Facebook ออกแคมเปญใหม่ในชื่อ Good Ideas Deserve to be Found หรือไอเดียดี ๆ ควรถูกค้นพบ มีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ของโฆษณาแบบปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalized Ad) ว่าช่วยให้ผู้ใช้งานได้ค้นพบธุรกิจหรือบริการ ที่เขาชื่นชอบและได้ร่วมสนับสนุนธุรกิจเหล่านั้น
แคมเปญนี้เป็นการต่อสู้กับระหว่าง Facebook กับแอปเปิลรอบล่าสุด ในประเด็นการปรับค่าความเป็นส่วนตัวบน iOS 14 ที่ส่งผลต่อการทำโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Target Ad) ซึ่งก่อนหน้านี้ Facebook ย้ำว่ากระทบกับธุรกิจขนาดเล็ก
โฆษณาในแคมเปญดังกล่าวเล่าถึงธุรกิจขนาดเล็ก ที่ใช้ประโยชน์จาก Target Ad บน Facebook ทำให้พวกเขาสามารถสร้างฐานลูกค้าที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกันขึ้นมาได้ โดยจะเผยแพร่เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งบน Facebook, โทรทัศน์ และวิทยุ
Comments
ผมไม่เข้าใจไอเดียว่าทำไม facebook มาเปิดประเด็นออกสื่อว่ารบกับ apple ให้ตัวเองดูแย่ทำไม
ที่จริงมันควรเป็น facebook ออกมาขี้แจง user "ที่จะ" ไม่ยอมกดอนุญาตแอปเพื่อเก็บข้อมูลว่า "มันดี" กดยอมรับเหอะคุ้มสุดๆเลยนะ อะไรแบบนั้นไม่ใช่หรือ!?
เห็นด้วยครับ
รับไปเลย 1 dislike
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไม่น่ายาก ใครไม่ยอมก็ไม่ให้ใช้บริการ เหมือนหลายเว็บไม่ยอมรับคุ๊กกี้ก็เข้าไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็แทบไม่มีใครอ่านอยู่แล้วว่าขออะไรมา กด ยอมรับ ตลอด
ถ้าทำแบบนี้เป็นโอกาสอันดีที่ social ใหม่จะเกิดเลยครับ
ความรู้สึกเหมือนบริษัทน้ำมันพยายามออกมาแถว่า รถใช้นำมันดีกว่ารถไฟฟ้ายังไง เพื่อให้คนยังใช้รถใช้น้ำมัน
เหมือนกลัวไม่ได้เงินงั้นอ่ะ
มีธุรกิจ หรือใคร ทำธุรกิจโฆษณากับเฟส แล้วได้ประโยชน์เยอะไหม หรือไม่ได้เลย ฉะนั้นมันจึงควรถุกปิดไหม
คนที่เพื่อนผมรู้จัก ขายของแล้วลงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเนี่ยแหละครับ จ่ายให้เฟซบุ๊กรวม ๆ เป็นล้าน แต่ได้กลับมาเยอะ มีบ้านมีบีเอ็ม มีตึกแถว ชีวิตดีได้ด้วยเฟซบุ๊กเนี่ยแหละครับ
ก็มีคนใช้บริการลงโฆษณาตามบริการต่างๆ ซึ่งการที่ไม่ Personalized Ad มันอาจส่งผลให้การโฆษณาไม่ได้ผลอย่างที่เคย เพราะมันอาจไม่ได้ยิงโฆษณาไปแบบสุ่มแทนที่คนที่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย
อีกกลุ่มหนึ่งก็นักพัฒนาที่ใช้ Ads Framework ต่างๆในการสร้างรายได้ ซึ่งการที่ไม่ Personalized Ad มันส่งผลให้นักพัฒนาได้รายได้จากช่องทางนี้น้อยลง เพราะมีโอกาสสูงที่ผู้ใช้จะไม่สนใจ Ads ที่ถูกยิงไปแบบสุ่ม
จะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของผู้ใช้อย่างเราก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะสุดท้ายสิ่งที่ผู้ให้บริการต่างๆเสียไปก็จะย้อนกลับมาหาเราเองนั่นแหละ เช่น แอปฟรีมีโฆษณาจะเปลี่ยนมาเป็นแอปเสียตังเพราะรายได้จากการโฆษณาไม่คุ้ม หรือต้องขึ้นค่าบริการมากขึ้นเพราะต้องเพิ่มงบด้านประชาสัมพันธ์มากขึ้น
ส่วนคนที่ได้เต็มๆก็คือ Apple ด้วยข้อบังคับที่ต้องจ่ายเงินในแอปผ่าน Apple และได้ส่วนแบ่งนั่นเอง
"แอปฟรีมีโฆษณาจะเปลี่ยนมาเป็นแอปเสียตังเพราะรายได้จากการโฆษณาไม่คุ้ม"
ถ้ารายได้จากการโฆษณาเกิดจากการเอาข้อมูลผู้ใช้ไปขายกินโดยที่ผู้ใช้ "ไม่ยินยอม" เนี่ยก็สมควรเจ๊ง ๆ ไปนะครับ
Apple ให้สิทธิผู้ใช้เลือกครับว่าจะยินยอม หรือไม่ยินยอมที่จะให้แอพพวกนี้เก็บข้อมูลไป ไม่ได้ไปบังคับไม่ให้ Facebook Google หยุดทำ Target Ads เสียเมื่อไหร่?
แอปที่เอาข้อมูลผู้ใช้ไปขายโดยไม่ยินยอมเนี่ย เราฟ้องร้องจนมันเจ๊งได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องรอมีกฏพวกนี้ให้มันเจ๊งหรอกครับ และถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างซื่อสัตย์อยู่ (เอาจริงๆแอปที่ใช้ Ads Framework เนี่ยไม่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้เลยด้วยซ้ำ) แอปพวกนี้ก็สมควรเจ๊งไปด้วยเหรอครับ?
Apple ไม่ได้บังคับให้หยุดทำ แต่ทำให้มันทำยากขึ้น ซึ่งถ้ามันยากจนมันได้ไม่คุ้มเสียมันก็เป็นไปได้ที่มันจะหายไปเองครับ
ท้ายที่สุดแล้ว ผมไม่ได้บอกว่าการที่ Apple ให้สิทธิผู้ใช้ควบคุมเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ดี กลับกันผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำครับ แต่แค่อยากจะบอกว่ามันก็มีผลกระทบอื่นๆที่เราอาจไม่เห็นอยู่ตามที่เม้นแรกถามครับ
Facebook เค้าห่วงธุรกิจที่ทำงานกับเค้าจะได้รับกระทบ
แต่เค้าไม่ได้พูดถึง user เค้าเลย ...
มันชัดมากว่าไม่ได้สนใจ user สนใจแต่ลูกค้า
แล้วใครจะเห็นใจล่ะนั่น
user ก็มีสิทธ์ ที่ไม่ใช้มัน ถ้ามีปัญหาที่ user ไม่ชบอใจ
คนอื่นคิดแบบนี้ได้ก็ดีสิ
วิธีการได้มาของข้อมูลล่ะ...