แอปเปิลมีโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับภายใต้โค้ดเนม Project Titan มาหลายปีแล้ว แต่ก็การปรับแผนงานอยู่ตลอด ล่าสุด Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เผยความคืบหน้าและแผนงานของโครงการรถยนต์ไร้คนขับนี้
โดยรายงานระบุว่าเป้าหมายของแอปเปิล คือการสร้างรถยนต์ไร้คนขับเจาะตลาดผู้ใช้งานทั่วไป แตกต่างจากผู้พัฒนาบางรายที่เน้นรถโดยสารสาธารณะแบบ (Robo-taxi) ส่วนจุดขายนั้น แอปเปิลจะเน้นไปที่แบตเตอรี่ซึ่งออกแบบใหม่ทั้งหมด มีต้นทุนที่ต่ำกว่า และความจุสูงกว่าทำให้วิ่งได้ระยะทางมากกว่า รายงานบอกว่าแอปเปิลกำลังศึกษาแนวทางการใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ซึ่งปลอดภัยกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
ส่วนเซ็นเซอร์ LiDAR ที่เป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไร้คนขับนั้น แอปเปิลยังพิจารณาสองแนวทางทั้งผลิตเซ็นเซอร์เอง และร่วมมือกับบริษัทภายนอกในการผลิต ส่วนการผลิตรถยนต์ซึ่งเป็นโจทย์ยากที่สุด ถึงตอนนี้แอปเปิลยังพิจารณาแนวทางหาพาร์ทเนอร์เพื่อการผลิตรถยนต์ให้ภายใต้แบรนด์แอปเปิล แต่หากไม่สำเร็จ ก็อาจลดขนาดโครงการเหลือเพียงทำระบบและร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในตลาดแทน
Reuters ระบุว่าแอปเปิลมีแผนจะเปิดตัวโครงการนี้อย่างเป็นทางการในปี 2024
ที่มา: Reuters
Comments
ถ้าอนาคต แค่วางมือถือแล้วขับรถได้เลยก็คงดี วิทยุ ไฟ ทุกอย่างก็จิ้มเอาจากจอ น่าจะลดต้นทุนไปได้เยอะเลย
TESLA เลยครับ แค่เปิดเก๊ะหน้ายังต้องกดจากจอ
เห็นว่าเคยมีกรณี OS ค้าง ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ยังขับได้อยู่
ขนาดที่ปัดน้ำฝนยังค้าง เปิดปิดไม่ได้เลยครับ
คืออาจจะเพราะเป็นคนเขียนโปรแกรมด้วยเลยมักจะคิดว่า อะไรที่มันเขียนโปรแกรมไปควบคุมได้ มักจะเชื่อถือไม่ได้ (แล้วตอนเสียทีก็ซ่อมกันเหงื่อตกด้วย) 5555
คนต้องต่อสวิตช์ตัดไฟเผื่อมันค้างแล้วหล่ะ จะได้ reset ได้ครับ
ถ้าแบตเสื่อมรถจะวิ่งได้ช้าลงมั้ยนะ
555 ^^
5000+
ออกสายชาร์จ lightning แน่นอน
ชาร์จรถผ่านสาย lightning 555
ข่าวต่อไป Apple ตัดปุ่ม Start/Stop ออก
หยอกๆ นะครับ เข้าใจว่า Apple คิดมาแล้วล่ะเวลาทำอะไรทุกอย่าง ?
และเป็นสายชาร์จแบบ MagSafe
Magsafe ก็ดูดีนะ ถ้าใช้กับที่ชาร์จรถไฟฟ้าได้ ไม้ต้องออกแรงตอนเสียบปลั๊กชาร์จ หรือทำจุดเสียบชาร์จเนียนไปกับตัวถังรถ แล้วต่อแบบสัมผัสไปเลย ไม่ต้องทำช่องชาร์จแยกต่างหาก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
Charge รอ 7 ชั่วโคตรถึงจะได้ขับชินะ
แต่ไม่แถมแดปเตอร์แปลงจากไฟบ้าน เหตุผล ช่วยโลก
จะโดนวิญญาณแค้นแบต note 7 เข้าสาปมั้ยนะ
และที่สำคัญ การเปลี่ยนแบตจะยากกว่าเดิม อาจจะต้องรื้อรถทั้งคัน แน่นอน ?
จะไม่มีปุ่ม start เครื่อง จะดับเครื่องต้องใช้ผ้าคลุมรถที่แถมมา หรือจอดทิ้งไว้ 2 ชม เครื่องจะดับเข้าสู่ standby mode เอง
รถไฟฟ้าจริงๆ จอดไว้เฉยๆ ก็ประหยัดแบตนะครับ ถ้าคนออกจากรถมี sensor เช็คได้ ก็ตัดแอร์ ปิดเครื่องเสียงไรก็งี้ก็เทียบเท่า หรือคล้ายดับเครื่องในรถสันดาบแล้วครับ
ดูจากทิศทางในข่าว เหมือน Apple จะสนใจธุรกิจพลังงาน
ถ้าเอเปิลทำ ถือว่าดี
ล้อขายแยก ล้อละ $4990
Imagine navigate AppleCar by your iPhone. It's Amazing!(Tim Cook voice)
PS. MagSafe adapter to your Car start with $99
หุ้นแอปเปิลจะพุ่งไหม พรุ่งนี้
กำลังศึกษาแนวทางการใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP)
แค่นี้ก็แพ้แล้วแน่นอนครับ
"ส่วนจุดขายนั้น แอปเปิลจะเน้นไปที่แบตเตอรี่ซึ่งออกแบบใหม่ทั้งหมด มีต้นทุนที่ต่ำกว่า และความจุสูงกว่าทำให้วิ่งได้ระยะทางมากกว่า"
และราคาขายแพงมากกว่า
ปริมาณเงินสดที่มีในมือนี่. ทำอะไรก็ได้แล้วล่ะครับ
แล้วด้วยความ apple ด้วย. แอบน่าสนใจเหมือนกันนะ
ปั่นกระแสอีกรอบให้หุ้นขึ้นอีก จริงเคยมีข่าวแบบนี้สมัย teslaวัยละอ่อน
ทำไมแอปเปิลถึงอยากลุยตลาดรถยนต์ขนาดนี้นะ ผมมองธุรกิจนี้ไม่ออกจริง ๆ อยากจะเป็นกูเกิล2เหรอ ที่ลุยทำหลาย ๆ อย่าง
Taxi นี่แหละที่จะพัฒนา AI ของระบบให้น่าเชื่อถือ
หรือว่าชื่อ Apple แปะบนรถก็น่าเชื่อถือแล้ว
ตลาดนี้ยากกว่า
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6