รัฐบาลสิงคโปร์รับวัคซีน COVID-19 ที่ผลิตโดย Pfizer และ BioNTech ล็อตแรกทางเที่ยวบิน SQ7979 ที่ใช้เครื่อง Boeing 747-400 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการฉีดวัคซีนของสิงคโปร์
วัคซีน BNT162b2 มีข้อจำกัดสำคัญคือต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -80 องศาเซลเซียส เพื่อยืนยันว่าระบบขนส่งพร้อมทางสายการบินสิงคโปร์ได้บินเที่ยวบินทดสอบพร้อมกล่องเย็นเปล่าๆ และเครื่องบันทึกอัตราการระเหิดของน้ำแข็งแห้งเพื่อยืนยันว่าระบบขนส่งมีความพร้อมสำหรับวัคซีนจริง โดยหลังจากวัคซีนลงจากเครื่องจะนำไปเก็บไว้ที่โกดังเย็น SATS Coolport
วัคซีนชุดแรกจะกันไว้ให้คนทำงานแนวหน้า (front line), คนสูงอายุ, และกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงก่อน โดยรัฐบาลสิงคโปร์คาดว่าจะจัดหาวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนทั้งประเทศได้ภายในไตรมาสที่สามของปี 2021
ที่มา - Strait Times
ภาพ SATS Coolport โดยสายการบินสิงคโปร์
Comments
ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวรึเปล่านะครับ แต่อ่านประโยคนี้ "รัฐบาลสิงคโปร์รับวัคซีน COVID-19" แล้วเดาประโยคต่อไปว่า "มีปัญหา" คือดันตีความคำว่า "รับ" เป็น "ยอมรับ"
ถ้าบอกว่า "ได้รับ" จะชัดเจนกว่ามั้ยครับ
แก้ไขตามนั้นครับ
lewcpe.com, @wasonliw
? ขอบคุณครับ
ผมเบื่อพาดหัวข่าวไทยที่ใช้คำว่ารับ/ยอมรับแบบพร่ำเพรื่อมาก เนื้อข่าวจริง ๆ เห็นมีแต่บอกว่ายอมรับว่าฝ่ายตรงข้ามผิด ยอมรับว่าไม่ใช่ความผิดตัวเอง
น้ำแข็งแห้งน่าจะเป็นระเหิดนะครับ
โอ้ ใช่ครับ
ชอบตรงที่มีการทดสอบก่อน
That is the way things are.
จัดการปัญหาได้ดีนะครับ ผมก็ชอบ
อีกสักพักคงมียาแบบดื่มหรือแคปซูลเหมือนยาแก้หวัด มาเป็นทางเลือกนอกจากฉีดวัคซัน แค่ต้องกินเยอะกว่าเดิม
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ว่าแต่ยาแก้หวัดมันไม่มีในโลกนี่ครับ? หรือว่าจะนับยาต้านไวรัสอยู่ในกลุ่มนี้??
แปลว่า Paracetamol, Aspirin และยาอื่นๆ เป็นแค่ยาต้านไวรัสหวัด ไม่ได้แก้หวัดเหรอครับ เพราะพูดยาแก้หวัดกันจนติดปากไปแล้ว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
paracetamol ออกฤทธิ์แก้ปวดครับ พูดง่ายๆ คือออกฤทธิ์กับระบบรับรู้ของเรา ไม่ได้ทำอะไรกับเชื้อโรคครับ
แก้อาการครับ ไม่ได้ไปทำอะไรกับไวรัส หวัดหายเองได้ไม่จำเป็นต้องกินยาด้วยครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1024
เคยคุยกับพยาบาล เค้าบอกเลยนะว่าถ้าแค่เป็นหวัดธรรมดาไม่ได้ร้ายแรงอะไรก็ไม่ต้องกินยาหรอก อาศัยกินน้ำเยอะๆ กินอาหารตามเวลา พักผ่อนเยอะๆ นอนยาวๆไปเลย ดีกว่ากินยาพร่ำเพรื่อครับ เอาไว้กินตอนที่เรามีอาการหนักจนไม่ไหวจริงๆ เพื่อลดอาการ (ปวดหัว ปวดตัว น้ำมูกเยอะ) แล้วก็ไปนอน ไม่ใช่กินให้อาการลดแล้วไปทำงานต่อ อันนี้ไม่ช่วยให้หายไวขึ้นเลยครับ
เข้าใจผิดครับ เพราะยาแก้หวัดไม่มีอยู่จริง
ที่หายๆกันคือรอร่างกายสร้างภูมิต้านทาน ส่วนที่กินน่ะ เพื่อบรรเทาอาการทรมานช่วงที่ร่างกายกำลังสร้างภูมิคุ้มกันครับ เหมือนโควิด 19 นี่ล่ะ ที่แรกๆ ก่อนทำวัคซีน แล้วเขาบอกรักษาหาย เขาก็ใช้วิธีนี้ คือรอร่างกายผู้ป่วยรักษาตัวเอง คนรักษามีหน้าที่แค่ประคองอาการกับทำให้ร่างกายคนไข้ แข็งแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ คนเป็นรคแทรกซ้อนเลยตายไงครับ อีกข้อเพราะไวรัสมันกลายพันธ์ได้เรื่อยๆมีโอกาสที่วัคซีนที่ผลิตมาจะแก้ไม่ได้ เขาเลยไม่ได้ผลิตยาแก้ไข้หวัดที่สามารถหายเองได้ถ้ามีเวลามากพอและไม่รุนแรงแบบโควิด เพราะร่างกายคนจะรู้ว่าเจออะไรแล้วต้องสร้างอะไรมาต่อต้าน แค่ว่าช่วงก่อนที่จะสร้างภูมิคุ้มกันต้องไม่เจออาการอื่นแทรกซ้อนนะ
คือจริงๆมันทำได้แต่มันไม่คุ้ม ถ้าไม่รุนแรงเท่าโควิดทำในตอนนี้ เพราะมันมีหลายชนิดเกินไป แถมมีเวลาในการเก็บรักษาเพราะหมดอายุได้ด้วย