ในวงการรถยนต์ไร้คนขับเป็นที่ยอมรับว่า Waymo มีเทคโนโลยีที่พร้อมและล้ำหน้ากว่าเจ้าอื่นอยู่หลายปี แต่ในแง่การตลาดและความแพร่หลายแล้ว Autopilot ของ Tesla ถูกพูดถึงและถูกนำไปใช้งานมากกว่า
John Krafcik ซีอีโอของ Waymo ถูกถามถึง Tesla กับสื่อในเยอรมนี พูดถึง Tesla เรื่องระบบไร้คนขับว่าไม่ใช่คู่แข่งของ Waymo ในเรื่องนี้ เพราะ Waymo ผลิตระบบไร้คนขับแบบไม่ต้องมีคนมานั่งหลังพวงมาลัย แต่ของ Tesla เป็นบริษัทรถยนต์ที่ทำระบบช่วยขับขี่ (driving assistance) ที่ดีเท่านั้น
แนวทางของ Waymo ค่อนข้างสวนทางกับ Tesla อย่างมาก เพราะระบบ Autopilot ของ Tesla ตอนนี้เป็นแค่ระบบช่วยขับขี่จริง และอาศัยการเก็บข้อมูลจากลูกค้าที่ใช้งานไปเรื่อย ๆ เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมและปล่อยเป็นอัพเดตไปให้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีปัญหาทั้งเรื่องชื่อ Autopilot ที่ทำให้คนเข้าใจผิด จนเปิดระบบนี้และไม่สนใจจะมองถนนหรือจับพวงมาลัย
ปัญหานี้ Waymo มองเห็นมาตั้งแต่สมัยยังเป็นแค่โปรเจ็คไร้คนขับภายใต้ Google ช่วงต้นทศวรรษ 2010s ที่ตอนนั้น Google มีแผนจะพัฒนาระบบช่วยเหลือคนขับเหมือน Autpilot และขายให้กับบริษัทรถยนต์ แต่เมื่อนำไปทดสอบบนถนนจริง กลับพบปัญหาว่า คนไว้ใจเทคโนโลยีเกินไปจนไม่สนใจการขับขี่ ทั้งที่ตัวเทคโนโลยียังไม่พร้อม ทำให้ทีมงานเปลี่ยนแผนและตัดสินใจ จากแค่พัฒนาระบบช่วยขับขี่ กลายมาเป็นพัฒนาระบบไร้คนขับที่สมบูรณ์แบบในปัจจุบัน
ที่มา - ArsTechnica
Comments
ตั้งตารอเลย
ถ้าเทสช่า พัฒนาระบบ ไปเรื่อย โดยอาศัย ข้อมูลจากลูกค้า ส่งกลับมา ระบบ น่าจะเก่งขึ้น มาก หรือเปล่า
ยิ่ง ตอนนี้ ขยายฐานการผลิตมากขึ้นเรื่อย เอไอก็ น่าจะเก่งตามขึ้นมา
ตอนนี้ Waymo พัฒนาไปถึงระดับไหนแล้วครับ ถ้าจำไม่ผิด tesla น่าจะระดับ 3
4
มีกี่ระดับ
6 ระดับ
Level 0 - No Automation
Level 1 - Driver Assistance
Level 2 - Partial Automation
Level 3 - Conditional Automation
Level 4 - High Automation
Level 5 - Full Automation
มาทีหลังแต่จะล้ำกว่าสินะ
จริงดูคล้ายกัน แค่ทำเอาสุดไปเลย หรือเอาพวงมาลัยออกไปเลย คนนั่งหันหน้าคุยกันได้ เหมาะกับคนเดินทาง แต่คนอยากขับรถเอาสนุกคงไม่ใช่