ในรายงานผลประกอบการของ Facebook ไตรมาส 4 นั้น Mark Zuckerberg ได้พูดถึงแนวทางการแสดงเนื้อหาทางการเมืองบน Facebook ที่อาจกระทบต่อการดูเนื้อหาบนหน้าฟีดของทุกคน คือ Facebook จะหยุดการแนะนำกลุ่มและเพจการเมืองบนหน้าฟีด ให้เนื้อหาทางการเมืองแสดงบนแพลตฟอร์มน้อยลง และเน้นการทำงานเพื่อสร้างพลังบวกและความใกล้ชิดของผู้คนมากขึ้น
Zuckerberg บอกว่า ก่อนหน้านี้ Facebook ได้หยุดแนะนำกลุ่มพลเมืองและกลุ่มการเมืองในสหรัฐอเมริกาก่อนเลือกตั้ง และกำลังมองต่อยอดให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และวางแผนที่จะป้องกันไม่ให้กลุ่มพลเมืองและกลุ่มการเมืองได้รับคำแนะนำบนหน้าฟีดในระยะยาว และขยายไปทั่วโลก เพื่อลดอุณหภูมิความรุนแรง และลดความแตกแยกบน Facebook
อย่างไรก็ตาม Zuckerberg ไม่ได้บอกรายละเอียดเจาะจงว่า เนื้อหาหรือกลุ่มแบบไหนเข้านิยามความเป็นกลุ่มการเมือง แล้วสิ่งนี้จะกระทบต่อการรับข้อมูลข่าวสารจากหน้าฟีดหรือไม่ ในอีกด้านหนึ่ง Facebook ก็ถูกวิจารณ์ว่าสร้างความแตกแยกทางการเมืองมากเช่นกัน
ภาพจาก Mark Zuckerberg ถ่ายในปี 2017
ท่าทีต่อประเด็นการเมืองของ Facebook ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่เกิดเหตุบุกรัฐสภาสหรัฐฯ มีการแบนโดนัลด์ ทรัมป์ และแบนโพสต์คัดค้านผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วย
ที่มา - Engadget
Comments
หยุดแนะนำให้ครบทุกฝ่ายด้วยนะครับ. ไม่ใช่หยุดแนะนำแค่ของฝ่ายเดียว 555
แหม่ หยุดใน fb ก็ไปโผล่เว็บอื่นครับ
บางคนเขียนข่าวอิงการเมือง มากกว่าข่าวไอทีอีก
การดุเนื้อหา> การดูเนื้อหา
น่าจะทำตั้งนานแล้ว
มันจะกลายเป็น Filter Bubble ไหม?
คือกลายเป็นว่าแต่ละคนก็จะได้รับข้อมูลข่าวสารทางการเมืองแค่ฝั่งเดียวจากกลุ่มที่ตัวเองติดตาม ไม่รับรู้ความเห็นต่างหรือข้อเท็จจริงใดอื่นๆเลยนอกจากข้อมูลที่ตัวเองอยากเห็นเลย
ทุกวันนี้ ผมก็เห็นเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนะ
เรื่องเดียวกัน แต่เข้าใจไปคนละแบบเลย
เพราะข้อมูลใน feed เขาไม่ขึ้นข้อมูลอีกด้านนึงเลย
มันเป็นที่อัลกอริทึมของ FB เองที่เป็นแบบนั้น
แต่ละคนจะได้กะลาส่วนตัวที่มีแต่ข้อมูลฝ่ายที่ตัวเองสนใจขึ้นมาใน feed