Tags:
Node Thumbnail

Solend แพลตฟอร์มให้กู้เงินแบบ DeFi เข้ายึดบัญชีผู้กู้รายใหญ่รายหนึ่ง ที่นำโทเค็น SOL จำนวนมากเข้ามาฝาก มูลค่าถึง 170 ล้านดอลลาร์ แล้วกู้เอา USDT และ USDC ออกไป เนื่องจากรายการกู้ยืมของบัญชีนี้สร้างความเสี่ยงให้กับ Solend อย่างมาก

เนื่องจากบัญชีผู้กู้รายนี้มีขนาดใหญ่มาก หากโทเค็น SOL ราคาต่ำกว่า 22.30 ดอลลาร์เมื่อไหร่ก็จะถูกบังคับขายโทเค็นออกมา 21 ล้านดอลลาร์ทันที ซึ่งจะกระทบต่อราคาโทเค็น SOL อย่างแน่นอน ผลพวงของการบังคับขายจะทำให้ราคาสินทรัพย์ค้ำประกันราคาตกลง โดยเฉพาะการขายในกระดานแบบ DeFi ซึ่งมีปริมาณคำสั่งซื้อขายไม่เยอะพอ ผลต่อเนื่องไปจนเกิดเหตุหนี้เสียในที่สุด

ทาง Solend เปิดโหวตขออำนาจฉุกเฉินเพื่อยึดบัญชีนี้ไว้ชั่วคราว และเพิ่มเงื่อนไขสำหรับผู้กู้รายใหญ่ อย่างไรก็ดีหลังโหวตข้อเสนอนี้ผ่านไปไม่นาน ทาง Solend ก็ยอมรับว่าถูกวิจารณ์หนักว่า และเปิดโหวตยกเลิกข้อเสนอแรก โดยระบุว่ากำลังไปหาทางออกใหม่ที่ไม่ต้องยึดบัญชี

แม้จะเปิดโหวตจากชุมชนและทีมงาน Solend ระบุว่าไม่ได้ใช้โทเค็นของตัวเองโหวตเลย แต่จริงๆ เสียงโหวตก็มาจากบัญชีไม่กี่บัญชีเท่านั้น

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 20 June 2022 - 15:52 #1252706

อันนี้คือตัวอย่างของของระบบ Proof Of Stake ที่ยิ่งรวยยิ่งมีอำนา่จเยอะปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
.
.
.
.
.
.
.
ระบบ Fiat การเงินดั้งเดิมก็ประมาณแบบนี้เนี่ยแหละ


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 20 June 2022 - 16:05 #1252709 Reply to:1252706
lew's picture

หลังจากโลกผ่านกระบวนการเรียนรู้ว่าไม่ควรปล่อยเอกชนออกตั๋วเงินกันเองโดยไม่มีกฎเกณฑ์ควบคุมมาเป็นร้อยปี

เราก็กลับไปเรียนใหม่อีกรอบ ภายใต้ความรู้สึกว่ามันคือนวัตกรรม


lewcpe.com, @wasonliw

By: Kazu
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 20 June 2022 - 17:43 #1252723 Reply to:1252709

เอาจริงๆสภาพตอนนี้ ตั๋วเงินเอกชนสมัยก่อนกับของรัฐก็ไม่ได้อยู่ในสภาพต่างกันรึปล่าวครับ
เราทำได้แค่ยืนมองรัฐrug pullตาปริปๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
พันกว่าปีที่แล้ว ก็มีบทเรียนเรื่องปริ้นเงินแล้วเละเทะ ผ่านมาพันกว่าปี ก็ยังวนกลับมาที่เดิม แล้วบอกว่าเราทำเพื่อทุกคน

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 20 June 2022 - 19:30 #1252727 Reply to:1252723

เราไม่ได้ปริ้นท์ตังเราทำ QE เฉยๆ ถถถถถถ.


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 20 June 2022 - 23:18 #1252735 Reply to:1252727
lew's picture

ซึ่งปรากฎว่ากระบวนการพิมพ์เงิน นี่มันทำให้เงินที่เราใช้ๆ ทุกวันนี้มูลค่ามันนิ่งมาก

ภาวะที่เงินจะฝืดก็พิมพ์เงินอัดระบบ ภาวะที่เงินเฟ้อ (เขาพิมพ์เงินเป็นสิบปีเงินไม่ค่อยเฟ้อ) ก็เริ่มสูบเงินกลับ และคนเจ็บหนักกลายเป็นกลุ่มคริปโตอยู่ดี

ธนาคารกลางที่คุณขำการกระทำของเขารักษาค่าเงินโดยแทบไม่เคยกระทบค่าเงินเกิน 10% เลย เงินเฟ้อสหรัฐฯ 8.x% นี่สูบเงินกลับรัวๆ แล้ว ไม่นับว่ามันมีเหตุภายนอกอย่างสงครามเขาก็ต้องรับผิดชอบดูแลค่าเงินให้มันนิ่ง

โลกคริปโตดูแคลนงานของธนาคารกลาง แต่พอใช้จะถือยาวจริงๆ ก็แห่กันไปขออิงค่าเงินของธนาคารกลาง


lewcpe.com, @wasonliw

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 21 June 2022 - 00:23 #1252737 Reply to:1252735

เรื่องคริปโตก็เรื่องนึงครับแต่ตัวเลขเงินเฟ้อมันมีการเล่นแร่แปรธาตุเปลี่ยนสูตรในการคำณวนจนเอาไปเทียบย้อนหลังแทบจะไม่มีความสอดคล้องกันแล้วคือถ้าเอาสูตรเดียวกันเมื่อ 40 ปีที่แล้วมาใช้เราน่าจะอยู่ในสภาวะ hyperinflation ไปแล้วแต่โอเครคุณอาจจะเถียงผมได้ว่าสูตรเมื่อ 40 ปีก่อนมันไม่ make sense แล้วที่จะใช้ต่อแต่คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการปรับสูตรไม่ได้มีเจตนาเพื่อทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อมันต่ำกว่าความเป้นจริง ? เอาเป็นว่าตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ละกันว่าตัวเลขจริงอาจจะมากกว่านี้

ส่วนที่คุณบอกว่าสูบเงินกลับรัวๆผมมองว่ามันไม่ได้เยอะอย่างที่คุณคิดนะถ้าไม่เชื่อลองไปดูกราฟ M1, M2, M3 ได้ว่ามีการพิมพ์ออกมาเท่าไหร่สูบออกไปเท่าไหร่สัดส่วนมา่กน้อยแค่ใหนครับ

ส่วนเรื่องระบบธนาคารกลางผมมองว่ามัน work นะไม่งั้นโลกคงไม่มาใช้ระบบนี้กันหรอกแต่ตอนนี้ผมว่าธนาคารกลางกำลังมีอำนาจมากเกินไปโดยเฉพาะอำนาจการควบคุม supply คนเลยเริ่มคิดระบบที่จะหนีออกมาจากธนาคารกลางออกมาซี่งก็ยังไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่าหรือจะเจ้งหมดมูลค่าเหมือนกับบางโปรเจคเช่น luna/terra หรือจะยืนอยู่ได้จนได้รับการยอมรับจริงๆอันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

----- Edited -----

ลืมตอบไปข้อนึง "เงินที่เราใช้ๆ ทุกวันนี้มูลค่ามันนิ่งมาก" นิ่งในความหมายใหนครับทำไมผมไม่เห็นอาหารตามสั่งจานละ 20 บาทแล้วอะครับ


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: YongZ on 21 June 2022 - 01:29 #1252739 Reply to:1252737

สิ่งที่คุณไม่ชอบทั้งหมดในระบบธนาคารเดิม การเล่นแร่แปรธาตุ การมีอำนาจมากเกินไป ฯลฯ มันมีอยู่ในระบบไร้ศูนย์กลางทิพย์ทั้งนั้นเลย..

By: pepporony
ContributorAndroid
on 21 June 2022 - 06:17 #1252741 Reply to:1252739

แถมสิ่งที่มีเพิ่มมาในไร้ศูนย์กลางทิพย์คือ….Crypto Bros 55555

By: criminals
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 21 June 2022 - 07:00 #1252744 Reply to:1252737
ลืมตอบไปข้อนึง "เงินที่เราใช้ๆ ทุกวันนี้มูลค่ามันนิ่งมาก" นิ่งในความหมายใหนครับทำไมผมไม่เห็นอาหารตามสั่งจานละ 20 บาทแล้วอะครับ

ตามความคิดผม มูลค่าสินค้า กับ มูลค่าตัวเงิน มันน่าจะเป็นคนละเรื่องกันนะครับ

By: mk
FounderAndroid
on 21 June 2022 - 08:48 #1252750 Reply to:1252744
mk's picture

เสริมแบบสั้นๆ ครับ "เงิน != เงินตรา"

และการที่เงินเฟ้อได้ เป็นฟีเจอร์สำคัญอย่างหนึ่งของเงินในระบบเศรษฐกิจครับ

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 21 June 2022 - 11:57 #1252773 Reply to:1252750

คุณเชือในระบบเศรษฐศาสตร์ของค่าย keynesian ครับเลยคิดแบบนี้


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: zerost
AndroidWindows
on 21 June 2022 - 11:12 #1252770 Reply to:1252744
zerost's picture

นัยเดียวกัน ถ้าคุณโหยหาข้าว 20 บาทในอดีต ถ้าเทียบกับคริปโตนี่โคตรนิ่งเลยนะครับ สมมติว่าถ้าเราใช้ btc เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนสินค้ากันตั้งแต่ซาโตชิทำเหรียญมาใหม่ๆ ข้าวที่ใช้คริปโตซื้อตอนนั้นกับตอนนี้เรียกว่าจากราคาข้าวกลายเป็นบ้านเป็นรถไปแล้ว

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 21 June 2022 - 12:51 #1252782 Reply to:1252770
nessuchan's picture

นึกถึงเมื่อปี 2010 ที่ 1 BTC แลกพิซซ่าได้ 2 ถาด ตอนนี้ได้ City คันนึง แต่ก่อนนี้ได้บ้านหลังนึง อนาคตยังไม่รู้ว่าจะกลับไปแลกได้แค่พิซว่า หรือจะซื้อเมืองทั้งเมืองได้

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 21 June 2022 - 09:51 #1252760 Reply to:1252737
lew's picture

สูบออกไปมากพอหรือไม่นี่สุดท้ายเขาดูที่เงินเฟ้อนี่ครับ ถ้าเงินเฟ้อยังไม่หยุดเดี๋ยวเขาก็สูบออกอีก เขาไม่ได้มานั่งนับว่าเคยใส่เข้ามาเท่าไหร่

นิ่งมาก แปลว่าเขาจงใจให้มันเฟ้อเล็กน้อย เฟ้อช้าๆ ครับ

ถ้าอาหารตามสั่งจานละ 20 บาท ใช้เวลา 20 ปีขึ้นมาเป็น 40บาท นี่ปีละ 3.5% เงินเฟ้อจริงๆ ต้องคิดรวมๆ อย่างมาม่าแทบไม่ขึ้นเลย ถ้าวัดจากมาม่าอาจจะใกล้ศูนย์ ก็ต้องถัวๆ ไป

คนถือคริปโตถ้าใช้ BTC (ที่มีปริมาณเงินใหม่ออกอย่างตายตัว ไม่ได้ใส่เข้าได้อิสระเหมือนธนาคารกลาง) ไปซื้อข้าวแกงนี่ปีนี้แพงขึ้นตาม BTC 2-3 เท่าตัวในปีเดียว


lewcpe.com, @wasonliw

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 21 June 2022 - 12:21 #1252778 Reply to:1252760

วิธีการหยุดเงินเฟ้อตามตำราเลยคือต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายให้มากกว่าอัตราเงินเฟ้อครับปี 1980 โลกเจอดอกเบี้ยมหาโหด 20% กันมาแล้วแต่ด้วยสถานะการณ์หนี้ท่วมโลกแบบนี้ทำให้การขึ้นดอกเบื้ยไม่ง่ายก็เลยมีของเล่นใหม่ที่ชื่อว่า QT ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า work แค่ใหนครับ

ถ้าคุณเชื่อว่าเงินเฟ้ออ่อนๆตลอดเวลาเป็นเรื่องดีอันนี้แปลว่าเราเชื่อทฤษฎีเศรษฐศาสตร์คนละสำนักกันครับเถียงกันไม่จบแน่นอน

คุณเล่น convert เงินอีกประเภทนึงมาเทียบกับเงิน fiat มันก็จะเป็นอย่างที่คุณว่านี่หละครับแต่ก็พอเข้าใจได้ว่า ณ ตอนนี้คนทั่วไปยังบันทึกธุรกรรมเป็นหน่วยของเงิน fiat อยู่


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: Neroroms
Windows
on 21 June 2022 - 06:49 #1252743 Reply to:1252735

ผมคิดว่ากลุ่มที่ถือคลิบโตบางกลุ่มไม่ได้เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์​หรอกครับ
การพิมพ์เงินเข้าระบบที่พวกเขายกมาโจมตีเขาก็จะอ้างแค่ว่ารัฐพิมพ์​เงินเองได้ไม่ผิด แต่พวกเขาสร้างเงินเองผิดเพราะรัฐต้องการเอาเปรียบ
การพิมพ์เงินเข้าระบบมันไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ถ้าพิมพ์เงินเข้าระบบมากเกินไปจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ​ได้ เพราะเงินจะไร้ค้าไปในทันที อย่างเวเนซูเอล่าที่รัฐบาลเลือกที่จะยัดเงินเข้าระบบเยอะ ๆ แก้คนจนกลายเป็นว่าต้องหอบเงินสองกระสอบ​ซื้อไก่ตัวเดียวนั่นแหละ​ครับ
ระบบการเงินคือส่วนนึงของเศรษฐกิ​จซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นง่ายมาก แต่จริง ๆ แล้วมันมีอะไรลึกกว่านั้นเยอะครับแต่คนกลุ่มนี้เขาไม่มองกันหรอก ขอแค่ทำเงินได้ก็พอ และการมีคนเอาเงินเข้ามาในระบบคลิปโตเยอะ ๆ มันก็มีโอกาสที่เขาจะได้เงินเยอะไงครับถ้าเขาคิดว่ามันกำไรที่จะขายทิ้ง
ผมเองไม่คิดจะลงคลิปโตเพราะผมไม่เห็นว่าเงินในระบบคลิปโตนั้นเอาไปสร้างผลิตภัณฑ์​อะไรที่สร้างมูลค่าให้กับเงินที่มีอยู่เดิมอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับการลงทุน​กับบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์​ครับ เท่าที่เห็นคือเหมือนของสะสมเอากำไรเท่านั้นแหละ อันนี้พูดให้ soft ลงแล้วนะครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 20 June 2022 - 20:01 #1252729 Reply to:1252723
mr_tawan's picture

ผมเข้าใจว่า ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ เรื่องราวพวกนี้มันเคยเกิดขึ้น และก็มีคนที่รู้และเข้าใจมันดี

แต่ก็จะมีคนที่ไม่เคยรู้ เพราะไม่เคยศึกษา พอมีคนออกมาบอกว่าเดี๋ยวมันจะเกิดขึ้นเพราะมันเคยเกิดขึ้นแล้ว ก็จะปฎิเสธไปว่า "เรามีเทคโนโลยีที่ดี ไม่เหมือนสมัยนั้นหรอก" ทั้ง ๆ ที่มันไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเลย


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: YongZ on 20 June 2022 - 21:55 #1252733 Reply to:1252723

คิดว่าความเสี่ยงที่จะเกิดrugpullมันเท่ากันไหมครับเอกชนกับรัฐ

By: Azymik on 20 June 2022 - 18:31 #1252724 Reply to:1252709

ชอบความเห็นคุณ lew มากๆ ครับ

By: ninja741 on 20 June 2022 - 21:00 #1252730

decentralize มันเป็น innovation ทางภาษา ไม่ใช่เทคโนโลยี

เป็นการคิดคำใหม่ของคำว่า บริษัทมหาชน(ที่ไม่เคยเป็นของมหาชนจริงๆ)

By: rattananen
AndroidWindows
on 21 June 2022 - 08:54 #1252751

เริ่มคิดว่า cryptocurrency กับเพชร นี่มาแนวเดียวกัน (ที่ไม่ใช่ด้านผูกขาด)

By: dheerapat on 21 June 2022 - 09:13 #1252754

สุดท้ายแล้ว blockchain ก็เป็นแค่ database รูปแบบนึงสำหรับผมเท่านั้น 55555

By: crisis_xiii
iPhone
on 21 June 2022 - 12:15 #1252777
crisis_xiii's picture

สายคอมที่เข้าใจเศรษฐศาสตร์มีน้อยครับ บางทีอธิบายไปก็ไม่ค่อยเกทกันเท่าไร

ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย ไม่ว่าจะเปน centralize หรือ decentralize

แต่คอนเซปมีสิ่งเดียว

เงินเป็นสิ่งที่คนให้มูลค่ากับมัน
เมื่อไรก็ตามที่มันสูญเสียความเชื่อถือ มันก็จะเสียมูลค่าเช่นกัน