By: lew 
on 27 April 2022 - 00:05
Tags:
Topics:
Fidelity บริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดตัวกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 401(k) ในชื่อ Fidelity Workplace Digital Assets Account เปิดทางให้พนักงานของบริษัทที่เลือกใช้แผนนี้สามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นบิตคอยน์ได้
ตอนนี้กองทุนอยู่ระหว่างการจัดตั้ง แต่ก็มีบริษัท MicroStrategy ประกาศเป็นลูกค้าแล้วรายแรก ทำให้เมื่อเปิดตัวพนักงานของ MicroStrategy จะสามารถเลือกโยกเงินลงทุนไปสู่สินทรัพย์ดิจิทัลได้ ขณะที่ Newfront บริษัทให้คำปรึกษาการลงทุนระบุว่าบริษัทต่างๆ เริ่มสนใจเพิ่มทางเลือกให้พนักงานสามารถลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ
ทาง Fidelity ยังไม่ระบุว่าบริการนี้เริ่มต้นเมื่อใด แต่ระบุว่าบริษัทลูกค้าอื่นๆ นอกจาก MicroStrategy จะสามารถเลือกใช้แผนการลงทุนนี้ได้ภายในกลางปีนี้
ที่มา - BusinessWire
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Cloudnone
- AWS มาไทย ย้ายเลยดีไหม อะไรยังมาไม่ครบบ้าง? | Cloudnone Ep. 23
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
Comments
อาจจะดีก็ได้นะครับ
SSF ที่ผมซื้อไว้นี่ ร่วงเอา ๆ 555
🤝 ทำให้ได้รู้ว่าถ้ากองทุนไหนไม่ให้ปันผล เอาเงินไปซื้อหุ้นดีกว่า
ปันผลของกองทุนเสียภาษี10% แถมถ้าฐานภาษีเกิน10%ก็ขอคืนไม่ได้อีก
ดีตรงไหนครับ
ดีกว่าติดดอย แล้วต้องนั้งรอเฉยๆ ไงครับ
ไม่ใช่ว่านอกจากไม่ได้กำไร (เพราะยังไม่ได้ขาย ติดดอย) ยังมาเสียภาษีอีกเหรอครับ แถมปันผลเสร็จ nav ลดอีก
ภาษีที่เสียมันคิดจากปันผล ไม่ใช่หรือครับ
ถ้ามันคิดจากปันผล ผมไม่มีปัญหาอะไรน่ะ
ใช่ครับ
แต่ถ้ามองว่าปันผลมันคือกำไรของกองทุนที่เราควรได้ (จาก nav ที่เพิ่มขึ้นถ้าไม่มีการจ่ายปันผล) ซึ่งกำไรจากการขายเราไม่เสียภาษี ผมมองว่ามันเป็นการเสียโอกาส ถ้าติดดอยแล้วหวังพึ่งกระแสเงินสดจากการปันผล ผมวามันคล้ายๆกินน้ำทะเลแก้กระหายมากกว่า
มีปันผล มูลค่ามันก็ลดเยอะกว่า อันนี้แล้วแต่คนชอบแบบไหน ไม่มีว่าอันไหนดีกว่าหรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันมีสาเหตุที่ผมคิดแบบนี้น่ะ
https://drive.google.com/file/d/1IXu-TF1NM1HMpd4RClKEfN9iXJb24rgE/view?usp=sharing
อันนี้ผมทดลองดูน่ะ พึ่งเริ่มลงทุนได้ 2 ปีเอง
เพราะขาลงไงครับ ปันผลดีกว่าตอนขาลง เพราะได้เงินออกมาเลย แต่ขาขึ้นจะได้น้อยกว่าเพราะแบบไม่มีปันผลเอาเงินไปลงต่อ พอดูช่วง 2 ปีมันเลยเป็นแบบนี้ครับ ไม่ได้ถูกหรือผิด
ต้องถามว่าปันผลเอาไปทำอะไร ถ้า match cashflow ได้ เอาปันผลไปใช้จ่าย ก็ถูกต้อง แต่ถ้าเอาปันผลไปลงต่อ ก็ไม่ได้ต่างจากแบบไม่ปันผล แถมโดนหักภาษีอีก ดังนั้นแต่ละคนเลือกไม่เหมือนกัน และไม่ได้มีอะไรที่ดีกว่าสำหรับทุกเคสครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมแค่ขี้เกียจมอนิเตอร์สถานการณ์ครับ
ถ้ามีเวลาเล่นหุ้นก็ดีกว่าแหละ แต่แบบ ... เล่นหุ้นมันต้องเทรดเวลางานไง ถ้าเอาเวลางานมานั่งเทรดหุ้นผมก็อาจจะโดนไล่ออกได้น่ะครับ
เล่นหุ้น US เลยครับ เทรดเวลานอน พอแดงก็นอนไม่หลับ 555555
นั้นมันสาย Growth Investing: day trade เอากำไรจาก capital gain นี้ต้องนั้ง monitor (แบบเดียวกับ Bill Gates short หุ้น Tasla)
ถ้าแบบผม Value Investing สายถือยาวๆ ตกเย็นค่อยมาดู จะซื้อ-ขายก็ pending คำสั่งไว้ มันจะมีหุ้นที่ไม่ค่อยแกว่งเหมาะกับสายนี้อยู่ (ได้อารมณ์คล้ายๆ ถือกองทุนรวม)
ที่ผมมองว่าหุ้นมันดีว่ากองทุนรวมเพราะ
-มันคล่องตัวกว่าอยากซื้อ-ขาย ก็ตั้งราคาตลาด ชื้อขายได้ทันที ถ้าเป็นกองทุนจะซื้อ-ขายทีต้องรอ 2 วัน
-การซื้อกองทุนรวมมันก็คือที่เราเอาเงินไปให้คนอื่นเล่นหุ้นให้เรา เล่นเองบางทีได้ผลตอบแทนดีกว่า
-นานๆ ทีผมมา day trade ก็มันดีเหมือนกัน (trade จนมือสั่น) ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ที่กองทุนรวมไม่ให้
-ส่วนลดหย่อนภาษีจากกองทุน ผมรู้สึกเหมือนโดนโฆษณาชวนเชื่อยังไงไม่รู้ กองทุนมันใช้ลดหย่อนได้ "ครั้งเดียว" แล้วก็ lock ไว้ห้ามขายภาย 10 ปี(SSF) ผมเลยไม่เอาไปลดหย่อนละ
แนะนำให้เล่นแนว VI
แบบกลางคืนหาตัวที่ ROIดีๆหน่อย + trend กราฟน่าจะย่อสุดแล้ว ก็ตั้งซื้อเอาไว้
พอเช้ามา ตลาดเปิดมันซื้อติดตามที่ตั้งไว้ ก็เก็บไว้รอกินปันผล
ยุคสมัยคล้ายความนิยมวัตถุมงคล 555