9to5Mac แชร์ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Consumer Intelligence Research Partners (CIRP) เปิดเผยยอดขาย iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น พบว่ามือถือตระกูล iPhone 12 ทำยอดขายรวม คิดเป็น 76% ของ iPhone ทุกรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐ ช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2020
iPhone 12 ถือว่าประสบความสำเร็จในช่วงเปิดตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone 11 ที่มียอดขายช่วงเดือนเปิดตัว อยู่ที่ 69% ของ iPhone ทั้งหมดที่วางจำหน่ายในสหรัฐในช่วงนั้น (แปลว่าในช่วง iPhone 11 คนก็ยังซื้อรุ่นเก่าอยู่ 31%)
เมื่อเจาะลึกแต่ละรุ่นของ iPhone 12 แม้อาจจะเปรียบเทียบได้ยาก เพราะคราวนี้ Apple เปิดตัวมือถือ 4 รุ่นไม่พร้อมกัน แต่ผลปัจจุบันคือ iPhone 12 มียอดขายมากที่สุดใน iPhone ทุกรุ่น ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน คิดเป็น 27% รองลงมาเป็น iPhone 12 Pro และ Pro Max ที่มียอดขายใกล้เคียงกัน อยู่ที่ประมาณ 20% ทั้งคู่ ส่วน iPhone 12 Mini ทำยอดขายไปได้ 6% เท่านั้น และที่เหลือเป็น iPhone รุ่นอื่นๆ
ยอดขาย iPhone 12, 12 Pro และ Pro Max ดูจะไม่หนีกันมากนัก เมื่อเทียบกับยอดขายที่แตกต่างระหว่าง iPhone 11 ทั้งสามรุ่น ช่วงเดือนเปิดตัวปี 2019 เพราะในรุ่นก่อน iPhone 11 ทำยอดขายคิดเป็น 39% ในขณะที่ iPhone 11 Pro กับ Pro Max มียอดขายในช่วงเปิดตัวรวมกัน คิดเป็นแค่ 15% ของยอดขาย iPhone ทุกรุ่นในช่วงนั้น
อาจถือได้ว่า iPhone 12, 12 Pro และ 12 Pro Max ประสบความสำเร็จใกล้เคียงกันในหมู่ผู้ใช้ iPhone ส่วนจะมีน่าผิดหวังก็คงเป็น iPhone 12 Mini ที่ยังชิงตำแหน่งในหมู่ iPhone มาได้เพียงน้อยนิดที่ 6% โดย Mike Levin นักวิเคราะห์จาก CIRP คาดว่าสาเหตุมาจาก iPhone XR ที่ราคา 499 ดอลลาร์ และ iPhone 11 ที่ราคา 599 ดอลลาร์ น่าจะดึงดูดกว่า iPhone Mini ที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ราคาเปิดตัวเริ่ม 699 ดอลลาร์
ที่มา - 9to5Mac
ภาพจาก CIRP
Comments
น่าจะเฉพาะกลุ่มไปรึเปล่า มันเหมาะกับคนมือเล็กอย่างเดียว
ผมคนนึงละไม่ซื้อทั้งๆที่ชอบมาก (เพราะเพิ่งซื้อ SE 2020 ไป)
จะออกเครื่องเล็กแรงๆ ก็ไม่บอกซักคำ (ไม่คิดว่าจะออกมาเร็วขนาดนี้)
เราคือเพื่อนกัน (แต่ไปจับแล้วมันก็อยากเปลี่ยนอยู่นะ)
ผมว่าราคามันไม่ค่อยหนีกับ 12 ธรรมดาด้วยคนเลยเลือก 12 มากกว่า
ช่วง ธค ในกรุงเทพ ผมไปตามหา iP12PM
สิ่งที่เจอ แทบทุกที่มี iP12 ส่วน iP12mini มีครบทุกตัวเลือก
too small
ผมว่าคนเรารู้สึกว่าขนาดจอมันมีผลต่อราคาที่เค้ายอมจ่ายอยู่นะ คือยุคนี้จอเล็กแบบ iphone 12 mini ต่อให้สเปคดีเท่ารุ่นพี่แค่ไหนก็คงยังรู้สึกไม่คุ้มในราคา 25900฿
ผมว่าไม่ใช่ครับ จุดที่ทำให้ตัดสินใจไม่เลือกจริงๆ คือแบตเตอรี่ต่างหาก ตอน se มันก็พอถูไถพอให้ใช้งานผ่านพ้นวันไปได้ แต่พอเป็นตัวนี้ที่ความแรง จอ กับแบตมันเริ่มจะไปด้วยกันไม่ได้ด้วยขนาดพื้นที่ที่จำกัด เลยกลายเป็นจุดด้อยที่ยากจะแก้ไข
iPhone 11 ถูกกว่า 100 เหรียญ ใครจะไม่ซื้อฮะ ประสิทธิภาพไม่ต่างกันมาก
แต่ผมก็ซื้อตัว Mini มานะ ฮาา เบื่อมือถือหนักๆ
กังวลเรื่องแบตอ่ะ
แต่ไซส์พอดีมากๆ น่าเสียดายจริงๆ
อย่าเลิกทำ mini เลย กะจะเปลี่ยนรุ่นหน้า
Too pricey
ซื้อ 12 Pro ไป แต่ถ้าได้ไปลอง 12 mini ก่อนคงไม่เอา 12 Pro //ถ้ายังทำต่อขอแบตให้ใช้ได้ 1 วันเต็มแบบไม่ต้องชาร์จแบบ 12 12Pro นะ TvT)
จริงๆ Apple น่าจะทำเคสแบตของ mini ขายนะ จะได้อุดช่องโหว่เรื่องแบตไม่พอไปด้วย
อย่าเลิกนะ 12 mini นี่โคตรรร perfect เสียดาย ผมอยากให้มี Pro mini มากเลย 555 มือเล็กอ่ะ แต่อยากใช้กล้อง tele กะ LIDAR
ยอมรับว่า ซื้อ 12 Pro max เพราะแบตอึดสุด
+1
ใช้ mini อยู่ อย่าเพิ่งเลิกทำนะ ชอบมากกกกก
.ช้อยู่ก็โอเคเลยนะ แต่สายใช้งานหนักมากๆอาจจะไม่เหมาะ หรือจะชาร์จบ่อยขึ้น
ผมเป็นหนึ่งในคนที่ตัดสินใจซื้อ mini และกดพรีออร์เดอร์
ใช้มาไม่มีผิดหวังเลยครับ รักมาก ความรู้สึกนี้หายไปนานตั้งแต่ผมเลิกใช้ Moto RAZR (แอนดรอยด์นะ ไม่ใช่ฝาพับ555) รู้สึกว่ามือถือมันใหญ่ขึ้นทุกวัน ไม่ตอบโจทย์แล้ว ขนาดพอดีมือนี่แหละยอดเยี่ยม
แต่อย่างที่บทความบอก เครื่องใหญ่กว่าราคาถูกกว่าแถมแบตอึดกว่ายังอยู่ในตัวเลือก คงโดน XR 11 กับ SE แย่งส่วนแบ่งไปมากอยู่
เลือก mini ไปเหมือนกัน คือพอดีสุดๆ ความจุแบตน้อยจริงแต่ก็อยู่ได้ทั้งวันนะ ที่สำคัญคือมือเดียวแตะได้หมดทั้งจอ ทั้งเบาและสบายมากๆ
สเปคแทบไม่ต่างกันเลย ต่างกันแค่จอเล็กกับใหญ่ ก็ไป 12 หมดละ