ถึงคราวแอปเปิลเปิดตัว iPhone 13 รุ่นไฮเอนด์ คือ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาพร้อมขนาดกล้องหลังสามตัวที่ขยายขึ้น ชิป A15 Bionic และสีใหม่ Sierra Blue
กล้องหลังสามตัวอันเป็นเอกลักษณ์คือ กล้อง Tele เลนส์ระยะ 77mm, กล้อง Ultra-wide ใช้ f/ 1.8, กล้อง wide ใช้ f/ 1.5 ทั้งสองรุ่นมีขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ รองรับการรีเฟรชหน้าจอ 10Hz – 120Hz ปรับรีเฟรชเรตตามการใช้งานของเรา เช่นรีเฟรชจะช้าลงหากเลื่อนอ่านข้อความ
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาพร้อม Super Retina XDR พร้อม ProMotion ซึ่งมีอัตราการรีเฟรชเป็นสองเท่าของ iPhone รุ่นก่อน
ราคา iPhone 13 Pro เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ (38,900 บาท) และ Pro Max เริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์ (42,900 บาท) แอปเปิลยังเพิ่มตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูล 1TB ด้วย (Pro 58,900 บาท และ Pro Max 62,900 บาท) เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 24 กันยายน
ที่มา - CNBC
Comments
ไฮเอนดฺ >> ไฮเอนด์
รีเฟรชจะช้าลง >> รีเฟรชเรตจะช้าลง
เห็นมีบางจุดเป็น รีเฟรขเรต บางจุดเป็น อัตราการรีเฟรช อยู่นะครับ อาจจะปรับเพื่อความ consistency ก็ดีครับ
ตอนผมซื้อ 11 Pro max 64gb รุ่นล่างสุด 39900
มาปีนี้ 13 Pro max 128 gb รุ่นล่างสุด 42900
OMG
ค่าเงินบาทช่วงนี้อ่อนมากๆ
ราคา USA เท่าเดิม
ช่วงนี้เงินบาทอ่อนลงกว่าช่วงปี 2019 ประมาณ 8-10% น่ะครับ
iPhone 12 Pro ตีบวก ตามสไตล์เลขคู่
ข่าวสั้นลงทุกปี
อีกห้าปี คงลงแค่พื้นที่จัดเก็บข้อมูล :p
จริงๆมันมีอะไรให้ว้าวได้แต่เขาไม่ทำสักที กั๊กมาตลอด อย่าง usb-c, สแกนนิ้วบนจอ
Scan นิ้วมันไม่ Privacy ถ้าเห็นข่าวมีพยาบาลแอบโอนเงินคนไข้อาการโคม่าด้วยสแกนนิ้ว แบบนี้ถึงมีก็ไม่ใช้ครับ เมาเหล้าหลับเพื่อนแอบสแกนนิ้วพิมพ์ Status facebook แกล้งได้
ใส่ pass code ก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกันนั้นหละครับ ไม่ยากเลยที่แอบบันทึกช่วงที่เรากรอกพาสเก็บไว้ แล้วกลับมาแกะดูว่ากดอะไรไป กล้องสมัยนี้เล็กและชัดมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาแต่กดพาสที่สาธารณะ กล้องวงจรปิดก็ซูมดูได้ สมมุติคุณทำงานอยู่ในองค์กรหนึ่ง มีกล้องที่ส่องมาในมุมของคุณเป็นประจำ นั้นหมายความว่ามือถือคุณไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว face id สะดวกจริง แต่ด้วยสถานะการณ์ตอนนี้ touch id ก็จำเป็น
แสกนนิ้วบนหน้าจอมันว้าวจริงเหรอครับ
สะดวกแหละครับ กับ ช่วงนี้ใส่แมว น่าจะปลดล็อกหน้าจอได้ง่ายครับ
สำหรับผมน่ะนะ คนอื่นไม่แน่ใจ
เอามือแมวปลดหน้าจอก็น่าจะสะดวกดีนะครับ
+1
อยากใส่แมวบ้างครับ คงน่ารักดี
ปีนี้ไทยขายเร็วแหะ tier 2 เลย จอง 1/10 ขาย 8/10
เร็วมาก ตอนแรกคิดว่าจะเจอปัญหาชิปขาดตลาดของอาจจะมาช้า
แนะนำให้น้องซื้อ 12 Pro Max ไปเมื่อ 3 เดือนก่อน ซื้อ 12 Pro กับ 12 Mini ให้พ่อยังไม่ครบเดือน -_-"
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
กำลังจะถามพอดีว่า เปิดตัวที่ไทยเรา มันขยับเร็วขึ้นกว่าทุกปีใช่ไหม
น่าจะเร็วแบบนี้ของปีที่แล้ว จะได้ใช้ 12pm เร็ว ๆ หน่อย ?
ไม่รู้ กสทช. ทำงานเร็ว หรือตกลงกันได้ว่า่ ไม่เปิดเผยข้อมูลจนกว่าจะประกาศ
เปล่าครับ ไทยยังเป็น tier 3 เพียงแต่ประเทศที่เป็น tier 2 เดิม หลายประเทศขยับเป็น tier 1 ทำให้ขยับเป็นทอดๆ tier 3 อย่างไทยจึงจำหน่ายเร็วขึ้น
ราคา อลัง เลย 38900 ip13pro
นอน
:O
อ้าว ซะงั้นนน ?
WE ARE THE 99%
ปีนี้คงไม่ซื้อ รอมันปรับเป็น USB-C หรืออัพเดทอะไรที่ดีกว่านี้อีกหน่อย ค่อยจัด อย่าง 13s หรือ 14 ตอนนี้ใช้ 12Pro ก็โอเคอยู่ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
แหม พูดซะเหมือนว่าใช้ 10 หรือ 11 อยู่ 55+
ก็ก่อนหน้านี้ผมใช้ 11 Pro แล้วซื้อ 12 Pro ช่วงกุมภาครับ ไม่ซื้อช่วงที่เป็น Day1 เพราะโปร Serenade มันออกหลังจากนั้นครับ
แต่ปีนี้มันไม่ว้าวเลยไม่ซื้อแค่นั้นเอง ปกติผมซื้อทุกปีตั้งแต่ตอน 11 Pro แต่ปีนี้ไม่เอาดีกว่า 12Pro ยังคุ้มค่าอยู่ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
+1เหมือนกันครับ
เห็นด้วยนะ ผมสนใจ type c มากกว่าแสกนนิ้วใต้จอที่คนโหยหากันมาอีก
ผมรอ Type C ค่อยเปลี่ยนเหมือนกันครับ
หวังว่าเจ้า SE 1st Gen มันจะไม่ตายคามือไปซะก่อนนะครับ
ก็คิดว่าจะมีของแถม
ดีนะที่ไม่ทับศัพท์เป็น โปรโมชัน
^
^
that's just my two cents.
ชอบจอ ProMotion เคยคิดว่าจอ 120 Hz จะเอาไปทำไม พอไปเล่นเครื่อง android ที่จอ 120 Hz เวลาเล่นเกมมันว้าวมาก เคลื่อนไหวลื่นมากเลย แต่สเปคอื่นๆ ไม่ค่อยปรับอะไร รออีกนิดๆ ใจเย็นๆ เครื่องเก่ายังเล่นเกมได้อยู่
ขณะที่พอมาฝั่ง PC คนไม่ค่อยยอมเข้าใจว่าทำไมต้อง 120+ Hz ?
ผมเล่น day gone จอ 60Hz บน PC ที่บ้าน กับไปดูเพื่อนเล่นเกมเดียวกัน จอ 120Hz ผมสังเกตความแตกต่างไปออกนะ สงสัยผมจะตาไม่ถึง 55555
ครั้งแรกสุดอาจจะต้องเอามาวางเทียบกันก่อนครับ พอรู้ว่าต่างตรงไหนนี่แหละเดือดร้อนเลย ผมนี่กลายเป็นใช้จอ 144 แล้วยังแอบรำคาญว่ามันไม่ลื่นทั้งที่ไม่เคยใช้จอที่มากกว่านี้ด้วย ?
ไม่ใช่ตาไม่ถึงหรอกครับ ถ้าไม่ได้เป็นคนเล่นอาจจะไม่รู้สึก (เพราะไม่ได้มองแบบโฟกัสเท่า อะไรงี้ครับ)
จริงๆ มันต้องลองกับเกมที่ใช้ความเร็วสูงครับแบบ valorant overwatch apex บลาๆ เกม single-player อาจจะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไรแต่ก็รู้สึกได้ถ้าใช้ไปชักพัก
อาจไม่ใช่ไม่เข้าใจนะครับ แต่ HW มันดันไปไม่ไหวมากกว่า 4K detail Max บน PC ได้ 60 ผมว่าก็หรูแล้วนะครับ (กับราคา GPU ที่จะมาขับให้มันได้เฟรมเท่านี้อะนะ)ถ้าจะเอา 120 บางทีเงินดาวน์รถอาจจะยังไม่พอ
แค่ scroll หน้าเว็บกับเลื่อนเมาส์ก็รู้สึกแล้วนะครับ ไม่น่ามีการ์ดจอตัวไหน frame rate ตกกับงานทั่วไปชีวิตประจำวัน T-T
อันนี้จริงมาก ๆ เป็นเหตุผลหลักเลย เกมไม่ค่อยซีเรียสเพราะไม่ได้เล่น 555
ผมใช้จอ 120hz ตั้งแต่สมัยที่มันยังเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ กลับไปใช้ต่อ 60hz แล้วกลายเป็นรู้สึกว่ามันช้าเลย ปัจจุบัน 6 ปีแล้ว ก็ยังใช้ตัวเดิมอยู่ (อยากรอ 4K 120hz จะได้เผื่ออนาคตยาว ๆ)
ใช่ครับ ผมว่าเรื่องเกมอะ สักวันอนาคตมัน pc mobile ก็รันช้า เฟรมไม่ถึง เอาแค่ หกสิบ ยังเป็นมาตรฐานใน playstation เลย
แต่เลื่อนจอใช้งานทั่วไปเห็นผลจริง
+1 ส่วนตัวผมหงุดหงิดตอนชี้อจอ 4K 60Hz เลย ตอนนี้ขายจอเก่าแล้วจัด 4K 144hz มา scroll web อีกจอกับ 1440p 144hz 5555
เอาจริง ๆ เกมที่จำเป็นต้องใช้มากกว่า 60Hz ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก e-sport เกมซะมากกว่า อย่าง CS go นี่ RTX 3060 4K Max setting ก็ 140+ อยู่นะครับ ไม่ต้องการ์ดจอดาวน์รถ 555 (แต่รถมอเตอร์ไซค์ก็คงดาวน์ได้อยู่)
แต่ถ้าจะใช้ DLSS ก็พอได้อยู่นะครับ สำหรับเกมอื่น
ปล RTX 3080 Ti ราคาประมาณ 6 หมื่นเองครับ ไม่ถึงกับดาวน์รถ 55 แต่ก็ไม่ใช่การ์ดที่จะดัน 4K 120Hz Max setting ได้ทุกเกม ถ้าไม่เปิด DLSS
ผมใช้ iPadPro กับ SE2020 ตาผมแยกไม่ออกแฮะ รู้แค่ว่ามันสมูทมาก แต่เคยเห็นอคมเมนต์บอก ถ้าใช้ 120 แล้วจะมองจออื่น ๆ ไม่ได้อีกเลย ผมกลับไม่เป็น ถือว่าโชคดี 55+
เดี๋ยวๆ เลื่อนอ่านข้อความนี่ต้องรีเฟรชสูงหรือเปล่า ไม่งั้นโมชั่นฝืดตายเลย
รู้สึกว่าคนจะใช้โปรรุ่นนี้ต้องจริงจังกับการถ่ายหนังมากเลย โชว์ความ cinema grade ระดับ ProRes ชนิดที่ว่าค่ายอื่นล้มตายได้เลย