จากกรณี แอปเปิลถูกผู้ใช้ iPhone ฟ้องร้อง จากเหตุยอมรับว่ามีการทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้าลง ในปี 2017 และเมื่อต้นปีนี้ ก็ยอมยุติคดีด้วยการจ่ายค่าเสียหายรวม 300-500 ล้านดอลลาร์ หรือจ่ายให้ลูกค้าคนละ 25 ดอลลาร์
แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะพฤติกรรมของแอปเปิลทำผิดกฎหมายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในหลายรัฐ (ไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องการทำให้เครื่องช้าลงอย่างตั้งใจ) แอปเปิลจึงถูกอัยการของแต่ละรัฐฟ้องในคดีนี้ด้วย
ล่าสุดแอปเปิลยอมจ่ายเงินค่าปรับเพื่อยุติคดีกับอัยการจาก 34 รัฐ/เขต เป็นเงินรวม 113 ล้านดอลลาร์ โดยเงินค่าปรับเหล่านี้จะกระจายกันไปตามแต่ละรัฐ (แคลิฟอร์เนียได้ 24 ล้านดอลลาร์) พร้อมมีเงื่อนไขว่าแอปเปิลต้องทำหน้าเว็บให้ข้อมูลกับลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา และแสดงข้อมูลประสิทธิภาพแบตเตอรี่ในหน้า Settings ของ iPhone ด้วย (ซึ่งแอปเปิลทำไปแล้ว)
ที่มา - State of California Department of Justice, Ars Technica
Comments
มันปิดฟีเจอร์ที่ทำให้ cpu ช้าได้มั้ยครับ คือให้มันทำงานเร็วเป็นปกติแม้แบตจะเริ่มเสื่อม
วางแผนจะซื้อไอโฟนเลยหาข้อมูลครับ
หลังจากที่เป็นข่าวฟีเจอร์นี้ก็ไม่มีแล้วครับ แต่เวลาแบตไกล้หมดจะขึ้นว่าจะเปิดโหมดประหยัดพลังงานไหมขึ้นมาแทน
ยังมีอยู่ครับแต่ปิดได้ ดูตรงปรับใช้การจัดการประสิทธิภาพการทำงาน แต่แบตต้องเสื่อมระดับนึงเลยถึงเจอข้อความนี้
:-)
ขอบคุณครับ
ค่าปรับเข้ารัฐใช่ไหมครับ ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจะได้ชดเชยไหม
ในข่าวเขียนไว้แล้ว อ่านดีๆ ก่อนครับ
เข้าสำนักงานอัยการของแต่ละรัฐครับ
และเมื่อต้นปีนี้ ก็ยอมยุติคดีด้วยการจ่ายค่าเสียหายรวม 300-500 ล้านดอลลาร์ หรือจ่ายให้ลูกค้าคนละ 25 ดอลลาร์
แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะพฤติกรรมของแอปเปิลทำผิดกฎหมายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในหลายรัฐ (ไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องการทำให้เครื่องช้าลงอย่างตั้งใจ) แอปเปิลจึงถูกอัยการของแต่ละรัฐฟ้องในคดีนี้ด้วย
ล่าสุดแอปเปิลยอมจ่ายเงินค่าปรับเพื่อยุติคดีกับอัยการจาก 34 รัฐ/เขต เป็นเงินรวม 113 ล้านดอลลาร์ โดยเงินค่าปรับเหล่านี้จะกระจายกันไปตามแต่ละรัฐ (แคลิฟอร์เนียได้ 24 ล้านดอลลาร์)
ค่าปรับแบ่งเป็น 2 ส่วนตาม 2 คดีความที่แยกกัน
1. $310-500 ล้าน = จ่ายให้กับผู้คนใช้และทนาย เว็บ class-action lawsuit (https://www.smartphoneperformancesettlement.com/) นี้ปิดรับลงทะเบียนเฉพาะผู้ใช้งานใน US ไปเมื่อ 10 ตุลาที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าน่าจะได้ $25 (สูงสุดไม่เกิน $500) ต่อเครื่อง
2. $113 ล้าน = จ่ายให้หน่วยงานรัฐ
ดีใจที่เห็นบริษัทใหญ่โดนลงโทษ
ผมอยากให้ออกกฏบังคับพอร์ตมาตรฐานของมือถือด้วยนะ มือถือครึ่งแสน ยังได้ lighting แถมเป็น usb 2.0 อยู่เลย
USB‑C to Lightning Cable ครับ ไม่ใช่ usb 2.0
USB 2.0 คือ Spec ครับ ไม่ใช่ Port Interface
เขาจะตัดพอร์ตอีกไม่กี่รุ่นข้างหน้าละ(แซว) ฟ้องไม่น่าทัน XD
อันนี้ถ้าจะบังคับน่าจะต้องบังคับกันทั้งวงการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เลยครับ มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง ฯลฯ ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนว่าเป็นการเลือกปฎิบัติ
ถึงใช้ USB-C ใช่จะไม่มีเรื่องให้ปวดหัวอีกนะครับ
เจอสาย สายนี้หัว C-to-C เหมือนกัน ชาร์ทไฟได้ไม่เท่ากัน สายนี้มาตรฐานความเร็วได้แค่แบบ 2.0 สายนี้ส่งวีดีโอไม่ได้อีก
เห็นด้วยครับ c to c เพิ่มความยุ่งยากกว่าเดิมอีก ถ้าไม่ใช่คนในสาย tech เค้าจะรู้ไหมนะ =^=
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
แค่ lightning แต่วิ่งได้ usb3 ก็พอและ ขี้เกียจซื้ออุปกรณ์เสริมใหม่
เคยทำใน iPad Pro รุ่นหนึงแล้วก็ย้ายไปใช้พอร์ท USB-C หมดเลย
ขอสิทธิ์ right to repair ด้วย ทุกวันนี้ซื้อมาเหมือนเช่าของแล้วอ่ะ -***-
จะซ่อมแต่ละทียังต้องเอาเข้าศูนย์เพื่อ register นี่ไม่ใช่นะ -****-
ถ้ากฎหมาย และ ปชช. ไม่เข้มแข็งนี้ จะไม่มีวันมีฟิวเจอร์เรื่องแบตเสื่อมเลย ก็ยังนับถือมาตรฐานของ ตะวันตก