สหรัฐอเมริกายังคงประสบปัญหาประชากรไม่ยอมมาฉีดวัคซีนที่ยังมีจำนวนมาก แต่ละรัฐจึงเริ่มหาวิธีต่างๆ มาดลใจ แทนการบังคับหรือจำกัดสิทธิ์ เช่นล่าสุดรัฐวอชิงตันดีซี นายกเทศมนตรี Muriel Bowser ประกาศว่ารัฐจะแจก AirPods ให้กับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกกับโรงเรียนที่รัฐคัดเลือก
นอกจากนี้ผู้มาฉีดยังได้ร่วมลุ้นรางวัลที่จะแจก iPad พร้อมหูฟัง 8 รางวัล และทุนการศึกษา 25,000 ดอลลาร์ สองรางวัลทุกสัปดาห์ เริ่มต้นสิ้นเดือนนี้ นอกจากนี้พ่อแม่ที่ต้องพาลูกไปฉีดวัคซีน ยังได้รับบัตรของขวัญ Visa ใช้ลดตอนซื้อของผ่านบัตรเครดิต เป็นจำนวนเงินอีก 51 ดอลลาร์ ต่อเยาวชนหนึ่งคนที่พาไปฉีด
ไม่ใช่แค่วอชิงตันดีซี แต่ยังมีรัฐอื่นที่เริ่มออกแคมเปญจูงใจมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ออกลอตเตอรี่ให้ผู้มาฉีดวัคซีน มีรางวัลสไตล์รัฐของคนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นปืนไรเฟิลล่าสัตว์, ปืนลูกซอง, รถกระบะ, เงิน 1 ล้านดอลลาร์ และใบอนุญาตตกปลาและล่าสัตว์แบบตลอดชีวิต และแต่ละรัฐก็เริ่มออกแคมเปญจูงใจฉีดวัคซีนแข่งกันอย่างเต็มที่ เพื่อชะลอการระบาดและลดความอันตรายของสายพันธุ์เดลต้าที่มีต่อผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
ที่มา - Gizmodo
Comments
ท่าทางจะเหลือเยอะ
มีให้ฉีดพอทั้งประเทศแต่ก็ไม่ยอมไปฉีดกันเกือบครึ่ง จนต้องจัดโปรลดแลกแจกแถม
มีโปรแบบนี้ก็วินวิน ส่วนคนที่ฉีดไปก่อนแล้วก็จะเซ็งๆนิดนึง
แล้วพวกฉีดก่อนได้อะไร กลายเป็นคนยิ่งเล่นตัวรอของล่อใจ?
ฉีดก่อนก็ได้ภูมิป้องกันโควิดก่อน
ตามนั้นครับ เหมือนเวลาเกมเมอร์หลังหัก เราก็จะท่องกันว่า "ซื้อก่อนได้เล่นก่อน"
ใครถึกรอท้ายๆ สงสัยแจกไอโฟนกันเลย 555
พูดตรงๆ ผมเองก็ไม่อยากฉีด mrna ไอ้การตัดต่อยีนสร้างวัคซีนฟังดูอันตรายไม่รู้อะไรจะตามมาทีหลัง
Linus Torvalds
เอาไวรัสมาทำเป็นวัคซีนก็ดูอันตรายคือกันครับ
ที่ผมเข้าใจ ภูมิคุ้มกันจะโจมตีสิ่งแปลกปลอม
ในกรณี mRNA มันมีความเป็นไปได้ที่ภูมิคุ้มกันจะโจมตีเซลล์ที่ผลิตหนามโปรตีนนั้นขึ้นมาด้วย (ซึ่งก็คือเซลล์ในร่างกายตัวเอง)
แต่ถ้าเอาหนามไปแปะบนไวรัสตัวอื่น อย่าง viral vector หรือฉีดหนามโปรตีนเพียวๆอย่าง protein subunit ยังฟังดูปลอดภัยกว่า
viral vector ก็สั่งเซลล์ผลิตหนามเหมือนกันครับ
I need healing.
ตามนี้ครับ ตอนนี้ในตลาดทุกตัวที่ได้ผล (แม้จะได้ผลนิดเดียวอย่างซิโนแวค) น่าจะใช้วิธี spike cell หมดเลย
แล้ววัคซีน Viral vector ละครับ
แนะนำให้อ่านโพสต์นี้ mRNA != มรณะ
Jusci - Google Plus - Twitter
ไม่มีใครบังคับให้คุณฉีด mRNA นี่ครับ เลือกตัวที่สบายใจได้เลย วัคซีนไม่ว่าผลิตด้วยเทคโนโลยีอะไรก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ครับ แต่มัน outweighed โดยผลการควบคุมโรคระบาดครับ
ตามนี้ฮะ ใครๆ ก็รักชีวิต เข้าใจได้ว่าไม่อยากเสี่ยงเอาอะไรเข้าตัว
แต่ถ้าไม่รับความเสี่ยงเลย สุดท้ายก็จะถูกบังคับให้เลือกทางที่เราเลือกเองไม่ได้ ไม่ใช่แค่กรณีนี้กรณีเดียว
ที่ US มี J&J เป็นอีกตัวเลือกครับ
Astrazeneca ที่เค้าบอกว่าเป็นวัคซีน"หลัก" ของไทยก็เป็น Viral Vector ซึ่งก็คือการตัดต่อยีนของไวรัสที่เอามาเป็น vector แบบที่คุณว่าตรงๆเลยนะครับ
จริงๆถ้าไม่รู้ควรจะหาข้อมูลหาความรู้เพิ่มเติมครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตด้วย
ซึ่งถ้าหาข้อมูลก็จะพบว่า... AZ ที่ตัดต่อพันธุกรรมเพื่อสร้างไวรัสชนิดใหม่มันฟังดูน่ากลัวยิ่งกว่าเสียอีกครับ
นายกเทศมนตรี Mayor Muriel Bowser -> นายกเทศมนตรี Muriel Bowser
ลูกๆได้ airpods พ่อแม่น่าจะได้ cybertruck
WHO ขอความร่วมมือ ในการกระจาย วัคซีนให้ทั่วโลกก่อนมันจะกลายพันไปไกลมากกว่านี้ เหมือนจะไม่มีใครสนใจเลย
วัคซีนก็จะมากองเป็นภูเขา ณ ประเทศ ร่ำรวยส่วนใหญ่ ไล่แจก ปาใส่หัวกันก็ไม่หมด ส่วนประเทศยากจนก็ ไม่มีใช้
เมือไวรัสไม่ได้ถูกยับยั้ง มันก็จะพัฒนาไปอีก เพิ่มความร้ายกาจ และท้ายที่สุดแล้ว ผลกระทบจะมาถึงประเทศร่ำรวยในที่สุด
ใช่ครับ แล้วเชื้อในสมัยนี้ก็ติดต่อกันง่ายมากแล้วด้วย ผมเชื่อว่า "อาจจะ" มีวันที่ประเทศทั่วโลกเสียใจที่ตัดสินใจดองวัคซีนไว้กับตัวมากกว่ากระจายเพื่อหยุดการระบาดวงกว้าง
จะปิดประเทศอย่างไงก็ยากครับถ้าไม่ใช่ประเทศเป็นเกาะ โลกทุกวันนี้มันเกินกว่าที่จะยับยั้งการเดินทางไปมาแล้ว มันเชื่อมต่อกันง่ายมาก ๆ แล้ว
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
จริงๆอเมริกากลุ่มที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนนี่น่าจะกลุ่ม evangelist โดยมาก อีกอย่างนึงก็ mormon ที่มีข้อห้ามหลายอย่างเยอะแยะเต็มไปหมด ห้ามแม้กระทั่งรับเลือดจากผู้อื่นจนทำให้ตายเพราะป่วยแล้วไม่ยอมรับเลือดบริจาคก็มี เมกากว้างใหญ่ หลากหลายความเชื่อมากครับ
คนที่ไม่อยากฉีด เราทำยังไงๆ เค้าก็ไม่อยากฉีดอยู่ดี ละครับ
สมาชิกในบ้านผม เป็น สว.ไม่ยอมฉีดซักที ให้เลือกจะเอา Oxford/AZ, Sinopharm หรือ จะให้พาไปฉีดmRNAที่ต่างประเทศก็ไม่ยอม
ทั้งๆกิจการของตระกูลของเรา ออกกฏ ให้บุคคลากรทุกคนต้องฉีดวัคซีนCovid-19 (เราหาช่องทางให้ฉีดOxford/AZหรือSinopharmได้) ยกเว้นคนที่ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทำให้ฉีดไม่ได้
แต่ สว ที่เป็นผู้บริหารฝ่ายบุคคล กลับ ไม่ยอมฉีดวัคซีน ซะเอง....
กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว จะไม่ฉีดได้ยังไง
หันมามองประเทศบ้านเกิดผม ทั้งที่พยายามลงทะเบียนตามช่องทางต่างๆ เพื่อหาโอกาสที่จะได้ฉีดวัคซีน แม้แต่เข็มแรกก็ยังไม่ได้ฉีด
แต่บรรดาสลิ่มในกลุ่ม line จะบอกว่า
เนี่ย ตอนให้จองไม่ยอมจอง
เนี่ย ไม่ยอมฉีดวัคซีน
เนี่ย เอาแต่เลือกยี่ห้อ
เนี่ย บลาบลาบลา
แล้วตบท้ายว่า พอมันขาดแคลนแล้วมาเรียกร้องจะฉีดกัน
อ่านแล้วก็งงกับตรรกะสลิ่ม บางคนลงตั้งแต่วันแรกแรก วันนี้ยังไม่มีคิวฉีดเลย
ถึงไปแย่งมาได้มันก็ทำให้ยอดรวมคนที่ฉีดแล้วเท่าเดิมอยู่ดีด้วยนะ
ไปเช็คข้อมูลมา 8 ส.ค
มาเลเซีย ฉีดไปแล้ว 37% ไม่แน่ใจเค้าใช้วัคซีนตัวไหน
ไทยเรา ได้ 14%
แต่การติกเขื้อรายวันใกล้เคียงกันเกือบ 19000 ราย
สหรัฐฉีดไปแล้ว 55% ดูจากราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่ พรุ่งนี้น่าจะยังแสนกว่าๆ กราฟขาขึ้นอยู่
ประเมินดูคร่าวๆ เหมือนว่าวัคซีนปัจจุบันที่มี น่าจะหยุดไวรัสนี้ไม่ได้ และอีก 6 เดือนตัวสายพันใหม่ น่าจะเกิดอีก
ข้อ 2 ผมไม่เห็นด้วย
สายพันธุ์ใหม่ที่มันอาละวาดได้ ก็เพราะมันแรงกว่าสายพันธุ์เดิมเสมอ ไม่งั้นคงไม่ดัง
คุณต้องแยกแยะระหว่างสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ กับสายพันธุ์ที่ถูกบรรจุเป็น Variant of Concern อย่าง Lamda ที่ค้นพบทีหลัง delta แต่เอาชนะ delta ไม่ได้ (แม้ว่าจะมีพาดหัวข่าวออกมาเป็นระยะๆให้คนตกใจ) หรือแม้แต่ delta plus ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าร้ายแรงกว่าเดลต้าปกติ (งานวิจัยวัคซีนบางชิ้นพบว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิเดลต้าพลัสได้ดีกว่าเดลต้าปกติด้วยซ้ำ)
สถิติยอดการตรวจเค้าเป็นกราฟหักหัวแบบเรามั้ยนะครับ