นเรื่องเกม ถึงแม้เกมเด่นยังไม่เยอะ แต่วิธีการเล่นเกมบน Xbox Series X ที่ถูกต้องคือการสมัครสมาชิก Game Pass ต่างหาก
Eurogamer บอกว่าไมโครซอฟท์ออกแบบฮาร์ดแวร์มาดีเยี่ยม แต่ยังไม่มีเกมที่แสดงให้เห็นพลังของคอนโซลเจนนี้ ในขณะที่บริษัทเกมรายอื่นยังคงนโยบายออกเกม cross-gen ไปอีกพักใหญ่ๆ จึงยังไม่ต้องรีบซื้อก็ได้
สรุปคะแนนรีวิว
รีวิวแบบไม่มีคะแนน
Comments
Hardware เยี่ยม เกมต้องรอ ไว้อีกสัก 2-3 ปีค่อยว่ากัน สุดท้ายสิ่งที่เราใช้จริง ๆ คือ Software ตัว Hardware มันก็เป็นแค่เครื่องมือในการใช้ Software เท่านั้นเอง แต่พื้นฐาน Hardware ดีงี้ สตูดิโอเกมก็เยอะ อนาคตน่าจะรุ่ง
มาไทยแบบไม่ต้องหิ้วมั๊ยยย
ดีไปหมด ดี ๆ ๆ ๆ แต่เมื่อไหร่จะไทย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เรื่อง ssd เสริมผมเห็นด้วยกับ XSX นะ ดูจากขนาดเกมในปัจุบันแล้วการถอดเปลื่ยนได้ง่ายๆเป็นเรื่องดี แล้วก็ไม่มีปัญหาผู้ใช้เลือก ssd ที่มาใส่เครื่องไม่เป็นอีก
ผมก้เห็นด้วย แต่หน้าตามันเหมือน proprietary adapter ที่ข้างในเป็น NVME SSD มากกว่า
ถ้าแค่นี้แล้วชาร์จราคาค่า adapter ร่วม $50-$60 ผมว่ามันไม่ค่อยจริงใจมากกว่าการหาเรื่องชาร์จค่า accessories
ผมว่ามันก็ต้องดัดแปลงพอสมควรเพราะขนาดมันก็เล็กกว่า m.2 กับมีเคสป้องกัน ถ้าเทียบกับ m.2 ssd ที่ความจุและความเร็วใกล้เคียงก็แพงกว่าไม่มากเทียวกับความง่ายในการใช้งานก็คุ้มอยู่
XSX IRL: เปิดเครื่อง อัพเดตเครื่อง อัพเดตเกม หมดเวลาเล่น
น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่อยากใช้ gaming pc มากกว่า ถ้ามี gaming pc แล้วก็หาเหตุผลที่จะซื้อไม่ได้ (เพราะ game pass ก็เล่นบนพีซีได้)
ถ้าลง windows ได้ด้วย
จะเป็นทั้ง pc และ console เลย
สเปคก็ดีราคาก็ไม่แพง ผมว่าปัง
ถ้าจับลง windows ทำ Dual boot ได้นี่มีตังซื้อเลยไม่ต้องคิด
ที่เป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเป็น S mode หน่ะครับ
เคยดู Youtube ช่องหนึ่ง เขาอธิบายไว้ว่าทำไมถึงติดตั้ง Windows บน Xbox (One) ไม่ได้ ใจความคร่าวๆ คือมันมีการตรวจสอบซอฟแวร์ตอน Boot อะไรประมาณนี้แหละ ไว้ถ้าหาคลิปเจอจะเอามาแปะให้ครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เอาจริง ๆ PC เองตอนนี้ก็ใช้ secure bootloader กันหมดละ แต่มักจะปิดได้ และน่าจะใช้กุญแจคนละตัวกับคอนโซลครับ
ลง OS ได้คงโดนแฮ็กจนพรุน เหมือนที่ PS3 เคยโดนจนต้องเอา other OS ออก
เครื่องทุกเครื่องที่ขายออกไปก็ขาดทุน คนซื้อมาใช้งาน Windows ไม่ซื้อมาเล่นเกม Service ขายไม่ได้ เกมขายไม่ได้ ทุนก็ไม่คืน
ปังปินาศสิครับ @_@