สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าสนใจในวงการรถยนต์คือการเปิดตัว Mercedes-Benz EQS รถยนต์ไฟฟ้าเกรดพรีเมียม เทียบเท่ารถรุ่น S-Class (ข่าวรถรุ่นต้นแบบ Vision EQS ในปี 2019)
ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจคือคอนโซลหน้ามีจอภาพขนาดใหญ่ 55 นิ้ว (นับจากซ้ายสุดไปขวาสุด) ที่เรียกว่า MBUX Hyperscreen ที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA
NVIDIA มีบทความอธิบายการทำงานของจอภาพนี้ โดยระบบคอมพิวเตอร์เบื้องหลังคือ NVIDIA Drive ไม่ระบุรุ่น ซีพียู 8 คอร์ แรม 24GB ใช้ประมวลผลกราฟิกและ AI ไปพร้อมกัน (รถรุ่น EQS รองรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ level 3)
หมายเหตุ: พิจารณาจากสเปกแล้วน่าจะเป็น NVIDIA Drive Xavier ที่เปิดตัวในปี 2017 โดยใช้จีพียูเป็น Volta แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ (แพลตฟอร์ม Drive ตัวล่าสุดคือ Orin)
คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะคำนวณข้อมูลต่างๆ พิกัดของรถ อุณหภูมิในห้องโดยสาร ช่วงเวลาในแต่ละวัน เพื่อนำเสนอข้อมูลให้เหมาะกับคนขับตั้งแต่แรก ลดความจำเป็นของการกดปุ่มหรือสั่งงานด้วยเสียงลง แนวคิดนี้เรียกว่า zero-layer UI คือแสดงข้อมูลให้ครบไปเลย ไม่ต้องซ้อนทับกันหลายชั้นให้สับสน
ที่มา - NVIDIA, VentureBeat
Comments
เกะกะสายตานะ ความเห็นส่วนตัว
ข้างในมันก็คือจอเล็กๆ 3 จออยู่ดี hardware ไม่มีอะไรว้าว
จริงครับ ยัง งง เลยว่าทำไมเขานับรวมกันเป็น 55 นิ้ว
ปกติขนาดจอวัดจากมุมทแยงนิครับ จอไม่ต้องใหญ่มากแต่ยาวมากพอก็ได้ 55นิ้วแล้ว
The Dream hacker..
ขนาดของจอแสดงผลที่แจ้ง ไม่ว่าจะเป็ยจอชนิดใดก็ตาม ใช้การวัดแนวแทยงเฉพาะส่วนแสดงผลจากมุม ถึงมุมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ
อาจเป็น panel ชุดเดียวเลยนับเป็นหนึ่งหรือเปล่าครับ อย่างจอโฆษณาที่ติดตามที่ต่างๆ ก็เอาจอเล็กๆ มาต่อกัน แต่มีตัวควบคุมแค่ชุดเดียวเขาก็วัดขนาดแนวทแยงมุมในภาพรวม
ส่วนความว้าวก็มีนะ ลองหาคลิปเต็มๆ ดู ส่วนตัวผมชอบประตูรถเปิดปิดเองด้วย gesture ได้ ถึงดูไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่ก็เท่ห์ดี วงการรถยนต์มันมีข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยี เพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ทุกอย่างต้องทดสอบให้เข้ามาตรฐาน เทคโนโลยีล้ำมากๆ ก็ต้องรอทดสอบอีกเยอะ
ชอบครับ มีที่คั้นน้ำส้มให้ด้วย
เดี๋ยว ๆ นั่นมันช่องแอร์ไม่ใช่หรอ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เอามาใช้แทนกันได้คับ 55
การใช้งานน่าจะลำบากน่าดู หลายอย่างขึ้นอยู่บนจอหมด ดูล้ำ แต่รู้สึกว่าล้ำเกินไปหน่อย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าต้องปรับแอร์ผ่าน touchscreen อย่างเดียวนี่ UX ห่วยมากนะ เพราะปุ่มแบบเก่า แทบทุกคนสามารถปรับได้โดยไม่ต้องดูปุ่มถ้าขับรถคันนั้นมานานพอ แต่ touchscreen นี่ขนาดใช้มานานยังแตะผิดถ้าไม่ได้ดูครับ
น่าจะสั่งงานด้วยเสียงได้อยู่นะ
จริงๆไม่ยากอย่างที่คิดนะครับถ้าทำได้แบบ Porsche Taycan
มีสามโหมด เป่าแอร์แบบไม่ต้องโดนตัวเรา เป่าอัดเวลาเราร้อน และปรับแบบ Individual ซึ่งสะดวกกว่าปรับเองอีก
ส่วนตัวคิดว่าอยู่ที่การออกแบบ getsure
เพราะถ้าเป็นจอสัมผัสแบบนี้ มันไม่จำเป็นต้องต้องใช้วิธีแตะปุ่มเหมือนเก่าก็ได้ เปลี่ยนเป็นให้ลากขึ้นลากลงก็ได้ ถ้าแบบนี้มันก็ไม่ได้ยากกว่าการหมุนปุ่มเวลาไม่มองเท่าไหร่นะ
เหมือนอยากโชวล้ำมากกว่าใช้งานจริง
Honda เปลี่ยนไปปรับเสียงแบบ Touch
ยังโดนด่าจนต้องกลับมาใช้แบบหมุนแบบเดิม
Honda City ผมเป็นปุ่ม touch sensitive (ก็คือไม่นูน ไม่มี tactile feedback) พบว่า..ผมแทบไม่เคยปรับแอร์ตอนขับเลยครับ หรือถ้าปรับจริงๆ (เช่นปรับพัดลม) ปุ่มมันก็อยู่ที่เดิมซึ่งก็ไม่เคยกดผิดอยู่ดี
เห็นด้วยครับ
ตอนนี้ผมใช้รถรุ่นเก่า ตอนผมขับรถผมสามารถเอื้อมมือไปปรับนุ้นปรับนี้ โดยที่ตาไม่ต้องมองได้เลย แค่ใช้มือคลำๆเอา
แต่ถ้าเป็น touchscreen ผมต้องมองไปที่จอแน่ๆเลย
บางยี้ห้อปรับทิศทางแอร์ผ่านทัชสกรีนด้วยนะ เอามือไปโยกเองไม่ได้ด้วย
พี่โบกมือปิดประตูรถ แล้วก็เอามือดึงย้ำอีกเพื่อ
เค้าดึงสายเข็มขัดนิรภัยรึเปล่าครับ ?
ถ้าเป็นในคลิปช่วง 0.10-0.14 ผมว่าเค้าเอื้อมไปดึงเข็มขัดนิรภัยนะ
ต้องย้อนดูใหม่ อ้อ จริงด้วย
ไฟหน้าแอบคล้ายรถญี่ปุ่น
Airbag อยู่ยังไงหว่า
นึกว่าจะเอาจอมาใช้แทนกระจกหน้าทั้งบานซะอีก ทำเป็นยานอวกาศไปเลย เห็นภาพข้างนอกได้ชัดทุกสถานการณ์ ไม่ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนเวลาฝนตกเลย ลดของเหลวไปได้อีกหนึ่ง ฮา
อ่านตอนแรก ยังไม่ได้ดูภาพ คิอย่างนั้นจริงๆ
จอ 55 นิ้ว ทำให้คิดอย่างนั้น
ขุดไปขับไปได้ไหมครับ
ถ้า จอ, UI ไม่ได้เชื่อมกัน มันก็เฉยๆ
เหมือนเอาจอ Tablet 3 อันมาแปะบน Dashboard
ไม่ใช่จอแผ่นเดียวนิ แถมขอบจอหลังเบอะยังหนาอยู่เลย
ซื้อมาใช้แล้ว มุขแรกที่ควรเล่นคือ "อย่ากดกระจกลงบ่อย เดี๋ยวถ่านหมด"
เห็นหัวข้อข่าว นี่ก็นึกถึงทีวีขนาด 55 นิ้ว ยังงงว่าจะยัดเข้ารถยังไง
จากรูปจอขวาสุดรู้สึกไม่จำเป็นเลย คนขับจะมองเห็นได้ยังไง มัวแต่ชะเง้อ ชนกันพอดี
จอขวาสุดคิดว่าให้ผู้โดยสารใช้งานครับ