ความสัมพันธ์ระหว่าง Valve กับไมโครซอฟท์ดีขึ้นมากในช่วงหลังจากไมโครซอฟท์นำเกมไปขายบน Steam เป็นต้นมา ส่วนช่วงการเปิดตัว Steam Deck เราก็เห็นข่าวชื่นมื่น ทั้ง Gabe Newell บอกยินดีช่วยนำ Game Pass ลง Steam Deck, Valve ออกไดรเวอร์สำหรับ Windows 10
ล่าสุดฝั่งไมโครซอฟท์ก็ออกมาช่วยสนับสนุนด้วยการเปิดรายชื่อเกมของ Xbox Game Studios ที่ทดสอบแล้วว่าเล่นได้หรือไม่ได้บน Steam Deck ทำมาเป็นหน้าเว็บอย่างดีบน Steam
เกมที่ทดสอบแล้วว่าเล่นได้สมบูรณ์ (Verified)
เกมที่เล่นได้แต่อาจไม่สมบูรณ์ (Playable)
เกมที่ไม่ซัพพอร์ต เพราะติด anti-cheat
ที่มา - Steam (Microsoft) via The Verge
Comments
จีบปะเนี่ย
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ข่าวต่อไป Microsoft เข้าซื้อ Valve ราคา xxxxx
อย่าเลยครับ เดี๋ยว MS ปิด steam ไทยทิ้งเปล่า ๆ ขนาด xbox ยังไม่เคยเข้าไทย ถ้าซื้อไป ปิดทิ้งแน่ ๆ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
News Saw Go Valve เตรียมซื้อกิจการ Epic game
จริง ๆ Valve ควรจะเป็นทดสอบเอง และปล่อยให้เปิดเล่นได้เฉพาะเกมที่ไม่มีปัญหาหรือเปล่า ??
จริง ๆ Valve มีอัปเดตตัวรายชื่อที่สนับสนุนใน Proton เช่นกันครับ แต่ปัญหาคือ ในหน้า Steam บน Steam Deck มันไม่โชว์ว่าอันไหนสนับสนุนระดับใดจนกว่าจะกดซื้อแล้วกดติดตั้งในเครื่อง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ใช่ครับนั่นล่ะปัญหาล่ะ
คือคอนเซปท์ของเครื่องนี้คือ เจ้าของก็ดูแลตัวเองไปนะ มีปัญหาอะไรเราไม่รับผิดชอบหรอก แต่เรามีอะไหล่ให้ซ่อมล่ะ อยากทำอะไรก็เชิญ อะไรแบบนี้ ต่างกับคอนโซลญี่ปุ่นมากพอสมควรครับ
เรื่องเกมก็เหมือนกัน ถ้าเป็นคอนโซลอื่น ก็คงต้องส่งให้ QA ของเจ้าของเครื่องเช็คก่อน (เช็คลิสต์ยาวมาก) ถ้าไม่ผ่านก็ไม่เอาขึ้นสโตร์ ไม่ขึ้นบนลิสต์ของ Steamdeck ให้ แต่ของสตีมคือ "เรื่องของเมิง" อะไรแบบนี้ล่ะครับ
ฮาร์ดแวร์ดีนะ แต่เรื่อง support ฝั่งเกมที่เล่นได้ ในความเห็นผมนี่เรียกว่านรกแตก
คือถ้ามันดีตั้งแต่แรก ป่านนี้คนเขาก็ไม่ทำเว็บสำหรับดูรายชื่อเกมที่สนับสนุนใน Proton หรอก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ส่วนตัวไม่ได้ให้ค่า Linux Gaming สักเท่าไรนัก (แม้ว่าจะใช้งาน Linux เพื่อพัฒนาเกมเป็นหลักก็ตาม) แต่ตรง คือถ้ามันดีตั้งแต่แรก ป่านนี้คนเขาก็ไม่ทำเว็บสำหรับดูรายชื่อเกมที่สนับสนุนใน Proton หรอก นี่ขอปกป้อง Linux สักหน่อยเพราะ "มันผิด" (และไม่ใช่ความผิดของ Linux ด้วย)
แพลตฟอร์ม Windows เติบโตมานานมากตั้งแต่ 1994 แล้ว Microsoft ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดทำให้ OS อื่น ๆ แทบไม่ได้เกิดบนตลาด PC เลย (รวมถึง OS/2 ที่กำลังจะท้าชิง Windows 95 ด้วย) ฝั่ง Linux Desktop พึ่งเกิดได้เมื่อไม่นานมานี้ หนำซ้ำยังติดตั้งและใช้งานยากมาก สามัญชนสนใจแค่ว่า ถ้าคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ตามที่เขาต้องการ แค่นั้นมันก็จบแล้ว (ซึ่งใช้งานได้นี่หมายถึง ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย เปิดโปรแกรมที่เขาใช้งานได้ ซึ่งก็ไม่พ้น MS Office, Adobe, หรือเกม) ซึ่ง Linux Desktop ไม่ตอบโจทย์ตรงนั้นเอาเสียเลย ช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่ยังต้องนั่งคอมไพล์โปรแกรม, สร้าง package, บริหาร repository เองกันทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม Linux ก็มีข้อได้เปรียบคือ ด้วยความที่ OS เป็นแบบเปิด ทำให้สามารถปรับแต่งได้แทบทุกส่วน ทำให้ประสิทธิภาพสูงกว่า Windows อย่างมากแม้จะเทียบในระดับ barebone ก็ตาม มีผล benchmark ออกมาเพียบว่า แม้ว่าจะรันบน Proton ในบางกรณี Linux มีประสิทธิภาพสูงกว่า Windows ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเกม Native ที่ทำออกมาให้ Linux ดี ๆ และไดรเวอร์ที่พร้อมใช้งาน นี่แทบจะชนะ Windows ในทุกกรณี เพราะระบบมันเบากว่า (แต่เกิดขึ้นได้น้อยมากเพราะ dev ไม่สนับสนุน) อีกอย่างใน Steam Deck เองก็มีผลทดสอบออกมาแล้วว่าในกรณีที่รองรับก็แทบจะได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่า Windows แม้จะผ่าน Compatibility Layer/API Translation Layer ก็ตาม
ตอนนี้แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปแล้ว โปรแกรมโอเพนซอร์สหลาย ๆ อย่างก็ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่หรือใช้งานทดแทนได้มากขึ้นเรื่อย ๆ แถมการติดตั้งและใช้งานก็ง่ายกว่าเดิมมาก ๆ แต่ MS ก็ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ ให้ตามขึ้นมาง่าย ๆ เพราะตอนนี้ทั้งลดราคา Licence, เน้นตลาดเชิงรุก สร้างข้อเสนอและ Solution ต่าง ๆ ให้กับ OEM นำไปใช้งานได้ในราคาที่ต่ำ ทำให้ตอนนี้แม้แต่เครื่องราคาถูกก็ไม่ต้องติดตั้ง Windows เองเลย มีของแท้ฝังมาให้ มาปุ๊บก็พร้อมใช้งานได้ทันที ในขณะที่ Linux มีไม่กี่เครื่องเท่านั้นที่จะมีพร้อมให้ใช้ แถมมัน "ไม่พร้อม" มาตั้งแต่เริ่มต้นด้วย เพราะโปรแกรมยอดนิยมหลายตัวก็ไม่ได้ติดตั้งมาให้ เช่น Chrome, Office, Steam ที่ผู้ใช้จะต้องติดตั้งเอง แล้ว Linux แต่ละเจ้า หน้าตาก็ไม่เหมือนกันอีก ส่วนมากที่ซื้อเครื่อง Linux มา จะให้ร้าน(แอบ)ลง Windows(เถื่อน)ให้ทั้งนั้น เพราะใช้งานไม่เป็น แล้วก็ไปลงอีหรอบเดิมคือ แม้ Linux จะดีเลิศเลออะไรขนาดไหน ถ้ายังขาดตลาดเชิงรุกก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ เหมือนกับที่ Windows และ Chrome OS กำลังทำอยู่
คือผมน่าจะพิมพ์ตกไปนะครับว่า “ถ้า (Valve ทำระบบที่บอกว่าอันไหน support Proton ในระดับใดมาให้) ดีตั้งแต่แรก”
ผมไม่เขียนเพื่อ discredit ตัว Linux Gaming นะครับ เพราะตลาดมันเริ่มโต (และการมาของ Steam Deck ก็ยิ่งทำให้มันโตเร็วขึ้นด้วย) แต่ผมตำหนิ Valve ว่าทำไมไม่ทำระบบหน้า Steam ให้ดีตั้งแต่แรก ซึ่งมันเป็น pain point สำคัญของคนที่กระโดดลงมาเล่น Steam Deck (ที่จะส่งผลต่อ Linux gaming ต่ออีกทอดนีงด้วย)
Foundation ส่วนฮาร์ดแวร์มันดีแล้วครับ ขาดแค่ฝั่งซอฟต์แวร์ที่ยังไม่สุด และยังคงต้องปรับปรุงต่อไปอีกเพื่อให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ Steam Deck ออกมาดีที่สุดครับ อันนี้คือที่ผมจะสื่อออกไปทั้งหมด
ถ้า Valve ทำส่วนนี้ออกมาดีตั้งแต่แรก ต่อไปถ้า Steam Deck มันติดตลาด (และ Steam OS ที่รันบน Arch Linux โตตามไป) สุดท้าย นักพัฒนาก็จะเริ่มพอร์ตเกมลง Linux มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Wine หรือ Proton แบบทุกวันนี้ รวมไปถึงเป็นการกดดันให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ในการออกไดรเวอร์สำหรับ Linux มากขึ้น (ซึ่งมันก็เป็นผลดีต่อผู้ใช้ Linux ทั้งหมด)
เอาง่าย ๆ คือ นับตั้งแต่ Valve ประกาศทำ Steam Deck พวกบริษัทที่ทำ Anti-Cheat ก็เริ่มทำให้รองรับ Linux กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แค่นี้ก็น่าจะสะท้อนถึงโอกาสการเติบโตแล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมมองแค่ว่า ประสพการณ์ของผู้ใช้ (UX) คือ เค้าคาดหวังว่า เค้าซื้อเครื่องมา เค้าซื้อเกมมา เกมเค้าโชว์ในเครื่อง กดแล้วต้องเล่นได้
หรือถ้ามันเล่นไม่ได้ ต้องบอกว่า มันเล่นไม่ได้ เพราะเกมนี้มันไม่ compatible กับเครื่องนะ แค่นี้ แล้วไม่ให้เปิดเกมเลย ระบบควรจะต้องรู้ว่า เกมนี้เล่นได้ เกมนั้นเล่นไม่ได้
ไม่ใช่แบบ "เออ เมิง ตูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเล่นได้มั้ย มันจะค้างหรือเปล่านะ หรือมันจะขึ้นเท็กซ์เจอร์สีเขียวอื๋อหรือเปล่า เรื่องของเมิงเลย เครื่องก็เครื่องเมิง เกมก็เกมเมิง เมิงมีอะไรไปบ่นกับคนทำเกมละกันนะเมิง แค่นี้แหละ บ่าอ้าอาย" ~ กาเบ
(ความยากมันอยู่ที่ Valve อาจจะไม่อยากให้เครื่องต่อเน็ตตลอดเวลา และไม่อยากทิ้งรายชื่อเกมทั้งหมดในระบบในเครื่อง user)
ซึ่งแบบ ที่ Dev ออกมาบ่นว่า Steam เก็บเงินเยอะมาก (30% ของรายได้) ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ก็เก็บเท่ากับพวกเจ้าของแพลตฟอร์ม Console ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า Steam แทบไม่ทำอะไรให้ Dev เลยนี่ล่ะ (แต่เอาจริง ๆ พวกคอนโซลก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกบานเหมือนกัน ฮา) ในขณะที่ Console Dev ออกจะรัก platform พวกนี้จะตาย
กรณีนี้ถ้ารักจะเอาเกมทั้งสตีมมาลิสต์ให้คนดูบน Steam Deck อย่างน้อยก็รัน automated test สักรอบ ดูว่ามัน launch ขึ้นมั้ย อันไหนไม่ขึ้น เอาออกจากลิสต์ disable ออกจากลิสต์ ขึ้นตัวแดง ๆ ว่าไม่คอมแพท ไม่ใช่แบบเออปล่อยไปก่อนแล้วพอรันไม่ได้ค่อยมาว่ากัน กลายเป็นต้องมีคนมานั่งจดว่า เกมไหนเล่นได้เล่นไม่ได้อีก
แล้วพอมันเล่นไม่ได้ สิ่งที่จะเกิดคือ คนมันอาจจะโทษทั้งสตีมว่าเครื่องห่วย แล้วก็มาโทษเดฟว่าทำไมเกมมันเล่นบน Steam Deck ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เกมออกมาร่วม 20 ปีละ Zen 2 คืออะไรเดฟยังไม่รู้จักหรอกตอนนั้น
ผมคิดว่า ถ้า Steam Deck มันดีจริง เข้าถึงคนเล่นได้ดีจริง Dev จะลงมาเอง ไม่ต้องพึ่ง Photon หรอก แต่แรก ๆ Steam ก็ต้องวิ่งเต้น ต้องมี Incentive ให้ Developer บ้าง (เช่นงดไอ้ค่าโสหุ้ย 30% ไป) ไม่ใช่แบบนั่งอยู่บนบรรลังค์ ดูดซิการ์ไปพลาง ไปป์ไปพลาง อะไรงี้ แล้วทีนี้ Dev ก็จะได้ลงมือได้เต็มที่ คนเล่นก็จะได้ประโยชน์จากการไม่ต้องมาลุ้นว่า เกมจะรันได้มั้ย จะต้องเซ็ตค่ายังไง ไอ้นี่ต้องปรับยังไง แบตจะหมดในสิบห้านาทีหรือเปล่า ฯลฯ
แต่นั่นก็จะกลายเป็นว่า Valve จะกลายเป็นคู่แข่งของ Microsoft, Sony, Nintendo ทันที ซึ่งเอาจริง ๆ ผมว่าก็เป็นอยู่นานแล้ว แค่หลาย ๆ คนยังอ้อมแอ้ม ๆ ไม่มองว่ามันเป็นซะทีเหมือนกัน (คิดเล่นๆ ก็ได้ครับว่า เราซื้อเกมเดียวกัน Steam กับบนคอนโซล ภายในปีเดียวกันบ้างหรือเปล่า ?)
ปล. พูดตรง ๆ ตอนที่ผมเห็นคนรีวิวบอก นี่ไงเราสามารถเลือกบูทเข้าเดสก์ท๊อปได้ แล้วก็เข้า KDE ให้ดู ผมยังคิดเลย จะทำเพื่อ ?? คือผมเป็นสาย Gnome เลยคงไบแอสนิดนึง แต่จอแค่นั้นเนี่ย KDE แทบจะใช้งานไม่ได้อ่ะครับ ต้องต่อ Dock (ซึ่งยังไม่ออก) สถานเดียว
คืออารมณ์เหมือนตอน Mac Intel ออกใหม่ๆ อ่ะครับ ที่โฆษณา Bootcamp ว่าลงวินโดวส์ได้อ่ะ ซึ่งมันก็ลงได้จริงแต่มันก็พิการ ๆ
ปล. 2 พูดนอกเรื่องไปเยอะ ... อ่า เอาจริง ๆ การใช้ Arch Linux เป็นฐานนี่แอบน่ากลัวอยู่ตรงที่มันเป็น Rolling Release ซึ่งลักษณะพิเศษของมันคือ การอัพเดตมันจะลุ้นนิดนึง ถ้าอัพเดตห่าง ๆ มันอาจจะเจ๊งตอนอัพเดต เพราะคนสร้าง package เค้าไม่ได้เทสต์เรื่องการอัพเกรดแพ๊คเกจไกล ๆ ไว้ (ผมโดนประจำตอนที่ขี้เกียจอัพ ฮา) ส่วนถ้าอัพเดตถี่ ๆ คนใช้อาจจะเจอช่วงที่มันดันอัพเกรดไปเจอ compatibility break ซึ่ง Valve เองก็ควรจะเทสต์ ดูจากสภาพการแล้วผมไม่เชื่อว่า Valve จะเทสต์จริงจังขนาดนั้น จริง ๆ มันเป็น distro ที่เหมาะกับนักทดลองมากนะครับแต่ไม่มั่นใจว่ามันเหมาะกับ consumer product หรือเปล่า
(ลำพังแค่วิธีการติดตั้ง Arch Linux แบบทางตรงนี้ พิมพ์เป็นหนังสือได้อ่ะครับ)
ใช่ครับ เหมือน Valve ใส่ใจในเรื่องนี้น้อยไปหน่อย ถ้าหากจะดันเป็น consumer product ก็ควรทำออกมาให้ดีกว่านี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมเห็นด้วยแทบทุกอย่างเลย Steam Deck ควรมีระบบรายงานเกมที่รองรับที่ดีมากกว่านี้ เอาจริง ๆ ตัวเลือกรันเกมที่ไม่รองรับนี่ควรจะซ่อนไปเลยจนกว่าผู้ใช้จะต้องการจริง ๆ การปล่อยให้ผู้ใช้ได้ลองอะไรทั้งหมดเองเป็นสิ่งที่แย่มาก ๆ ในเรื่องของ UX มันมีผู้ใช้ไม่กี่คนจริง ๆ ที่จะ embrace (นึกคำไทยไม่ออก) ความยืดหยุ่นของระบบที่จะทำอะไรก็ได้
ปล. ผมสาย KDE แต่ก็ไม่ได้ถูกจริตอะไรมากมาย ที่ใช้เป็นเพราะตัวซอฟต์แวร์ของฝั่ง KDE ล้วน ๆ (ทุกอย่างใช้บน DE อื่นได้ แต่รู้สึกว่า integration กับ KDE มันดีกว่ามาก) เอาจริง ๆ ผมขอบ Pantheon มากกว่าอีก มันดูเรียบง่าย ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แต่เบื่อ Debian-based OS ที่ repo พังบ่อยจนอยากขว้างคอมเข้ากำแพงมาก ส่วน GNONE เลิกใช้เพราะมีบั๊กกับเครื่องที่ driver เก่ามันอืดมากแล้วขยาดไม่อยากใช้อีกเลย
ปล. 2 Arch ของ SteamOS แยก repo ออกจากต้นน้ำเหมือนกับ Manjaro และใช้ immutable filesystem ฉะนั้นเบาใจเรื่องระบบพังไปได้เลย กันปัญหาเจ้าของ repo พัง source ไปได้ (ตัว Manjaro ผมเองก็มี repo เอ๋อบ้างแต่ส่วนมากเป็นเพราะ mirror ของ มข. มัน update ช้าแล้วเกิด conflict สั่งซ่อม mirror ก็หายแล้ว)
เหมือนจะโชว์อยู่ทั้งในหน้า Store แล้วก็ Library อยู่นะครับ
https://www.steamdeck.com/en/verified
ไม่แปลกใจถ้าอีกหน่อย xbox มี stream
และ steamdeck รองรับ xbox game pass
และ Microsoft เข้าซื้อ Valve
และ โดน EU ฟ้องผูกขาด Happy ending
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
แล้วยูเครน ก็เข้าไปอยู่ใน EU
แล้ว Valve ก็โดนรัสเซียยึด
เดี๋ยวๆๆ
steam vs stream