SK Broadband ผู้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในเกาหลีใต้ ได้ฟ้องร้อง Netflix เพื่อให้บริษัทช่วยจ่ายเงินต้นทุนทราฟิกอินเทอร์เน็ต และต้นทุนการดูแลรักษาที่เพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับดู Netflix มากขึ้น โดยศาลกรุงโซลให้ความเห็นที่รับการฟ้องร้องนี้ ว่ามีเหตุผลพอที่ Netflix ควรจ่ายเงินให้บริษัทบรอดแบนด์
ข้อมูลจาก SK Broadband ระบุว่าซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก รวมถึงเรื่องล่าสุดอย่าง Squid Game เป็นปัจจัยให้การชม Netflix ในประเทศเพิ่มสูงมาก จนตอนนี้เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ปริมาณทราฟิกสูงเป็นอันดับ 2 ในเกาหลีใต้ รองจาก YouTube เท่านั้น และมีเพียงสองบริการนี้ที่ยังไม่จ่ายเงินให้กับผู้ให้บริการบรอดแบนด์ ขณะที่บริษัทอื่นอย่าง Amazon, Apple และ Facebook มีการจ่ายเงินให้ ปัจจุบันทราฟิกข้อมูลของ Netflix ที่ต้องรองรับคือ 1.2 ล้านล้านบิตต่อวินาที เพิ่มขึ้นมา 24 เท่า จากเดือนพฤษภาคม ปี 2018
ด้าน Netflix ชี้แจงว่าบริษัทกำลังตรวจสอบข้อเรียกร้องของทาง SK Broadband ขณะเดียวกันก็กำลังทำงานร่วมกันด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้า SK Broadband จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
ที่มา: Channel News Asia
Comments
Netflix เค้าก็ต้องจ่ายค่าเน็ตส่วนของเค้าอยู่แล้วด้วยนะ
+1
Users มีการใช้ bandwidth ของ inter มากขึ้น มันก็ถือเป็นปัญหาของ ISP สิ
(นี่ยังไม่นับ local CDN ในเกาหลี ที่ Netflix ไปอาจจะไปจ่ายซื้อบริการเพื่อลดปัญหานี้แล้วด้วยนะ ซึ่งยิ่งถ้าเป็น local traffic นั่นคือปัญหาของ ISP เต็มๆ)
หน้าที่ของ ISP ก็ควรจะต้องเพิ่ม bandwidth ของ inter ให้เพียงพอต่อการใช้งาน คุณจะมาโทษว่าเป็นเพราะ user ใช้ service ใด service หนึ่งเยอะเกินเหตุไม่ได้ แล้วมาโบ้ยว่าเจ้าของ service เป็นต้นเหตุ .... มันไม่ใช่ป่าว?
มันคือ "Net Neutrality"
ถ้า ISP ไม่ยอมเพิ่ม มันก็จะเกิด
1. user เปลี่ยนเจ้า ISP ไปใช้เจ้าที่ใช้งาน Netflix ได้
2. user โวย Netflix ว่าใช้งานไม่ได้ ก็อาจจะยกเลิก Netflix
Netflix ก็ต้องเพิ่ม Bandwidth ขาออกเขา
ทาง ISP ก็ต้องขยายเหมือนกัน
เสียทั้งคู่เลยนะเนี่ย แบบนี้ถ้าทำบริการขายดีเกินต้องเสียค่า bandwidth สองต่อเลยซิ
ถ้าจำไม่ผิด NF ใช้บริการของ Amazon ไม่ใช่หรอ ซึ่ง Amazon ก็มีเซิฟเวอร์ใน Seoul แบนวิธก็วิ่งภายในประเทศอยู่แล้ว และ Amazon ก็ต้องซื้อแบนวิธ Domestic อยู่แล้ว ซึ่งถ้าทราฟฟิคจาก SK เยอะก็แสดงว่ามี user ใช้ SK เยอะก็ได้ตังจาก user อยู่แล้ว ทำไมจะต้องมาฟ้อง Netflix แบบนี้ Netflix ก็ต้องจ่ายให้ทั้ง Amazon , SK เลยสิ SK อะควรไปขยายท่อแบนวิธภายในประเทศของตัวเอง
netflix ใช้ระบบ streaming ของตัวเองครับ ไม่ได้ใช้ aws (aws ใช้เป็น backend อย่างเดียว)
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ NF ก็มี CDN ในเกาหลีอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องจ่ายค่าแบนวิธอยู่แล้ว SK จะเพิ่มฝั่งเดียวไม่ได้
ผมเลยมองว่า SK เห็นแก่ตัวไปหน่อย
ถ้ามองในมุมบ้านเราก็อาจจะแปลกๆครับ
แต่ถ้ามองในมุมบ้านเขา อาจจะ ถือว่าปกติ (เพราะเจ้าอื่นก็จ่ายกัน)
แต่ถ้าคิดอีกมุมคือ เขาให้บริการ ลูกค้าในราคาที่”สมมติว่า”ถูกอยู่แล้ว กับต้นทุน
แต่ต้นทุนดันสูงขึ้น เขาก็ไปบีบผู้ให้บริการแทน เพราะไปบีบที่ลูกค้าคงไม่ได้ หรือปล่อยให้ลูกค้าใช้ตามมีตามเกิดก็ไม่ได้ (จะลด speed หรือเปลี่ยนรทคา ลูกค้าคงไม่ยอม)
กรณีนี้น่าสนใจ เพราะปกติเราคิดว่าผู้ให้บริการแบบ Netflix ไม่น่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรพิเศษให้ ISP อีก นอกจากค่าอินเตอร์เน็ตปกติทั่วไป และมองในแง่ของ ISP หากมีบริการแบบ Netflix มากๆ ทาง ISP ก็ควรเพิ่ม bandwidth มากๆตามไปด้วยเอง และได้ค่าบริการจากลูกค้าที่ดูหนังอยู่แล้ว
แต่ทาง ISP อาจจะมองว่า Netflix ไปแย่งใช้ bandwidth มากจนเกินไป ทำให้ผู้ใช้ปกติคนอื่นๆ ที่มีจำนวนมาก ใช้งานติดขัดโดยไม่จำเป็น และทาง ISP ก็ต้องไปเพิ่ม bandwidth มากๆ โดยไม่จำเป็น เพราะปัญหา bandwidth ไม่เพียงพอ จะเกิดขึ้นในช่วงที่มีหนังที่คนสนใจดูจำนวนมากเท่านั้น ไม่ได้มีตลอดเวลา
การลงทุนเพิ่ม bandwidth มากๆเผื่อช่วงเวลาที่มีหนังที่คนสนใจมากๆ เป็นการเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น หากไม่คิดกับทาง Netflix ก็อาจจะต้องไปเพิ่มจากคนใช้เน็ตทั่วไปแทน
ใช่ๆ
คงออกมาสักรูปแบบนึงนึงหรือออกมาแบบที่คิดไม่ถึงก็ได้
เทคโนโลยีเปลี่ยน การใ้ชงานเปลี่ยน รูปแบบธุรกิจก็คงต้องหาทางเปลี่ยนด้วย
ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการจ่ายให้ ISP เท่าไหร่นะ ผมชอบแนวทาง Net Neutrality มากกว่า ไม่อยากให้ Traffic/Route กลายเป็นสินค้าของ ISP ตอนนี้อาจจะแค่เก็บเงินจากผู้ให้บริการ แต่กลัวว่าอนาคตมันจะไปเก็บเงินกับลูกค้าแทนนี่สิ (หมายถึงเก็บเงินเพิ่มหากต้องการจะใช้ผู้ให้บริการต่างๆอะไรทำนองนี้นะครับ เก็บเงินเพิ่มเพื่อเพิ่มคุณภาพโดยรวมอันนี้โอเค)
ส่วนเรื่อง Bandwidth ของ ISP ไม่พอผมมองว่ามันเป็นปัญหาของ ISP เอง ถ้าสู้ไม่ไหวก็รอแพ้ไปตามกลไกตลาดครับ แน่นอนว่าการขอความช่วยเหลือหรือขอความร่วมมือเพราะอยากจะอุ้มค่าบริการของผู้ใช้ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่การไปบีบคอให้จ่ายเนี่ยผมไม่เห็นด้วยครับ
Netflix Broadband Soon™
การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ก็น่าคิดนะว่าสมเหตุสมผลหรือไม่
ถ้าจะให้แฟร์สุดน่าจะต้องคิดเงินกับฝั่งผู้ใช้ตามปริมาณ data
That is the way things are.
ถ้าเทียบกับถนน รง. ที่ผลิตสินค้าที่คนต้องการจำนวนมากก็ต้องจ่ายค่าบำรุงสินะ
แต่ปรกติรถที่วิ่งก็เสียภาษีอยู่แล้วตามพิกัด
นึกเฉยๆ จะเทียบกันได้มั้ยไม่รู้
ผมว่าเค้าคงไม่อยากไปขึ้นราคาน่ะ เลยไปหาเรื่องคนอื่นก่อนค่อยมาหาเรื่องลูกค้า
ถ้าจะให้เปรียบเปรย...
เคสนี้ก็ประมาณว่าคนแห่ขึ้นรถไฟไปที่ๆหนึ่ง (เช่น ไปส่งดาราที่สนามบินหรือไปงานอีเวนท์ในห้าง) จนผู้ใช้รถไฟทั่วไปลำบาก (เพราะคนแน่นเกินนนน) ผู้ให้บริการรถไฟก็เลยขอเก็บเงินจากเจ้าของสถานที่ที่ว่านั่นแหละครับ
เกาหลีควรมาดูงานในไทย ฮ่ะๆๆ