เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้ใช้แมคพบปัญหาเปิดแอปจากผู้ผลิตภายนอกไม่ได้เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ OCSP ของแอปเปิลเกิดล่มไป แม้แอปเปิลจะแก้ปัญหาได้ในเวลาไม่นานแต่คำถามใหม่คือ Mac OS ส่งข้อมูลว่าผู้ใช้รันแอปตั้งแต่เมื่อใดและนำข้อมูลไปใช้อะไรบ้าง
เซิร์ฟเวอร์ OCSP จะได้รับหมายเลขไอพีของเครื่องผู้ใช้ และใบรับรองประจำตัวนักพัฒนา เช่น หากผู้ใช้เปิด Photoshop เซิร์ฟเวอร์ก็จะเห็นหมายเลขไอพีและรู้ว่าเครื่องนั้นกำลังเปิดโปรแกรมจากอโดบี เซิร์ฟเวอร์ OCSP จะเห็นรายการผู้ผลิตแอปอื่นนอกแอปเปิลทั้งหมด
วันนี้ทางแอปเปิลก็เขียนคำอธิบายเพิ่มในหน้าซัพพอร์ต ยืนยันว่าบริษัทไม่เคยนำข้อมูลไปใช้อย่างอื่น และไม่เคยนำข้อมูลที่ได้จากเซิร์ฟเวอร์ OCSP ไปรวมกับข้อมูลอื่นเช่น หมายเลขประจำเครื่อง หรือหมายเลขประจำตัวผู้ใช้ โดยเหตุผลของการส่งข้อมูลนี้เพื่อเช็คว่าโปรแกรมที่กำลังรันมาจากผู้ผลิตที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่
นอกจากการชี้แจงแอปเปิลยังบอกมาตรการต่อไปว่าได้ปิดการเก็บล็อกค่าไอพีของผู้ใช้แล้ว และกำลังไล่ลบไอพีออกจากล็อกเดิมที่เคยเก็บมา จากนั้นสัญญาว่าจะพัฒนาโปรโตคอลใหม่ที่เข้ารหัส และมีตัวเลือกให้ผู้ใช้ปิดการทำงานระบบตรวจสอบนี้ได้
ที่มา - Apple
Comments
รูปนี้มัน...
10 10 10
อันนี้ไม่โอเลยครับ เหมือนมีคนมาคอยจ้องดูอยู่ข้างหลังตลอดเวลา แถมจดว่าวันนี้ทำอะไรเปิดอะไรไปบ้าง แล้วบอกว่าแค่มารักษาความปลอดภัย
ถ้าบอกว่า ใช้ screen time ก็ไม่เนียนสินะ เพราะอาจจะไม่ได้เปิดใช้งานทุกคน
แค่เอา developer certificate ที่ sign ด้วยคีย์ของ apple ไปตรวจก็พอแล้วนิ ทำไมต้องโทรกลับบ้าน ทำในเครื่องก็พอแล้ว ส่วนแอปใหนอยาก verify ก็ไปทำเรื่องสร้าง certificate เอา
OCSP มันช่วยให้ revoke ได้ทันทีครับ แอปเปิลเจอว่านักพัฒนา X ทำแอปมุ่งร้ายก็ยกเลิกได้วันนี้เลย ไม่ต้องรอเครื่องมาอัพเดตรายการ revoke อีก
lewcpe.com, @wasonliw
อันนี้ผมก็สงสัยว่า เราต้องทันทีทันใดในทุกๆ การรันแอปเลยจริงๆ ไหม แล้ว CRL มันใหญ่ขนาดไหน ถ้าอัพเดทวันต่อวันเพียงพอไหม หรือมีวิธี anonymize/aggregate ที่ทำให้ลดความเฉพาะเจาะจงไปไหม (เช่นมี intermediate certificate เพิ่มขึ้นอีกชั้นนึง แล้วดึง CRL เฉพาะเป็นสายนั้นไปอะไรงี้)
iPAtS
จะทำอะไรแบบนี้ ปกติมันน่าจะมีข้อความแจ้งขึ้นมาก่อน หรือข้อตกลงให้กดยอมรับก่อนนี่นา
อุ้ย