กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ประกาศปรับกับกระบวนการจ้างบุคลากรด้านความมั่นคงไซเบอร์ใหม่ทั้งชุด โดยปรับ 3 ด้านจากการจ้างงานราชการอื่นๆ ได้แก่
- กระบวนการจ้างเรียบง่าย: ตัดเงื่อนไขการจ้างที่ไม่จำเป็นออก มองตามความสามารถที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก อาศัยการทดสอบจริงเพื่อแสดงความสามารถ
- ปรับเงินเดือนให้แข่งขันได้: แม้จะเป็นงานราชการแต่ก็ปรับเงินเดือนให้ใกล้เคียงเอกชนมากขึ้น เปิดเผยอัตราเงินเดือนไว้ในหน้าเว็บ ในแต่ละตำแหน่งงาน เริ่มต้นขั้นต่ำสุด 56,950 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณเดือนละ 150,000 บาท พร้อมเงินเพิ่มตามอัตราค่าครองชีพที่แพงกว่าปกติในบางพื้นที่
- เตรียมการเติบโตในสายงาน: เพิ่มการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ต่อเนื่องเพื่อให้เติบโตในสายงานต่อไปได้
การปรับกระบวนการจ้างครั้งนี้ทำให้อัตราเงินเดือนระดับผู้บริหารขึ้นไปถึง 240,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7.9 ล้านบาทต่อปี ทางรัฐบาลสหรัฐฯ หวังว่าการปรับกระบวนการเสียใหม่นี้จะช่วยเติมบุคลากรภาครัฐที่ขาดแคลนมานาน
ที่มา - The Record, DHS
Comments
เงินเดือนเหมาะสมกับความสามารถดีแท้ยิ่งเก่งยิ่งได้เงินเดือนเพิ่มตามความสามารถ จะได้ไม่ต้องไปหาช่องทางพิเศษหาเงิน อยากให้ราชการไทยปรับตัวแบบนี้บ้างจะเอาคนที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานแต่จ้างแค่ 20-30k แล้วหวังพ่วงค่าประชุมค่าดูงานค่าจัดซื้อแล้วเมื่อไรมันจะพัฒนาได้สักที
20-30 เยอะไปครับ 15 ก็หรูแล้วครับ
ประเด็นของราชการไทย ส่วนมากคือจะเพราะจ้าง พนักงานสัญญาจ้างมาทำงาน แล้วพวกนี้เงินเดือนจะถูกมากๆ และแทบไม่มีสวัสดิการอะไรเลย คนส่วนมากก็ยอมทำเพราะหวังว่าวันนึงจะได้บรรจุ
แล้วก็ถูกใช้งานหนักมาก
ขยายความให้อีกนิด ที่ราชการจ้างกันตอนนี้เป็นระบบ "จ้างเหมาบริการ" คุณภาพชีวิตแย่กว่าพนักงานบริษัทปรกติอย่างมาก แต่คนยอมเพราะคิดว่าได้เงินเยอะ แต่การเบิกจ่ายเป็นรูปแบบ "จ้างทำของ" ลงจ่ายเป็นรายวัน หรือบางหน่วยงานลงเป็นรายชั่วโมง สวัสดิการไม่มีใด ๆ ไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่ลูกจ้างควรได้รับ เช่น สิทธิการลาป่วย ลาคลอดบุตร ลากิจส่วนตัว และลาพักผ่อน(พักร้อน) โดยได้รับค่าตอบแทนระหว่างลา ยิ่งช่วงโควิดหยุดเยอะๆ สำนักงานไม่เปิดนี่ชัดเจนมาก ถ้าได้ WFH ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ก็ซวยไม่ได้เงินไปตามระเบียบ แล้วสวัสดิการรักษาพยาบาลก็สิทธิ์ประกันพื้นฐาน ไม่ใช่ประกันสังคมที่จะได้เงินสมทบของผู้ว่าจ้างเข้ากองทุนประกันสังคม ไม่มีความมั่นคงใด ๆ แถมไม่มีสิทธิได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือนในอนาคต
ซึ่งระบบ "จ้างเหมาบริการ" เป็นระบบจ้างงานที่เลวร้ายบัดซบ ไม่คิดว่าราชการไทยจะใช้ระบบจ้างงานที่ไร้มนุษยธรรมได้ขนาดนี้
ผมเห็นบางคนคือยอมทำจ้างเหมาบริการมาเป็น 10 ปีเลยก็มี
ส่วนใหญ่เป็นงานธุรการทั่วๆไป แต่ก็เข้าใจว่าด้วยทักษะที่มีนั้นมันค่อนข้างลำบากที่จะไปหางานทำ เพราะเป็นตำแหน่งที่ใครก็ทำได้ ยิ่งอายุเยะ ยิ่งลำบาก
จ้างเหมาบริการ มันก็คือ Outsource นี่ครับ
ตัวผู้ถูกจ้างนั่นแหละคือเจ้านายตัวเอง ทำงานก็ได้เงิน ไม่ทำก็ไม่ได้เงิน อยากได้สวัสดิการก็ลงทุนจ่าย ปกส. ให้ตัวเองเอา และส่วนมากพวกที่มาทำนี่ก็คือพวกลูกจ้างทั่วไป กับลูกจ้างตามภารกิจที่เกษียณอายุแล้วไม่รู้จะไปทำอะไร ก็มาเกาะเงินที่ทำงานเดิมต่อไปเรื่อยๆ
ประเด็นที่ผมนำเสนอคือ "มันไม่ควรจะมีระบบการจ้างงานในลักษณะลูกจ้างแบบรายเดือน เข้ามาปฎิบัติงานแบบข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท ให้ทำงานรับเงินแบบรายวันหรือแบบจ้างทำของ ซึ่งมันไปรินรอนสิทธิขั้นพื้นฐานที่ลูกจ้างควรจะได้รับ"
มันไปริดรอนสิทธิของเขาตรงไหนครับ
ก็ในเมื่อรัฐไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้านายของเขา เป็นแค่ผู้ว่าจ้างเฉยๆ
ก็เหมือนคุณไปจ้างช่างมาทำบ้านคุณนั่นแหละ ทำเป็นเดือนๆ คุณจ่ายเงินเมื่องานเสร็จ ไม่เห็นคุณจะทำเรื่องส่งประกันสังคมเป็นสวัสดิการอะไรให้เขาเลยนี่ครับ
อื้อหือออออ
?
เริ่มต้นขั้นต่ำสุด 56,950 ดอลลาร์ต่อปี
ว่ากันตามความเป็นจริงที่ในปัจุบัน ภาคเอกชนในUSA ก็หาบุคลากรด้านนี้ได้ค่อนข้างยาก แค่ 56,950 USD นี่ ภาคเอกชนเค้าให้มากกว่านี้อีก ผลประโยชน์นอกเหนือเงินเดือนของเอกชนในUSAเผลอๆดีกว่าของภาครัฐอีก
งานราชการนี่นับจริงๆ การแข่งขันได้ ผมว่ายังไม่ต้องเท่าเป๊ะๆ นะครับ เอาให้ "ไปกินข้าวด้วยกันได้" ในหมู่คนทำงานระดับเดียวกันก็พอไหว อย่างระดับ entry นี่ไม่เกินแสนดอลลาร์ต่อปีก็น่าจะมีในตลาดกัน (มันไม่ใช่ทุกคนจะเข้า Apple, Google, Microsoft, Amazon, Facebook กันได้หมด)
lewcpe.com, @wasonliw
เคยเจอคนจาก NSA ออกมาทำ Facebook เข้าใจว่าค่าจ้าง รัฐบาลมันคงแข่งยากจริง
ดูแล้วดี แต่หวังว่าคงจะมีประกันสุขภาพมาให้ด้วยน่าจะดี เพราะในสหรัฐฯ จะได้สิทธิ์รักษาในราคาถูกลง ก็ต้องทำประกันชีวิตเพิ่ม หรือได้สิทธิ์พิเศษที่ได้ค่อนข้างยาก รวมถึงในสหรัฐฯ ไม่มีบริการรักษาฟรี (Free Healthcare) จากภาษีแบบในหลายๆ ประเทศ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว