Tags:
Node Thumbnail

ดิสนีย์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 3 กรกฎาคม 2021 โดยบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Disney+ มีผู้จำนวนผู้สมัครใช้งานแบบเสียเงิน 116.0 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่ 57.5 ล้านบัญชี

อย่างไรก็ตามรายได้เฉลี่ยนั้นลดลง 10% เหลือ 4.16 ดอลลาร์ต่อสมาชิกต่อเดือน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากแพ็คเกจ Disney+ Hotstar ในหลายประเทศที่ใช้กลยุทธ์ราคาไม่สูง รวมทั้งประเทศไทยด้วย

ในไตรมาสที่ผ่านมา Netflix รายงานว่าจำนวนสมาชิกทั่วโลกมี 209.18 ล้านบัญชี

ซีอีโอ Bob Chapek ให้สัมภาษณ์หลังแถลงผลประกอบการว่าบริษัทยังคงแผนการทดลอง ที่จะนำภาพยนตร์ฉายเฉพาะในโรงหนังก่อน 45 วัน จากนั้นจึงลงสตรีมมิ่ง เพื่อดูว่าพฤติกรรมผู้ชมเปลี่ยนไปหรือไม่จากการระบาดของโควิด-19 โดยเรื่องล่าสุดคือ Shang-Chi ภาพยนตร์ล่าสุดในจักรวาล Marvel

Chapek ยังบอกว่าดิสนีย์คาดว่าจำนวนสมาชิก Disney+ จะอยู่ที่ 230-260 ล้านบัญชีตามแผนงานภายในปี 2024

ภาพรวมธุรกิจของดิสนีย์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 45% เป็น 17,022 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 923 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มธุรกิจ Parks, Experiences and Products ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานแล้ว อย่างไรก็ตามหากดูเฉพาะธุรกิจสวนสนุกที่เริ่มกลับมาเปิดก็ยังขาดทุนอยู่

ที่มา: CNBC

Disney+

Get latest news from Blognone

Comments

By: deaknaew on 13 August 2021 - 09:20 #1219393

ทำตัวเป็น streaming low cost เอง ดูท่านโยบายอยากได้จำนวนลูกค้ามากกว่า เน้นคุณภาพ

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 13 August 2021 - 10:44 #1219410 Reply to:1219393
KuLiKo's picture

แล้วเค้าทำผิดอะไรหรอครับ อันนี้ผมงงแฮะ ในข่าวก็ไม่ได้มีการตัดพ้ออะไร

By: akira on 13 August 2021 - 12:00 #1219423 Reply to:1219393

มันเป็นเทคนิคการตลาดสมัยใหม่ในการสู้กับ Netflix ถ้าไม่ scale เร็วจนขึ้นมาเทียบโอกาสล่มก็จะสูงจากการถูก Netflix บีบ ส่วนเรื่อง Package ราคาถูกไปไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก อยากจ่าย Package แพงๆ ดูซีรีส์คุณภาพสูง ผมว่าอีกไม่นานก็มา การใช้ชื่อ hotstar มันก็เป็นเหตุผลทางการตลาดอยู่ในตัวของมันสุดท้ายพอสู้ Netflix ได้เดี๋ยวก็โดนบีบให้ใช้ Package ราคาสูงในภายหลังเอง เขาเจาะช่องรอไว้แล้ว

By: jaideejung007
ContributorWindows PhoneWindows
on 14 August 2021 - 08:37 #1219526 Reply to:1219423
jaideejung007's picture

+1

การตลาดล้วน ๆ

ดึงฐานลูกค้าไว้ก่อน

By: มายองเนสจัง
iPhone
on 13 August 2021 - 11:11 #1219414
มายองเนสจัง's picture

ไม่รู้ตอนนี้เลิกCropภาพรึยัง

By: dbpod
iPhoneUbuntuIn Love
on 13 August 2021 - 13:31 #1219448
dbpod's picture

หนัง 4K น้อยมาก

By: mong5 on 15 August 2021 - 22:33 #1219713 Reply to:1219448

สำหรับผมขอให้มีหนังเยอะ มีให้เลือกมาก ๆ อยากดูไรก็ต้องได้ดูหนะครับ ไม่ค่อยซีเรียส เรื่องความคมชัดสักเท่าไหร่

By: Diagnos on 13 August 2021 - 16:19 #1219484
Diagnos's picture

ถ้าให้เลือก Disney+กับ Disney+ Hotstar ผมเลือก Disney+ เสียใจที่ไม่มีให้ใช้ในเมืองไทย กลับไปหา Netflix เหมือนเดิม

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 13 August 2021 - 23:41 #1219513
TeamKiller's picture

ยังไงก็คือ Hotstar มา ไม่ใช่ตัวเต็ม

By: pepporony
ContributorAndroid
on 14 August 2021 - 08:12 #1219524

Family guy บน Disney ตัดเยอะมาก คือแบบจะ (Christian) family friendly ไปไหน

By: IDCET
Contributor
on 14 August 2021 - 11:20 #1219535 Reply to:1219524

อย่างน้อยก็น่าจะยังหาดูแบบไม่โดนตัดบน Youtube หรือต้องหาแผ่นมาเช่าดู หรืออย่างแย่สุดก็ดูเถื่อน มีแค่นั้นเลย

อีกอย่าง ขนาดออกแผ่น DVD ก็ยังโดนแก้และตัดเนื้อหาเลยครับ เช่น TopGear UK ก่อนเปลี่ยนชุดพิธีกร ที่โดนตัดเนื่อหารายงานข่าวออก แล้วเปลี่ยนเพลงประกอบเป็นเพลงอื่น ต่างจากเพลงที่ใช้ตอนออกอากาศเลยก็มี


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: 255BB
Android
on 14 August 2021 - 09:12 #1219530

ดูได้อาทิตย์กว่าๆ ก็ยกเลิกรายเดือน เสียไป 49 บาทเป็นค่าดูแมนโด้กับ frozen แล้วก็โคลนวอร์สสองสามเรื่อง

หลักๆ คือไม่ชอบดาวตรงขวาล่าง เกะกะ รำคาญลูกตามาก ใช้ OLED ด้วยเดี๋ยวจอ burn in กันพอดี (แม้จะมีเทคโนโลยีจอช่วยแต่ก็ไม่ชอบดาวอยู่ดี) แล้วก็ยังไม่มี native app สำหรับ LG TV และได้ยินว่าหนังบางเรื่องตัด ครอปซะจนเสียคุณภาพ

By: bellpocket on 16 August 2021 - 09:00 #1219737

แมนเดิล! ปิ้วๆ สนุกดีนะ :D