เมื่อต้นเดือนมีนาคมไมโครซอฟท์ออกอัพเดต Visual Studio Code เวอร์ชัน 1.66 มาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าจะเป็นประโยชน์หลายอย่าง

ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างแรกคือ Local history ช่วยเก็บประวัติการแก้ไขไฟล์แบบไม่พึ่งพา Source Control ภายนอก โดยทุกครั้งที่มีการบันทึกไฟล์ VS Code จะสร้างประวัติการแก้ไขไฟล์ ณ ขณะที่บันทึกเก็บไว้ให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบ, ย้อนดูและเรียกคืนการแก้ไขได้จาก Local History ซึ่งจะแสดงผลอยู่ภายใต้ Timeline view ร่วมกับประวัติการ commit ไฟล์ซึ่งถูกเก็บไว้ด้วยระบบ Source Control

ภาพตัวอย่างการใช้เมนู filter เพื่อเลือกแสดงเฉพาะ Local หรือ Git History บน Timeline view

ภาพตัวอย่างการใช้ Local History เพื่อเปรียบเทียบและเรียกคืนการแก้ไขไฟล์

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์ยกให้เป็นไฮไลท์พอสรุปได้ดังนี้

• เพิ่มตัวกรอง @lang:languageId (เช่น @lang:css) ในหน้า Settings เพื่อเลือกแสดง/แก้ไขการตั้งค่าซึ่งจะมีผลกับเฉพาะภาษาที่ผู้ใช้กำลังเลือกกรองอยู่
• ปรับปรุงการค้นหาใน Terminal ให้ช่วยไฮไลท์ทุกๆ คำที่ตรงกับคำค้นหา พร้อมช่วยแสดงไฮไลท์บรรทัดที่พบคำค้นบน scrollbar
• เพิ่มตัวช่วยฟอร์แมทโค้ด CSS, LESS, SCSS เข้ามาใน VS Code เลย
• ปรับปรุงการดีบัก JavaScript สามารถเก็บข้อมูลและแสดงแผนภาพการใช้หน่วยความจำ (heap profiles) เรียกใช้งานได้ผ่านคำสั่ง Debug: Take Performance Profile
• ปรับปรุงให้สามารถลากไฟล์หรือโฟลเดอร์จากในเครื่องไปเปิดบน VS Code เวอร์ชันเว็บได้แล้ว

• ปรับปรุงส่วนขยาย Remote Development รองรับการใช้ SSH รีโมทเข้าเครื่อง Mac ที่ใช้ Apple Silicon
• เพิ่มคู่มือการใช้ภาษา R เพื่อทำงาน data science บน VS Code

ที่มา - Visual Studio Code