วันนี้ในงาน Powering Digital Thailand จัดโดยหัวเว่ย มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาพูดเปิดงาน, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดีอี และณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มาบรรยาย Blognone ได้เก็บรายละเอียดมาฝาก
พุทธิพงษ์ กล่าวปาฐกถาขนาดยาว หนึ่งในประเด็นน่าสนใจคือ เป้าหมายของรัฐบาลไทยที่อยากทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนดิจิทัล ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ มองประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ในอาเซียนที่พัฒนา 5G ยกตัวอย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC ที่มีแผนจะใช้ 5G ในเขตนี้
"ต้องยอมรับว่า ศักยภาพการลงทุนตอนนี้ของไทยไม่ดีเท่าแต่ก่อน เพราะเมื่อก่อนไทยมีค่าแรงถูก ไม่ได้ประท้วงขอขึ้นค่าแรงกันตลอดเวลาและเป็นแรงงานที่มีความปราณีต แต่ทุกวันนี้ วันนี้โลกเปลี่ยน ไปแล้ว โรงงานไม่ต้องมีขนาดใหญ่เสมอไป แต่เน้นระบบอัตโนมัติมากขึ้น เราจึงต้องทำโครงสร้างพทื้นฐาน 5G ให้พร้อมรองรับการปฏิบัติงานในโรงงาน ให้เป็นจุดแข็งใหม่ เพราะถ้ามองประเด็นแรงงาน เรายังสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ โดยเริ่มต้นจาก EEC"
นอกจากนี้ยังพูดถึง 5G ว่าจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ดังนั้นการควบรวม TOT และ CAT เป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ แล้วนำรัฐวิสาหกิจเข้าไปประมูล 5G จะช่วยให้เครือข่าย 5G ไม่ตกอยู่ในมือบริษัทเอกชนทั้งหมด หากรัฐบาลต้องการนำ เทคโนโลยี AI, 5G มาพัฒนาโรงพยาบาล ขนส่งมวลชน การเกษตร การศึกษา จะได้ไม่ต้องไปจ้างเอกชน "เรามีหลายโครงการของรัฐที่ไม่ได้คำนึงผลกำไร แต่ต้องทำเพื่อความเป็นมนุษย์ ต้องทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ถ้ารัฐไม่นำรัฐวิสาหกิจเข้าไปประมูล เทคโนโลยีจะไปอยู่ในมือคนมีเงินเท่านั้น เพราะเขามีปัญญาจ่ายให้เน็ตเวิร์คนั้นมาทำธุรกิจของเขา แต่เราไม่ได้มองความคุ้มทุนเป็นหลัก" พุทธิพงษ์กล่าว
ประเด็นต่อมาคือการสร้างดาต้าเซนเตอร์ของคนไทย ในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมด้วยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สดช.) และ บมจ. กสท โทรคมนาคม (CAT) ทำโครงการ Government Data Center and Cloud Service (GDCC) หรือระบบคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อประโยชน์แก่การยื่นเอกสารของประชาชน ซึ่งตอนนี้ทำเสร็จแล้ว มีหน่วยงานรัฐให้ความสนใจ มีการโอนย้ายข้อมูลขึ้นระบบ GDCC แล้ว 95 หน่วยงาน ตั้งเป้ารองรับข้อมูลได้ 2 หมื่น VM ภายในปี 2565
"ปีหน้าจะมีโครงการใหญ่ คือ TOT ทำดาต้าเซนเตอร์ในอีอีซี ให้นักลงทุนเก็บข้อมูลไว้ที่ไทย แทนที่จะเก็บที่ยุโรป, สิงคโปร์ เราต้องสร้างศูนย์ข้อมูลที่ให้ความไว้วางใจและให้ต่างชาติสบายใจจะเก็บข้อมูลไว้ที่นี่"
พุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มว่า คนถามเข้ามามากมายเรื่อง National ID, E-Government ว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ ย้ำว่ารัฐบาลกำลังทำอยู่ แต่แค่ยังไม่ได้ออกมาพูด เราทำก่อน แล้วออกมาพูด นี่คือแนวคิดการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเราเป็นเป้านิ่งตลอด โดยเฉพาะกระทรวงดีอี ที่จริงๆ เราควรจะพัฒนาเพื่ออนาคต แต่เราก็ต้องมาสู้รบกับเฟคนิวส์ เวลาที่ควรพัฒนาก็เอามาแบ่งเพื่อจัดการกับเรื่องนี้
นอกจากนียังมีโครงการใหม่ที่จะทำในอนาคตคือ ทำแอปพลิเคชั่น Thailand Plus ไว้ติดตามคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศต้องดาวน์โหลดติดไว้ อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ในการควบคุมและห้องกันโควิด นอกจากนี้ยังพัฒนาสมาร์ทแบนด์ให้นักท่องเที่ยว มีอีซิม กันน้ำ วัดระดับการเต้นหัวใจและมาพร้อม GPS Tracking โดยข้อมูลเก็บไว้ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีแดชบอร์ดที่เฉพาะเจ้าหน้าที่สามารถดูได้
Comments
ชอบจั่วหัวครับ
ห้ะ ?
เอาที่ต่างชาติ “สบายใจ”ครับ >.<
วิสัยทัศน์ตอนนี้มันต้องไปที่ Ai, Robot กันแล้ว 5G มันปัจจุบันไม่น่าจะใช่วิสัยทัศน์อะไรที่จะดึงดูดนักลงทุนที่เขามีเทคโนโลยีไปไกลกว่าเรา ประเทศเราเป็นศูนย์กลางการผลิตมีการใช้ Robot เป็นจำนวนมาก อันดับต้นๆ ของโลก แต่ไม่ค่อยจะมีคนสนใจ หรือสนับสนุนกันเท่าไหร่
ทำไมงานรัฐบาลถึงจัดโดยบริษัทจีน
ผู้สนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการของกระทรวง
หน่วยงานรัฐบางหน่วยมีการใช้ Huawei cloud เป็น Private cloud อยู่ด้วยครับ
หลอนว่าอเมริกาจะมาคุมประเทศ ... จนหารู้ไม่ว่าจีนแทบจะครองเศรษฐกิจไทยแล้ว
น้ำโขงก็โดนตั้งเขื่อน ภาคท่องเที่บวก็อิงกับจีน ของที่ขายก็มาจากจีน อุปกรณ์เสาส่ง ฯลฯ ก็จีนทั้งนั้น
แต่กลัวอเมริกา
เอาจริง ๆ มีช่วงหนึ่งที่ผมขับรถไปศูนย์ราชการฯ อาคาร B (ที่ตั้งของกระทรวงเนี่ยแหละ) ไปหาที่จอดรถตรงอาคารจอดรถ แล้วผมไปเห็นตู้ที่เอาไว้พ่วงกับรถคันหนึ่ง ของกระทรวงฯ และสนับสนุนโดย ZTE นะ
หลายอย่างในประเทศนี่ของจีนจริง ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
วัดไทยของคนจีนก็มี (ที่ภูเก็ต) โรงแรมที่คนจีนซื้อไปทำทัวร์ 0 เหรียญก็เยอะ ร้านขายเพชร ขายพลอย ขายของฝากไทยที่เจ้าของเป็นคนจีนก็มี รถทัวร์ รถเช่าของคนจีนก็มี เรียกว่าลงเครื่องบินปุ๊บแล้วใช้บริการของจีนหมดเลย เงินเข้ากระเป๋าคนจีนเกือบทั้งหมด
อันนี้อ่ะเรื่องจริงทั้งนั้น มัวแต่กลัวว่าอเมริกาจะมาแทรกแซงการเมือง กลัวอเมริกามาคุมประเทศ ทั้งๆ ที่ีจีนแทบจะกลืนประเทศแล้ว แค่ไม่ได้กลืินทางการเมืองตรงๆ แต่ว่ากลืนเศรษฐกิจความเป็นอยู่ปากท้อง และชีวิตประจำวันแบบเงียบๆ
ไม่ต้องไปไหนไกลก็เจอเยอะเลยครับ ทัวร์ 0 เหรียญเนี่ย แถวสุวรรณภูมิก็อย่างเยอะ ทั้งร้านขายอัญมณีที่ตั้งกลางพื้นที่โล่ง แล้วก็ร้านอาหารที่ไม่ใครเข้ามากิน นอกจากทัวร์จีน แล้วแถวนั้นก็มีศูนย์รถทัวร์ที่เหมือนจะบริการทัวร์จีนเป็นส่วนใหญ่
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
งานเอกชนครับ https://www.blognone.com/node/119409
5G นี่มันกับดักจริงๆ
คนไม่รู้เรื่องก็เอาไปพูดเหมือนมันเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก
เหมือนตอน 4G เด๊ะ
มันก็แค่ mobile internet ที่เร็วขึ้น latency ต่ำลง
แต่ในแง่อุตสาหกรรม หรือธุรกิจ reliability น่าจะสำคัญกว่า
ขนาด พวกลาก Direct connect ยังต้องมี backup line กันเลย จ่ายปีนึงไม่ใช่ถูกๆ
แล้วเค้าจะเปลี่ยนมาใช้ 5G เหรอ
คงไม่
แล้วไอ้แนวคิด เอาเงิน "ภาษี" ไปประมูลเองแล้วมาให้บริการถูกๆ
เพื่อ? สู้คุณเอาเงินไปจ้างบริษัทเอกชน ให้เงินมันไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
แถมยังได้กลับมาในรูปแบบภาษีอีก
แถมยังได้คุณภาพมากกว่า เพราะได้คนที่เขาทำเชี่ยวชาญจริงๆ
อีกอย่าง โครงการรัฐคุณก็ประมูลอยู่แล้ว คุณก็ต้องได้เงื่อนไขที่ดีที่สุดอยู่แล้ว
งง กะความคิดมาก
+1024
ปัจจุบัน ที่โทรคมนาคม (internet, สื่อสารไร้สาย etc) ของประเทศนี้ มันพัฒนาได้ขนาดนี้
เพราะเอกชนแข่งกันล้วนๆ รัฐไม่มีเอี่ยว
ถ้ารัฐทำเองหมด ป่านี้เราอาจจะยังมีแต่ internet ISDN 5,000 บาทต่อเดือนใช้กัน
อันนี้ก็งง ๆ เหมือนกันแต่เงินที่เอาไปประมูลน่าจะไม่ใช่ภาษีนะครับ แต่เป็นเงินรายได้ของ TOT ที่ปกติต้องเอาส่งเข้ารัฐ
พอเอาไปประมูลคลื่นแข่งกับเอกชน แทนที่เงินก้อนนี้จะเข้ารัฐ แล้วกสทช.ก็ได้เงินจากเอกชนอีกต่อ กลายเป็น TOT เอาเงินก้อนนี้มาจ่ายค่าประมูลคลื่นแล้วให้กสทช. ส่งเงินเข้ารัฐ ดูแล้วแทนที่รัฐจะได้เงินสองก้อน(จาก TOT และเอกชน) กลายเป็นได้เงินแค่ก้อนเดียว…
เอาจริง ๆ ผมว่ารัฐทำธุรกิจพวกนี้ไม่ผิดนะ แต่ไอ้ความคิดที่บอกว่าเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก มัน overhype เกินไปหน่อย
เอาง่าย ๆ นะ ตัว 5G ที่เขา hype กันมาก ๆ คือตัว 5G mmWave ที่อัตราการส่งข้อมูลเร็วกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แถมความหน่วงน้อยกว่า ซึ่งตัวนั้นมันไม่ใช่ 5G แบบ mid-band กับ low-band (ที่มันเร็วกว่า LTE เล็กน้อย แต่ไม่ได้เร็วแบบที่เรียกว่า hype จัด ๆ)
ส่วนตัวคิดว่า 5G mmWave น่ามีประโยชน์ในพื้นที่ห่างไกล หรือต้องการส่งสัญญาณเร็ว ๆ ในรูปแบบ line of sight มากกว่าการใช้กระจ่ายสัญญาณ (แต่อาจจะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่คนอยู่เยอะ ๆ แล้วดีมานต์การใช้สัญญาณสูงมาก อย่างในห้างอะไรพวกนี้ เพราะมันสามารถลดต้นทุนในการวางโครงข่ายได้
และคิดว่า LTE กับ 5G กลุ่ม mid-band และ low-band น่าจะเพียงพอสำหรับ consumer ทั่วไป เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการความเร็วระดับนั้นตลอดเวลา
อย่างว่าแหละ use case จริง ๆ ตอนนี้ยังหาได้ยากเลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เท่าที่เข้าใจ 5G ที่คนตื่นเต้นกัน ไม่ใช่เพราะเรื่องความเร็วนะครับ
แต่มันคือ latency ต่ำ กับรองรับจำนวน device ปริมาณมากได้
ทำให้พวก iot หรือ การควบคุม device ต่าง ๆ (เช่นที่เขาเปรย ๆ กันก็คือ รถยนต์ไร้คนขับ การผ่าตัดระยะไกล) สามารถเกิดขึ้นจริงได้
การที่จะเกิดนวัตกรรมอื่น ๆ ตามมา ก็ขึ้นแล้วแต่กับ developer ที่จะสร้างสรรค์แล้ว และแน่นอน มันไมได้เห็นผลทันทีหรอก มันต้องดูระยะยาว
แต่ IoT ทั่วไป มันก็เกิดขึ้นตั้งแต่ยุค 4G แล้วนี่ครับ
เป็นเล่นไป IoT บางอย่างใช้ 3G ด้วยซ้ำ(ลดต้นทุน)
ในแง่เดียวที่ IoT จะต้องอาศัยปริมาณข้อมูลมากๆ น่าจะเป็นแค่ video streaming
เพราะนอกนั้นมันก็แค่ส่งสัญญาณที่ประมวลผลมาแล้ว
อย่างช่วงหลังๆ ก็มาแนวคิด edge computing หันไปฝังพวกชิปเร่งประมวลผล AI ที่ปลายทางแล้ว
คือสุดท้าย IoT ทั้งหมดก็คงมา 5G แต่จะบอกว่า IoT จะไม่เป็นจริง จนกว่า 5G จะมา ผมว่าก็ไม่ใช่ครับ
ส่วนผ่าตัดทางไกล ผมยังมองว่า "ต่อให้เกิดขึ้นได้จริง ก็ความเสี่ยงสูงมากจนไม่มีใครเอา"
โอเค การผ่าตัดบางประเภท เช่นการส่องกล้อง อาจเป็นไปได้
แต่การผ่าตัดทั่วไปที่เดิมใช้คน ก็เพิ่งมีการทดลองผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ไป
คือผมมองว่าเทคโนโลยีนี้ต้องมาก่อน ที่จะไปทำผ่าตัดระยะไกลนะครับ
ผมไม่เข้าใจ ทำไมถึงไม่เอาข้อความ "รองรับจำนวน device ปริมาณมากได้"
มาคิดด้วยว่าส่วนนี้ที่มันเกี่ยวข้องกับเรือง iot หรือเปล่า
ทำไมถึงตัดมันทิ้งไป หรือ ผมเว้นวรรคไม่ถูก ทำให้อ่านยากเหรอ
แล้วไอ้ความเร็วน่ะ ผมก็ว่าพิมพ์ชัดแล้วนะ ว่าที่คนตื่นเต้น ไม่ใช่เรื่องความเร็ว
ไอ้ความเร็วน่ะ 2g ยังเหลือ ๆ เลย แค่ส่งคำสั่งปริมาณข้อมูลนิดเดียวเองถ้าไม่ใช่กล้องวงจรปิด
แต่ปัญหาคือ จุดรับส่งสัญญาณ มันรองรับปริมาณ device มหาศาลในอนาคตไม่ได้
คนเลยคิดว่า มันจะทำให้การทำ iot มันแมสได้ตอนที่ 5g มา
ไอ้ผ่าตัด ผมก็รู้สึกเหมือนกัน ถึงจะ 1ms แต่ก็ใครล่ะจะกล้าเสี่ยง
แต่มันก็จะสามารถเพิ่มขอบเขตจินตนาการให้สามารถทำอะไรได้มากขึ้น
5g มันอาจไม่ได้เปลี่ยนโลกหรอก
แต่สิ่งที่ตามมาจากความสามารถของผู้คน โดยมี 5g ขับเคลื่อน
สิ่งนั้นนั่นนแหละ ที่อาจจะเปลี่ยนโลกได้จริง ๆ
จาก 3g ไป 4g ความแตกต่างก็แค่ความเร็ว
แต่มันก็เปลี่ยนโลกไปสู่การ streaming ไม่ใช่เหรอ
แล้วทำไม 5g จะเปลี่ยนโลกไม่ได้ล่ะ
กับดักจริง ๆ ก็คงเป็น อคติ ของตัวผู้คนที่ไม่สามารถมองเห็นถึงอนาคตได้ พอโดนโลกทิ้ง ก็โวยวายก่นด่าคนโน้นคนนี้ ว่าเป็นตัวการทำให้ตัวเองย่ำแย่
ไม่ได้มองข้ามคำว่า "รองรับอุปกรณ์จำนวนมาก" ได้
แต่ต้องถามว่า แล้วมันมากแบบ significant ขนาดไหน เพราะจากที่ผมบอก IoT มันเกิดมาสักพักแล้วครับ ไม่ใช่รอ 5G เกิด
สิ่งที่ผมบอก ไม่ใช่ว่า 5G ไม่ดี แต่เป็นแค่ว่า "เราตื่นเต้นกับมันมากไปหรือเปล่า"
หลายๆ อย่างที่เราบอก ต้องมี 5G ถึงจะทำได้ ผมก็แค่ว่าเราก็ทำได้ตั้งแต่ 3G, 4G แล้ว
อย่าง BMW Connected ก็ใส่ sim card ในรถตั้งแต่สมัย 3G แล้ว
พวกอุปกรณ์ติดตามรถ logistic ต่างๆ เขาก็ใช้ simcard ติดอุปกรณ์กันมานานแล้ว
รู้แหละว่า มันเป็น Generation ถัดไป แต่ไม่ใช่ว่า ทุกอย่างต้องรอ 5G เกิดถึงจะทำได้
คือถ้าจะคุยกันดีๆ ก็แลกเปลี่ยนกันได้ครับ แต่ไม่เห็นต้องมา insult คนอื่นว่า "อคติ" เลยนี่ครับ
ผมสงสัยว่าต่ำที่ว่านี่ ต่ำแค่ไหนครับ ได้ถึง sub-millisecond หรือยัง (ระดับ ns หรือต่ำกว่า)
แต่ผมก็ยังไม่ได้ google หาแฮะ 555
ถ้าทำได้ระดับนั้นการเล่นเกมแบบสตรีมมิ่งน่าจะไม่ใช่ปัญหาล่ะครับ
นั่นสิครับ ผมก็คิดอยู่ว่ามันจะทำได้จริงเหรอ ยิ่งผ่าตัดนี่แบบ ไม่น่าจะได้นะ เกิดลมพัดเกิด delay เพี้ยนนิดเดียวนี่ เส้นเลือดขาด บรรลัยเลยนะ 5555
คิดว่าน่าจะแค่ปริมาณ device ต่อจุดที่สามารถรองรับได้มากกว่านีล่ะมั้ง ที่จะสร้างความแตกต่าง ผมเคยทำในห้องตัวเอง router ที่แถมมา มันไม่พอ ต้องซื้อมาต่อเพิ่ม
ผมเห็นเค้าเทส 5G กัน latency ก็ไม่ได้ต่ำระดับ significant มากนักนะครับ เฉลี่ยๆก็พอๆ 4G เลย
บางจุดทำเป็น Load Balace ก็มีเพราะอยากลอง
-ผมมองว่ารัฐต้องมีเพื่อเป็นมาตรฐานขั้นต่ำให้ตลาดครับ
ิเป็นยากระตุ้น และเพื่อ"ความมั่นคง" ในหลายๆด้าน
ยามเกิดวิกฤตเพื่อสามารถใช้ทรัพยากรของรัฐตอบสนองได้อย่างทันท่วงที
ซึ่งมันมีราคาที่ต้องจ่ายเหมือนทำประกัน ยกตัวอย่างเช่น รถไฟในญี่ปุ่นที่สามารถ
ควบคุมคุณภาพ และพัฒนาได้ค่อนข้างดี และถือ และบริหารโดยรัฐ
แต่บังเอิญรัฐไทยจะเป็นแบบ เบี้ยประกันสูง ผลประโยชน์ต่ำถึงขนาด
มองว่าถ้ามึงอยู๋โลกเสรี*ูฟ้อง ปภ. ไปแล้วว่าหลอกลวง
ส่วนเรื่องบอกเราทำก่อน แล้วค่อยบอก.......ฮุค***
พูดมาได้ คือ เอ็งต้องบอกเว้ย ให้เอกชนเค้าผลิตคนมารอทำเป็นยุทธศาสตร์
เศรษฐกิจจะได้หมุนเวียน งานใหม่จะได้เกิด
เวลาคุณตั้งบริษัทฯคุณหาคนก่อนหางาน หรือหางานก่อนหาคนละ?
อย่างผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเนี่ยคุณพี่ให้ทุนสนับสนุนระบบปฏิบัติการไรไหมค้าฟฟฟฟฟ
หรือจะลงทุนทำแพลตฟอร์มบรรจุในรถยนต์ไฟฟ้า เช่น Log ขับขี่บางพารามิเตอร์เงี้ย
ที่ออกกฎหมายให้ผู้ผลิตส่งมา เพื่อทำเป็น Big Data เอามาพัฒนาประเทศ
เช่นความเร็วขับขี่ มาปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะกับกระทรวงคมนาคม
อัตราการใช้พลังงาน เพื่อ ประสานงานไปยังกระทรวงพลังงานจะได้วางแผนเรื่องดรงไฟฟ้า
การชะลอตัว อาจจะมาวิเคราะห์ว่าชะลอตัวเพราะผังเมืองไหม ก็ส่งให้มหาไทไปทำการปรับปรง เป็นต้น....
ใช่ครับ ต้องทำให้ต่างชาติเชื่อถือ บอกไปก็ได้ครับว่าจะไม่มีทางเหมือนอย่างอาคารกสท ซึ่งอีกแค่สามสัปดาห์ก็จะครบเจ็ดปีพอดีเลยครับ
เอาจริงๆ ผมไม่ได้ตามข่าว ไม่ทราบจริงๆว่าบรรดาผู้เสียหาย เรียกร้องค่าเสียหายได้กันแล้วรึยัง
เคยเรียกร้องไปครับ แต่ บ. ยุติการดำเนินกิจการไปแล้ว เลยเลิกตาม
บ. ผม ฟ้องเรียกไปแล้วครับ แต่เจ้าของโดนคนมีสีเรียกไปคุย แล้วก็ได้ไปถอนฟ้อง
จากนั้นมาย้ายหนีไปใช้ AWS หมดเลยครับ ไม่กล้ายุ่งกับของในไทยอีกเลย
รัฐมนตรีที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรแบบนี้ จะมีใครกล้ามาลงทุนจริงๆหรอ
ยากกกกส์ กปปส บุก CAT IDC ยังจำฝังหัวอยู่ทุกวันนี้เลย ถ้าอยากสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติ ขอแค่ privacy กับ security ที่ดีเน้นๆ เค้าก็มาลงทุนแล้วครับ
บอกได้เลยว่าพูดถูกทุกประการ เพียงแต่คนพูดน่ะไม่เหมาะ แล้วแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ไม่เอื้ออำนวยให้ใครอยากมาโฮสท์แต่อย่างใด
+4096
เหตุการณ์ที่ไม่อาจลบ
เขาพูดอะไรของเขาครับ อ่านมาทั้งหมดยังไม่รุ้ว่าแผนงานคืออะไรเลย
The Dream hacker..
ความชอบธรรมไม่มี...ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เกาะแข้งเกาะขาไปวันๆ
บอกว่ากินแข่งขันไม่ได้เพราะค่าแรงแพง
แต่นี่กำลังพูดถึงแรงงาน Skillระดับสูงที่ค่าแรงไม่ใช่ประเด็นนี่ครับ
I need healing.
ตอนตึก CAT โดนตัดไฟเพื่อนในวงการผมเครื่องพังไปหลายตัว ความแค้นที่ไม่มีวันลืม
ต่างชาติที่ไว้ใจและลงทุนน่าจะมีอยู่ประเทศ้ดียว //เหลือบมองข่าวข้างบน
ก่อนมาเป็นไปบุกๆ IDC พอตัวเองมาเป็นบอกต้องสร้างให้ต่างชาติไว้ใจได้โถๆๆ ที่เค้าไม่ไว้ใจเพราะคุณรึเปล่าเอาดีๆ
"เรามีหลายโครงการของรัฐที่ไม่ได้คำนึงผลกำไร แต่ต้องทำเพื่อความเป็นมนุษย์ ต้องทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ถ้ารัฐไม่นำรัฐวิสาหกิจเข้าไปประมูล เทคโนโลยีจะไปอยู่ในมือคนมีเงินเท่านั้น เพราะเขามีปัญญาจ่ายให้เน็ตเวิร์คนั้นมาทำธุรกิจของเขา แต่เราไม่ได้มองความคุ้มทุนเป็นหลัก"
แต่ผมจำได้ดี สมัยยี่สิบกว่าปีก่อน ใครมีเบอร์บ้านได้นี่รวย ต้องมีเงิน ผมอยู่ในกลางกรุงเทพฯนี่แหล่ะ พ่อยื่นขอหมายเลขโทรศัพท์ ตามระเบียบเป๊ะ ไม่ใส่น้ำมัน รอไปสิฮะ ห้าปี ไม่มีติดต่อกลับ แต่พอเอามาให้เอกชนทำได้เท่านั้นแหล่ะ ยี่นเรื่องใหม่ สัปดาห์เดียวมาเลย เนอะ "ไม่คำนึงถึงผลกำไร"
รถไม่มีน้ำมัน จะวิ่งได้อย่างไรครับ :/
โครงสร้างพื้นฐาน
มีการตัดบรรทัดครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
วันนี้โลกเปลี่ยน ไปแล้ว >> วันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว
อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ในการควบคุมและห้องกันโควิด >> อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ในการควบคุมและป้องกันโควิด
สอบถามหน่อยถ้าต้องการให้ข้อมูลปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติทำไมต้องจับมือกับ Huawei ด้วย (ไม่ได้มองแค่ Huawei นะทุกเจ้าเลย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลจะไม่ไหลออกไปที่ประเทศเขา) คนไทยเก่งๆเยอะแยะทำไมไม่ระดมทีมระดมสมองมาสร้างศูนย์เองที่เป็นของไทยจริงๆละ เรามองว่าถ้าเริ่มทำ และทำได้มีโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดไปอีกได้เยอะเลยนะ
ผมว่าน่าจะมีแค่ภาครัฐฯ บางบริษัท และบริษัทจีนที่เช่าใช้งานซะมากกว่า ส่วนบริษัทอื่นก็ไปเจ้าอื่นกัน เพราะเหตุการณ์ตอนบุก CAT Tower ตัดไฟยังจำฝังใจอยู่ ไม่มีวันลบออกได้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าเปลี่ยนคนพูด คอมเมนท์อาจจะเปลี่ยนตาม
*ถ้าเปลี่ยนรมต. คอมเมนท์อาจจะเปลี่ยนตาม
gdcc มันควรทำนานๆๆๆๆๆๆมาแล้ว. ไม่ได้เกี่ยวกะ 5g เลยมั๊ง
เอาแบบรัฐจะแจกเงินใครไม่ต้องให้สมัครเองครับ filter เอาจาก data ได้เลย
ผมว่า หลายๆท่านอาจจะคิดว่า ผู้คนลืมเรื่องที่ CAT ไปแล้วแน่ๆ... ความเชื่อมั่นเรื่องนี้สำหรับต่างชาตินี่ น่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก ณ วันนี้ผมยังไม่ค่อยจะเชื่อมั่นเลยครับ
ที่จริงๆ เราควรจะพัฒนาเพื่ออนาคต แต่เราก็ต้องมาสู้รบกับเฟคนิวส์ เวลาที่ควรพัฒนาก็เอามาแบ่งเพื่อจัดการกับเรื่องนี้
จำได้ว่าไอ้ศูนย์เฟคนิวส์นี่ก่อตั้งมาเมื่อตอนที่แกนนำกปปส.มารับตำแหน่งในกระทรวงนี้นะครับ สรุปแล้วใครทำให้กระทรวงเปลี่ยนภารกิจที่ควรทำเรื่องการพัฒนาประเทศมาเป็นเรื่องไร้สาระแบบนี้ครับ?
ขนาดพูดเรื่อง IT, เทคโนโลยี ยังแสดงวิศัยทัศน์แบบยุคเพิ่งเริ่มมีไฟฟ้าและหนีไม่พ้นเรื่องการเมือง ตูละหน่ายยยย
..: เรื่อยไป
พูดเรื่องแอป Thailand Plus ไว้ควบคุมโรค แต่ให้ความรู้สึกเหมือน big brother เอาเสียมากๆ
เก็บข้อมูลแบบ LINE ยังสบายใจกว่า
จะมี 10G ก็ไร้ประโยชน์ หากมีรัฐบาลที่จ้องไล่ปิดเว็บ ไล่จับคนแชร์ข่าวแม้ว่าจะเป็นข่าวจริงก็ตาม
@fb.me/frozenology@
ตึกแคทคือเป้าหมาย 555
แอบยิ้มทุกครั้งที่คุณคนนี้พูดถึงเฟคนิว
เป็นข่าวที่คอมเม้นท์รันมาก ถถถ
ถ้ารัฐยังมีอำนาจบุก data center ได้ง่ายๆแบบนี้ก็คงยังไม่มีใครกล้ามาลงทุนแยอะหรอกครับ
บอกอยากให้ไว้ใจ จากใจคนที่้เป็นแกนนำไปปิด Data center
ต่างชาติไว้ใจอะไรอ่ะครับ คนไทยยังไม่ไว้ใจเลยครับ