หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ที่เปิดตัวเมื่อคืนนี้ คือหน้าจอที่รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz ซึ่งคงไม่ใช่ของใหม่อะไรสำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนเรือธงค่ายอื่น และซัมซุงก็คงแค่อยากบอกเอาไว้ให้รู้กัน
โดยบัญชีทวิตเตอร์ Samsung Mobile US ได้ทวีตข้อความหลังแอปเปิลเปิดตัว iPhone 13 Pro ว่า "เรามีหน้าจอที่รีเฟรชเรต 120Hz มาสักพักหนึ่งแล้ว"
สมาร์ทโฟนของซัมซุงรุ่นแรกที่รองรับหน้าจอรีเฟรชเรต 120Hz คือ Galaxy S20 ที่เปิดตัวต้นปี 2020 ฉะนั้นซัมซุงมีหน้าจอแบบนี้ขายมาสักพักหนึ่งแล้วจริง ๆ
ที่มา: MacRumors
We’ve been refreshing at 120Hz for a while now...
— Samsung Mobile US (@SamsungMobileUS) September 14, 2021
Comments
ขอคงามรู้หน่อยครับ ของ iPhone บอกว่าจะปรับให้ auto ตั้งแต่ 10-120Hz ตามการใช้งานเพื่อประหยัดแบต ของค่ายอื่นเป็นแบบนี้เหมือนกันมั้ยครับ
Oppo Find X3 Pro, OnePlus 9 Pro ออโต้ตั้งแต่ 1-120Hz ครับ
ผมว่าตอนนี้พวกนวัตกรรมใหม่ๆแอปเปิ้ลตามหลังอีกฝั่งเกือบหมดแล้วอ่ะ
ยกเว้น CPU ที่ยังนำเขาอยู่ เปิดตัวแต่ละที ชาวบ้านเขาก็มีกันหมดละ
ไม่ค่อยว้าวเท่าเมื่อก่อน
แต่ apple เป็นเจ้าของเทคโนโลยีนี้นะ
https://www.tomsguide.com/news/what-is-ltpo-how-this-tech-delivers-killer-phone-displays
ก็จริงครับ แต่เค้าก็เป็นผู้ชี้นำแนวทางบางอย่าง เล่น ติ่งหน้าจอ ไม่แถมอุปกรณ์ชาร์จ 555
LTPO อุปกรณ์แรกที่ได้ใช้คือ Apple watch 4 นะ Apple ไม่ได้ตามหลังแต่กั๊กไว้มากกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติม
จอ 120Hz Apple ทำใส่ iPad Pro 10.5 ปี 2018
เป็นปีเดียวกับ Razor phone ที่ใช้จอ 120Hz เจ้าแรก
ส่วน Samsung ทำใส่มือถือครั้งแรกในปี 2020
บางทีที่ Apple เลือกมาใส่ในโทรศัพท์ช้า
เป็นเพราะรอความเหมาะสมหรือเปล่า
ไม่ใช่ใส่มาแล้วจะได้ใช้หรือเปล่าก็ไม่รู้
เข่น Auto 1 Hz จะเกิดขึ้นตอนไหน
แล้วถ้าเกิดขึ้นจริง
ก็ไม่รู้จะใช้โทรศัพท์อย่างไร
ถ้าต้องรอต่อ refresh 1 ครั้งต่อวินาที
ขออนุญาตทักนิดนึงนะครับ iPad Pro 10.5 กับ Razor Phone นี่ปี 2017 รึเปล่าครับ
รอความเหมาะสม = กั๊กอ็อฟชั่น
จะว่าไป ถ้าดูตัวคอนเซปท์ มันก็คือ VRR ใช่มั้ยครับ?
Google เองก็ยังต้อนรับโดยการขุดเอาบัญชี nexus มาทวีตว่า I'll wait for Pixel 6
แต่ถ้าข่าวลือ iPhone 14 เป็นจริง Samsung น่าจะทวีตแซวอีกรอบปีหน้าเรื่องกล้องหน้าแบบเจาะรู (เอ๊ะ ยี่ห้อไหนเจาะรูเจ้าแรกนะ แต่ในฝั่งแอนดรอยด์นี่แหละ)
ZTE Axon ครับ
แต่ไม่ใช่ Apple ก็จะไม่มีใครจำหน่อยๆ
รอบนี้แซวของที่มีแล้ว รอดไป
ถ้าแซวเหมือนรอบที่ชาร์จซักพักก็คงได้ทำตาม
แต่ความ ProRes นี่สิที่ไม่มีใครสู้ได้ รู้สึกว่า vision ของทิม คุก น่าจะมองไปไกลถึงขนาดเห็น house production เอาไอโฟนไปวางบนแท่นกล้องแทนกล้อง DSLR ที่ใช้กันเลยนะ ยิ่งดูโฆษณาในช่อง youtube ของ Apple ยิ่งตอกย้ำชัดเลย segment กล้องถ่ายภาพยนต์ระดับ houseฯ น่าจะเป็นเป้าหมายที่เค้ากำลังเจาะอยู่แน่ๆ
ผมว่ามันเฉพาะทางไป คนทั่วไปไม่ค่อยได้ใช้นะครับ
งานที่เค้าทำจริงจังเค้ามีเงินซื้อกล้องแพง ๆ อยู่แล้วครับ เซนเซอร์กล้องไอโฟนเล็กนิดเดียว ถ้าจะทำงานจริง ๆ คุณภาพสู้กล้อง Dslr ไม่ได้หรอกครับ ไหนจะเรื่องเลนส์อีก
อันนี้ผมว่าออกมาขายโปรที่ขี้เกียจพกกล้องใหญ่มากกว่า คนธรรมดาคงไม่ใช้กัน
กับอีกอย่าง ถ่ายงานออกมา แล้วโฆษณาว่างานตัวเองถ่ายด้วยไอโฟนให้คนว้าว ขื่นชม เพราะเท่าที่ผมเห็นงานโปรดักชั่นทั้งหลาย ไม่ค่อยเจองานไหนออกมาบอกว่าถ่ายด้วยกล้องอะไร มีแต่ไอโฟนเนี่ยแหละ ที่ถ้าใช้ไอโฟนถ่ายแล้วจะออกมาบอก
ผมเห็นด้วย
ตลาดน่าจะเป็นกลุ่ม Content Creator ที่อยากทำให้งานดู Professional ขึ้น หรือดูมีพัฒนาการขึ้นมากกว่า
ส่วนตลาด Pro จริงๆ ลงทุนเยอะมาก เพราะงานซีเรียสมากอยู่แล้วครับ
เขาขายคนอยาก Pro ครับ ผมคิดว่าคนที่เป็น Pro จริงๆ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ iPhone ในการถ่ายเลย
เคสที่นึกออกก็มีแค่การถ่ายทำนอกสถานที่ที่แคบหรือเล็กมากๆ จนกล้อง DSLR ไม่สามารถเข้าไปได้เท่านั้นแหละ ถึงจะสลับมาใช้กล้องไอโฟนแทน
ระดับภาพยนตร์ตัดออกไปเลย น่าจะเป็น Creator ที่แบบมีมือถืออยู่แล้ว ไม่ต้องซื้อกล้องดีกว่าไรแบบนี่ยังโอเคกว่านะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ล่าสุดคือดูสัมภาษณ์ Tim Cook แล้ว เค้ากล่าวถึง position 13 pro ว่า It’s like you have a Hollywood rig in your pocket. ก็คงจะแนวๆ content creator ที่ไม่อยากพกกล้องหนักนั่นแหละครับ
Apple เค้าก็ขาย Feeling มานานแล้วแหล่ะ ก็มีอะไรให้แซะมาเรื่อยๆทุกปี แบบ iPad เนี่ยเอาจริงๆ HW ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นกว่าคู่แข่งแบบขาดลอยเลย แต่ Feeling กับประสบการณ์ใช้งานนี่เด่นชัดมากๆจนทิ้งคู่แข่งอื่นไปไกลมาก
จริงๆทั้ง iPhone Airpods Watch เองก็เหมือนๆกันหมด Feeling มันได้ มันก็ขายได้ ขายได้เยอะด้วย แล้วเอาจริงๆ หลายๆบริษัทก็พยายามทำตามแหล่ะ แต่ยงทำไม่ได้
Feeling ที่ว่าผมให้ คือ ความปราณีตนุ่มนวลของ software เลย อนิเมชั่นลื่นติดนิ้วมาตั้งแต่รุ่นแรก ในขณะที่แอนดรอยด์จะลื่นได้ต้อง 90Hz ขึ้น ผมลอง pure android ที่ 60Hz ผมว่าก็ยังแพ้ ios แม้ฮาร์ดแวร์จะเก่ากว่า (Feeling touch) หลายเจ้าพยายามทำ ui ให้คล้าย แต่ไม่ใกล้เคียง สู้ได้ก็ตอนเน้น refresh rate ข่ม
ถ้าผมเป้นแฟนบอยซัมซุงผมคงเสียดายที่มีทีมงานทำตัวไม่พรีเมียมเลย ทั้งๆโทรศัพท์ตัวท๊อปก็ทำออกมาได้พรีเมียมแล้วแท้ แต่หลายอย่างซัมซุงไม่ยอมทำให้บริษัทโทรศัพท์ไปในทิศทางเดียวกัน ชอบเอาความพรีเมียมกับโลคลาสมาผสมๆกัน จนทำให้ภาพลักษโดยรวมแล้ว คนใช้รู้สึกแบรนนี้ไม่ให้อารมพรีเมียมที่แท้จริง การแขวะเพื่อให้เป้นข่าวทำโทรศัพถูกๆด้วยวัสดุที่ถูก การตลาด(ลดแรกแจกแถมเหมือนของไม่มีค่า โดยเฉพาะที่เมกา) บริการหลังการขายที่ไม่พรีเมียมเหมือนแบรนดังๆพรีเมี่ยม เหมือนหัวทีมงานในแต่ละแผนกไม่ตกลงกันก่อนว่า อยากให้แบรนโทรศัพออกมาแบบไหนอยากให้ภาพลักโดยรวมเป้นยังไง (ตัวอย่างเอาโทรศัพตัวทอปทำออกมาอย่างหรู แต่ก็เอามายกชูตัวเองว่าเหนือกว่าแอปเปิล มีแบรนหรูพรีเมียมที่ไหนเค้าทำกัน)
อ้าว ทำไมคุณด่า iPhone ล่ะ งานเปิดตัวพูดซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งมากว่าชิป iPhone เร็วกว่าคู่แข่ง
ภาพลักษณ์ของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ไม่ได้สร้างกันง่ายๆ
จริงๆทั้ง Flip ทั้ง Fold ก็นำเสนอความพรีเมียมสุดๆแล้วนะ
ผมว่าประเด็นที่ทำให้แตกต่างคือเพราะ SS มีผลิตภัณฑ์ที่ตลาดกว้างกว่า ครอบคลุมตั้งแต่ตลาดราคาถูกจนถึงพรีเมียมด้วยแบรนด์เดียวกัน ทำให้การสร้างภาพลักษณ์มันแยกจากกันไม่ขาด ในขณะที่แอปเปิล สนใจแค่ตลาดพรีเมียมและกลางบนเท่านั้นเลยทำทิศทางได้ชัดเจน ทางแก้คงมีวิธีเดียวคือให้ซัมซุงแยกแบรนด์ลูกออกมาจับตลาดพรีเมียมไปเลย แล้วทำแบรนด์ภาพลักษณ์ไปทางนั้นให้สุด
ต้องแยกแบรนด์แบบ
Toyota -> Lexus
Nissan -> Infinity
Honda -> Acura
Acura นี่คนไทยไม่ซื้อกันเหรอ ฮอนด้าประเทศไทยเลยไม่เอามาขาย
ต้องยอมรับก่อนว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของสมาร์ทโฟนแบรนด์ซัมซุง คือ กลุ่มลูกค้าตลาดระดับล่างถึงกลาง ซึ่งกลุ่มนี้จะค่อนข้างอ่อนไหวกับราคา ฟังก์ชัน และสเป็ค การแขวะ การจิกกัด มันทำให้ลูกค้าเค้าแฮปปี้น่ะ ไปดูเว็บฝั่งดรอยด์หลัก ๆ ในไทยสิ เขียนข่าวต้องชงให้ลูกเพจมาด่า แล้วคำด่าลูกเพจนี่แบบ ขยะ กาก อะไรแบบนี้ สงสารบางแบรนด์อย่างโซนี่ พิกเซล ซึ่งก็พยามจะพรีเมียมอยู่ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่แอนดรอยด์เป็นแบบนี้การตลาดบางแบรนด์ก็ต้องตามแหละ
ยอดขาย iPhone SE 12 mini มีกระจึ๋งนึง ยอดขายหลักติดอันดับ คือ 12 กับ 12 Pro Max
กลับกันยอดขายหลักของ Samsung ที่ติดอันดับคือ ตระกูล A Series ทั้งหลาย
นี่คือความจริง เห็นชอบตัดพ้อกันว่าบอกคนใช้ผลไม้ส่วนมากขี้บุลลี่เอย ขี้เหยียดเอย ขี้อวดเอย
แต่กลับมาดูกลุ่มผู้ใช้แอนดรอยด์ทั้งหลายทำตัวได้แบบ.....ขยะยังสูงกว่า ผมเห็นเพียบเวลามีข่าวไรในเพจสีแดงนั่นอะ หรือเพจฟ้าด้วย ไม่รู้พวกนี้มีปมอะไรกันนักหนา เป็นคนชอบตั้งแง่ รณรงค์กันบอกอย่าตัดสินฐานะคนจากมือถือ แต่คนพวกนี้ตัดสินคนใช้ไอโฟนสะงั้น ผมลองดูเทียบประชากร Toxic ทั้ง 2 ฝั่ง น้อยนะที่วั่งผลไม้จะไปแขวะเขา แถมคนในกลุ่มยังปรามยังด่ากันเอง แต่กลุ่มแอนดรอยด์นี่คนละเรื่อง
ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของ Apple ที่เขย่าวงการมักจะเป็นการตัดออกมากกว่าใส่เพิ่มครับ
ของใส่เพิ่มนี่ค่อยๆ หยอดทีละหน่อย แต่ตอนตัดทิ้งนี่ตัดพรวดเลย แล้วคนอื่นก็มาตัดตามๆ กัน
ตัดช่อง floppy disk
ตัดช่อง optical drive
ตัดช่องหูฟัง
ก็ดีแข่งกันไปมา
จอขอบ จอโค้งหายนะ ก็มาจาก Sam นะ
ยังดี Apple ไม่บ้าจี้ทำไปด้วย
Punch Hole ก็ไม่ชอบ รู้สึกยังรับได้กับ notch หยดน้ำมากกว่า
จอ High Refresh rate ใช้แล้วมันรู้สึกดีจริงๆ ขอให้คุมเรื่องประหยัดแบตดีๆละกัน
แล้วไง? ฉันไม่ซื้อของเธอหรอกนะแซมซัง :D