ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์กระทรวงกลาโหมลิทัวเนียออกรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือจากผู้ผลิตจีน 3 ราย คือ Huawei P40 4G, Xiaomi Mi 10T 5G, และ OnePlus 8T 5G ถึงความเสี่ยงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยรายงานระบุถึงความเสี่ยงของโทรศัพท์จาก Huawei ที่ใช้ AppGallery แทน Google Play Store และความเสี่ยงของโทรศัพท์ Xiaomi ที่ส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์, มีฟีเจอร์กรองคำในรายการคำต้องห้ามของจีน, และกระบวนการลงทะเบียนเครื่องที่ส่ง SMS ออกจากเครื่องโดยไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น
ฟีเจอร์ที่เป็นปัญหาที่สุดคือฟีเจอร์กรองคำ โดยโทรศัพท์จะดาวน์โหลดรายการคำต้องห้ามจากเซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ จากนั้นแอปของ Xiaomi 7 แอปที่อยู่ในเครื่อง (Security, Mi Browser, Downloads, Music, Themes, MIUI Package Installer, Cleaner) จะเรียกรายการคำเหล่านี้มาตรวจสอบ และแบนเนื้อหาที่มีคำเหล่านี้ ฟีเจอร์นี้ไม่เปิดใช้งานในยุโรป แต่เนื่องจากโค้ดอยู่ในเครื่องทาง Xiaomi จะเปิดใช้งานเมื่อใดก็ได้
รายการคำต้องห้ามที่ทางศูนย์ดาวน์โหลดมาได้มีทั้งหมด 449 คำ คำบางส่วนเป็นคำทางการเมือง เช่น เอกราชไต้หวันจงเจริญ, ปลดปล่อยธิเบต, หรือแม้แต่สำนักข่าว Voice of America
แนวทางการกรองคำสำคัญที่รัฐบาลจีนไม่ชอบนั้นเป็นแนวทางที่บริษัทเทคโนโลยีจีนใช้งานกันมายาวนาน เมื่อปี 2013 LINE เวอร์ชั่นจีนก็รายการคำต้องห้ามรูปแบบเดียวกัน
update: แถลงจาก Xiaomi
อุปกรณ์ของเสียวหมี่ไม่มีการเซนเซอร์การสื่อสารต่างๆ ทั้งจากและสู่ผู้ใช้ เราไม่เคยและจะไม่จำกัดหรือปิดกั้นลักษณะการใช้งานส่วนบุคคลของผู้ใช้สมาร์ทโฟนของเรา ทั้งการค้นหา การโทรศัพท์ การใช้เวบบราวเซอร์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์การสื่อสารใดๆ ของผู้พัฒนาภายนอก เสียวหมี่เคารพและปกป้องสิทธิทางกฎหมายของผู้ใช้ทุกคน และเราปฎิบัติตามกฎหมายด้านการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป
ที่มา - South China Morning Post, NKSC.LT
Comments
จะของ Xiaomi 7 แอปที่อยู่ในเครื่อง >> แอปของ Xiaomi 7 แอปที่อยู่ในเครื่อง
Xiaomi T10 => Xiaomi Mi 10T
Coder | Designer | Thinker | Blogger
T10 > 10T
ใช้ apple กับ samsung ครัช
+1 สำหรับผมเครื่องถัดไปต้องเป็นแบบนั้นแหละ
รุ่นอื่นของเสี่ยวหมี่ก็น่าจะมีครบมั้งเพราะ app พวกนี้มันฝังมากับเครื่องตอนซื้อเลย แค่เวลาใช้นอกประเทศจีนอาจจะไม่ได้เปิดใช้
search "Mai Kagari"
No Results!!!
จีนสไตล์ หมกเม็ด ยัดเยียด สอดรู้ เพื่อครอบครองโลก
ใจเย็นครับ เค้าแค่ทำตามกฏหมายของประเทศเค้า แต่ลิทัวเนียออกมาเตือน
ประโยคนี้เหมือนที่ผมได้ยินสลิ่*พูดถึงเมกาเป๊ะๆเลยครับ
จะมีหมีพูไหมนี่
ไม่น่านะครับ
ไลน์ OpenChat ก็มีแบนคำต้องห้าม บางคำยังไม่รู้จักเลย ได้มารู้จักมันลบนี่แหละ
เช่น เกมที่ผมเล่น มีแคลนนึงชื่อ T2RC พอแชร์รูปในเกมที่ติดชื่อแคลนนี้ ก็โดนลบ
ปรากฎว่าคำว่า T2R คือคำต้องห้ามงี้ กลายเป็นชี้โพรงให้กระรอกไป
นึกถึงสมัยที่ Ragnarok ยังไม่มีเซิฟไทย คนไทยไปเล่นเซิฟอินเตอร์แล้วป่วนคำหยาบแบบพิมพ์เป็นทับศัพท์ (เช่น k_y, y_d) จนโดนแบนเป็นคำต้องห้ามทั้งๆที่ไม่มีความหมายอะไรกับประเทศอื่นเลย
"ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์กระทรวงกลาโหม" ของบ้านเราทำอะไรบ้างนะ