คอมแรง คอมเร็ว สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้า คอมไม่ปลอดภัย โอกาสที่ธุรกิจจะชะงัก หรือพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งก็มีสูง ดังนั้นคงจะดีกว่าที่ในโลกธุรกิจจะใช้ คอมแรง, คอมเร็ว และคอมที่ปลอดภัย
Intel เล็งเห็นปัจจัยดังกล่าว จึงพัฒนา Intel vPro หรือเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ความต้องการ และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ในโลกธุรกิจได้ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่สำคัญไม่แพ้กับฝั่งประสิทธิภาพในการทำงาน
Blognone อยากชวนมาทำความเข้าใจกันว่า ทำไมองค์กรธุรกิจถึงควรเลือกใช้คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับ Intel vPro และการใช้งาน Intel vPro ในโลกธุรกิจจะต่างกับการใช้คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง CPU ของ Intel ที่ไม่มีแพลตฟอร์มเทคโนโลยีนี้แค่ไหน
ความปลอดภัยคือสิ่งที่แตกต่าง
Intel vPro โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย เพราะฝังระบบความปลอดภัยมาในระดับ Silicon และ Intel vPro เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจหนึ่งเดียวที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยตรวจสอบ Ransomware และการโจมตีซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ได้
ตัวอย่างการโจมตีที่ฮาร์ดแวร์ เช่น การที่แฮกเกอร์เข้าไปแฮกที่เฟิร์มแวร์ของกล้องในคอมพิวเตอร์เพื่อโจมตีข้อมูลในเครื่อง และระบบ ที่สำคัญการที่ระบบความปลอดภัยฝังไว้ในระดับ Silicon จึงไม่รบกวนการทำงาน ต่างกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีแพลตฟอร์มนี้ที่ต้องต้องเปิดระบบสแกนไวรัสไว้ตลอดเวลา
Intel vPro สามารถทำงานเข้ากันได้กับหลากหลายซอฟต์แวร์ เช่น Microsoft Defender, CrowdStrike และ Connect Wise เป็นต้น เมื่อประกอบกับ Threat Detection Technology หรือ TDT ช่วยตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยตลอดเวลา และการทำงานแบบ Machine Learning เรื่องความปลอดภัยจึงมั่นใจได้
ประสิทธิภาพที่โดดเด่นเช่นเดิม
Intel คือแบรนด์ที่เชื่อใจได้เรื่องประสิทธิภาพอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ Intel vPro แพลตฟอร์มธุรกิจ สามารถยกระดับเรื่องนี้ขึ้นไปอีกขั้น ผ่านการรองรับการใช้งานบนโน้ตบุ๊ก, เดสก์ทอป หรือการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Chrome OS รวมถึงการทำงานบนบราวเซอร์ต่าง ๆ
ปัจจุบัน Intel vPro ถูกออกแบบให้ทำงานบน 12thGen intel® core™ processors หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือซีพียู Generation 12 ของ Intel แล้ว โดยหากเปรียบเทียบระหว่าง Intel vPro with 12th Gen Intel Core i9 processor กับ AMD Ryzen 7 5700G จะทำงานบน Excel และแชร์ผ่าน Zoom ได้เร็วขึ้นมากถึง 23% และใช้ Power BI พร้อมแชร์ผ่าน Zoom ได้เร็วขึ้นมากถึง 46%
ที่สำคัญ Intel vPro ยังถูกออกแบบเพื่อรองรับการทำงานแบบ Work from Anywhere ผ่านการรองรับการเปิดใช้งานเครื่องตลอดเวลา, การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 6E รวมถึงการใช้งาน Thunderbolt 4 เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งปัจจุบัน และในอนาคต
เข้ากันได้ตั้งแต่ SMB จนถึง Enterprise
หากกังวลว่าเทคโนโลยีความปลอดภัย และประสิทธิภาพของ Intel vPro จะเหมาะสมแค่การทำงานในระดับ Enterprise หรือองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ Intel vPro ตอบโจทย์ได้ตั้งแต่การทำงานในระดับ SMB หรือมีพนักงานน้อยกว่า 50 คน
ผ่านการออกแบบ Intel vPro ให้มีถึง 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
ทั้งหมดนี้มากับซอฟต์ระบบจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะที่ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบ หรือเข้าซ่อมแซมเครื่องจากที่ใดก็ได้ เช่นกรณีคอมพิวเตอร์ขึ้น Blue Screen หรือเปิดไม่ติด เพียงแค่ผู้ใช้เสียบปลั๊กเครื่อง ผู้ดูแลก็สามารถรีโมทเข้ามาแก้ไขได้ทันที
ต่างกับเครื่องที่ไม่มีเทคโนโลยีนี้ที่ผู้ดูแลระบบต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เพื่อใช้ควบคุมระยะไกล ทำให้ Intel vPro ที่มีระบบนี้ติดตั้งมาตั้งแต่ออกจากโรงงานจึงช่วยผู้ดูแลระบบบริหารจัดการคอมพิวเตอร์ได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถ้าอยากใช้ Intel vPro ก็มีให้เลือกหลายรุ่น
จากคุณสมบัติเหล่านี้ องค์กรธุรกิจต่าง ๆ คงเห็นประโยชน์จากการใช้งาน Intel vPro มากขึ้น แต่หากกังวลว่าจะหาซื้อคอมพิวเตอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มธุรกิจนี้ได้ลำบาก ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เช่นกัน เพราะ Intel vPro มีให้เลือกมากกว่า 150 โมเดลจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำ
นอกจากนี้ยังติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายเพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพของเครื่องได้ตามต้องการ จึงทำให้เห็นว่า Intel vPro ทำมาเพื่อองค์กรธุรกิจจริง ๆ ผ่านข้อสรุปสั้น ๆ คือ โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย, ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง และบริหารจัดการได้สะดวกสบาย
ศึกษาตัวอย่างการใช้งาน Intel vPro จากองค์กรจริง
หลังจากทำความรู้จักรายละเอียดของ Intel vPro คราวนี้ลองมาศึกษาตัวอย่างการใช้งาน Intel vPro ของ บริษัท ทาลอนเน็ต จำกัด ผู้ทำธุรกิจ System Integrator ที่ให้บริการในด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ และมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นภาครัฐ และวิสาหกิจเป็นส่วนใหญ่
ทาลอนเน็ต ใช้ Intel vPro เพื่อแก้ปัญหาการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกับในพื้นที่ห่างไกล เพื่อมอนิเตอร์การทำงานเมื่อติดตั้งสำเร็จ ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหลัก และหากตัวเครื่องมีประสิทธิภาพจะช่วยระยะเวลาการบำรุงรักษาเมื่อการทำงานมีปัญหาซึ่งกินเวลา 3-4 วัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคู่ค้ามากกว่าเดิม
จึงเป็นที่มาของการเลือกใช้ Intel NUC ที่มากับ Intel vPro เพื่อให้บริการลูกค้าหลายราย โดย วีรภัทร จันทร์แก้ว ผู้บริหาร บริษัท ทาลอนเน็ต จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ ของเราให้บริการระบบและโซลูชันที่จำเป็นต้องมีการทำงานอย่างต่อเนื่องและเป็นแบบเรียลไทม์ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าของเรานั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ บางงานจำเป็นต้องมีการดูแลและคอยตรวจสอบระบบในแบบ 24 ชั่วโมง เป็นต้น
ปัจจุบันทาลอนเน็ต ได้อิมพลีเมนท์โซลูชันของตนพร้อมด้วยคอมพิวเตอร์ Intel® NUC ให้แก่ลูกค้ามากกว่า 2 ปีแล้ว จากการใช้งานที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาของเครื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้นแทบจะหมดไป ตัวเครื่องมีความทนทานต่อสภาพการใช้งาน การบริหารจัดการและการมอนิเตอร์ระบบจากทำงานระยะไกลก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น เวลาที่ดาวน์ไทม์น้อยลงเหลือแค่ 1-2% จากเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นจาการใช้งานโซลูชันของ Intel® NUC ที่รันแพลตฟอร์ม Intel vPro® ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจต่อโซลูชันของทาลอนเน็ตเป็นอย่างมาก
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ natrapa.khunnathamdee@intel.com บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด