เว็บไซต์ Windows Central อ้างแหล่งข่าวภายในไมโครซอฟท์ว่าบริษัทกำลังจะกลับมาใช้รอบการออก Windows เวอร์ชันใหญ่ทุก 3 ปี แบบเดียวกับในยุค Windows Vista (2006), Windows 7 (2009), Windows 8 (2012), Windows 10 (2015) แล้วเลิกไปในยุค Windows 10 ที่เปลี่ยนมาใช้แนวคิด Windows as a Service ไม่ออกรุ่นใหญ่อีกแล้ว
ไมโครซอฟท์กลับคำแล้วเปลี่ยนมาออก Windows 11 อีกครั้งในปี 2021 ถ้าข่าวลือนี้เป็นจริง เราก็จะเห็น Windows 12 ออกในปี 2024
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เคยประกาศว่าจะออกอัพเดตใหญ่ให้ Windows 11 ปีละครั้ง โดย Windows 11 ตัวแรกที่ออกปลายปี 2021 มีโค้ดเนมว่า Sun Valley ส่วนอัพเดตใหญ่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ (22H2) มีโค้ดเนมว่า Sun Valley 2
ในอีกด้านยังมีข่าวลือของโครงการภายในชื่อ Moments ที่จะออกฟีเจอร์ย่อยๆ ให้ Windows 11 ตลอดทั้งปี (อาจถึงปีละ 4 รอบ) โดยไม่ต้องรอการอัพเดตรุ่นครั้งใหญ่ แนวทางนี้มีข่าวว่าจะเริ่มในปี 2023 และจะซอยฟีเจอร์ของ Sun Valley 3 มาทยอยปล่อยให้เรื่อยๆ แทน ลักษณะคล้ายโครงการ Feature Drops ของ Google Pixel
ที่มา - Windows Central
Comments
กลับคำไปมา
แล้วมันก็จะมี 1 ใน 3 ตัวที่เป็นตัวเต็งแล้วคนจะใช้ยาวๆเป็นสิบปี ที่เหลือก็จะกลายเป็นแค่ของเล่นที่ถูกลืม 555+
เอาจริงๆ Windows เวอร์ชันใหญ่ทุก 3 ปี แบบเดียวกับในยุค Windows Vista - windows 10 อันนี้ครั้งที่ 2
Windows เวอร์ชันใหญ่ทุก 3 ปี ครั้งแรกก็สมัย windows 95 - windows 2000 ซึ่งแต่ก็ดีครับจะได้พัฒนาความสมบูรณ์ให้ดีมากขึ้น
มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก ถ้าพี่ไม่ได้ทะลึ่งพูดว่า Windows 10 จะเป็นวินโดวส์ตัวสุดท้ายแล้วใช้วิธีอัพเดตเอาอะ
เวอร์ชันเดียวเก็บเงินยากสินะ
เหมือนเค้าจะให้อัพเกรดฟรีตั้งแต่ Vista แล้วไหมนะครับ
ผมใช้ key window10 active window 11 ครับ
เครื่อง ThinkPad T420 ตอน license ที่ติดมากับเครื่องคือ Windows 7 ตอนนี้ใช้ Windows 10 เพราะใช้อัพเกรดตามรอบปรกติ
เอาจริงๆ หลายๆ เครื่องที่ใช้อยู่มี license ติดมา ก็ได้อัพเกรดตามรอบ จะไม่เสียเงินครับ แต่หากเป็นเครื่องใหม่ ก็ซื้อ Windows มาใช้ตามปรกติ
ยังงง ๆ ว่าทุก 3 ปีจะออกใหม่ทำไม หรือแค่ต้องการขาย license ใหม่
ยังไงผมว่าก็คงเป็น Free upgrade อยู่ดี แต่อาจจะไปละความถี่ของเรื่อง end of support ไหมนะครับ ตอนออกรุ่นทุกครึ่งปี ต้องคอยมาแจ้งให้อัพเกรดเพราะจะหมด support
อาจจะได้ประโยชน์เรื่อง ไม่ต้องตาม Support เครื่องรุ่นเก่า ๆ ครับ คือบางที Hardware เก่า ๆ มัน Patch security ไม่ไหวแล้ว อัพไปก็ใช้งานแทบไม่ได้เพราะช้ามากจาก Patch Security
เพราะอย่าง Windows 11 เครื่องที่ใช้ Windows 10 ได้หายไปเยอะเลยจากเดิม Windows 10 นี่ลงได้ยัน Pentium 4 ซึ่งมันก็ไม่ได้ให้ประสบการใช้งานที่ดีอยู่แล้ว พอมา Windows 11 ตัดเหี้ยน ลงได้แค่ Intel Gen 8 ขึ้นไป และยังมี Hardware Security อีกหลายตัวที่ต้องการอีก ลองคิดดูว่าถ้า Windows 10 เป็นวินโดวส์สุดท้าย มันจะวุ่นวายแค่ไหน ออก Major update ทุก ๆ 3 ปีก็ยังดีที่ได้ปล่อยเครื่องบางเครื่องทิ้งไปได้บ้าง น่าจะลดต้นทุนได้เยอะเลยในการพัฒนา
แนวทางนี้ก็คล้าย ๆ กับ MacOS ที่ออกใหม่ทุกปี แล้วก็จะมีบางปีที่เครื่องรุ่นเก่า ๆ ไม่ได้ไปต่อ
เพราะสมัย Windows 10 แอปเปิ้ลก็ยังใช้ macOS 10 หรือเปล่าเลยใช้วิธีเดียวกันคือคงเลขเวอร์ชันหลักไว้
แล้วอยู่ดีๆ BigSur ก็มา คราวนี้ Windows 10 เลยดูเก่าไปเลย
ชอบ Visual ของ Windows 11 มาก อย่าเพิ่งทิ้ง ดูอายุสั้นจัง
ชัดเจนละ6ปีจะได้ใช้ของดีทีนึง
The Last Wizard Of Century.
กลับมาวนลูป ห่วยรุ่น-ดีรุ่น
สักพักอาจจะมีเวอร์ชั่น LTS สำหรับลูกค้าองค์กร
วินโดส์ 10 มี LTSC ที่ support ยาวๆ อยู่นะครับ https://docs.microsoft.com/en-us/windows/release-health/release-information
ส่วน 11 เหมือนยังไม่ออก https://docs.microsoft.com/en-us/windows/release-health/windows11-release-information
ผมยังเห็นร้านสะดวกซื้อบ้างร้านยังใช้ XP อยู่เลย
บ้างร้านก็ w10 ร้านเดียวกันมีสามเครื่อง xp w7 w10 ก็มี🤣
ทนกับการที่ต้อง Shift + คลิกขวา (More Menu) ทุกครั้งไม่ไหวจริงๆ
ถ้า 12 13 14 ยังเหมือนเดิมก็คงใช้ 10 ไปยาวๆ จนกว่าจะโดนบังคับแบบไม่มีทางเลือกนั่นแหละถึงจะไป
แถวคิดappleพอเขาเปลี่ยนก็ทำบ้าง
คิดว่าน่าจะไม่ใช่การออก OS ใหม่กิ๊ก แบบเดิมๆ น่าจะแบบ OS เจ้าอื่นๆ ที่ออกรุ่นใหม่มาทุกปี2ปีนั้นแหละ
The Dream hacker..
ไม่ก็แค่พอใช้ว่าเป็น Windows 10 เหมือนกันหมดแล้วคุยยาก รุ่นแรกกับรุ่นหลังสุดเองก็ต่างกันเยอะมากด้วย
อันนี้จริง เจอหลายเครื่องที่ได้มาปุ๊ปปิดอับเดต แล้วต้องมาแก้ปัญหาให้ทางโทรศัพท์คือปวดหัว เมนูไม่ตรงกัน
ผมก็คงหนึ่งในหลายคน ที่คิดว่าหลังๆ นี่ชักจะตาม apple มากไป แล้วหลงทางซะเอง
WE ARE THE 99%
––ผิด––
ห้ะ ยังไงนะครับ
หมายถึง ms ครับ ทั้งการดีไซน์ win11 และทั้งแนวคิดการออก/เรียกขานเวอร์ชั่น os อดคิดไปถึงแอปเปิ้ลไม่ได้ เหมือนความแข็งแกร่ง dna แบบ ms มันหายไป กลับไปกลับมาแบบนี้ เหมือน ms หลงทางซะเอง
WE ARE THE 99%
ผมยังจับจุดที่รู้สึกว่าเหมือนไม่ได้น่ะครับ 😅
เข้าใจว่าอันนี้แหละ ms แท้ๆ เลยนะครับ 😂
Microsoft ทำแบบนี้มานานแล้วครับ อะไรไม่เหมาะสมก็ปรับ ตัดทิ้งอยู่เรื่อยๆ (ในมุมของ Microsoft)
- Windows 3.11 -> 95
- Windows Me -> Windows XP
- Windows 7 -> 8
- Windows 10 -> 11
ฝั่ง Software development framework ก็มีปรับมาหลายรอบตามยุคของ OS เช่นกัน
ถ้าอ่านแท็ก Joe Belfiore จะไม่มีทางคิดถึงแอปเปิลได้เลยครับ
เปลี่ยนชื่อก็ดี จะได้รู้ว่าใช้ของใหม่อยู่
ขนาด iPhone ดีไซน์เดิมๆ ยังกล้าใช้ชื่อรุ่นใหม่เลย
หวังผลด้านการตลาดหรือเปล่า
ถ้ารุ่นเดียวอัพเกรดเรื่อยๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก มันก็เป็นข่าวไม่ฮือฮาเท่าออกรุ่นใหม่ๆซิงๆ โหมโปรโมทเข้าไป มันก็ดูเหมือนเป็นสินค้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดทำให้คนตื่นตัวมากขึ้น?
+1
ผมอุตส่าห์หลงเชื่อ Jerry Nixon โธ่พี่ทำกันได้
ไม่มีปัญหาอะไร เพราะ MS ก็กลัวคู่แข่งเหมือนกัน กลัวโดนแย่งฐานลูกค้า
WIn10 ก็ให้ใช้ฟรี จำกัดความสามารถนิดหน่อย
บ้างใช้ Key Win7 แต่ลากยาว มาใช้กับ 11 ได้
เรื่องให้ใช้ฟรีนี่ทำเพื่อบริษัทเองครับ เพราะถ้าต้องมาคอยซัพพอร์ทซอฟท์แวร์เก่าๆ มันใช้ทรัพยากรเยอะมาก
ยิ่งนับวันที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไปซอฟท์แวร์ตัวใหม่ๆ หมดแล้ว ทรัพยากรในบฺปู้พัฒนาก็จะยิ่งขาดแคลนมากขึ้น เพราะย้ายทรัพยากรไปตัวใหม่เป็นส่วนใหญ่ เหลือทรัพยากรไว้สำหรับตัวเก่าเท่าที่วางแผนรับมือไว้
ถ้าทรัพยากรที่จองไว้ให้ซอฟแวร์เก่าหมดลง เช่น ทรัพยากรมนุษย์ลาออก ก็ต้องลำบากมาเทรนอีก ต้องเมนเทนค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่าง
ทั้ง UI ทั้ง Feature
พัฒนา(ลง)เพื่อให้ใกล้เคียงกับคู่แข่ง
ลืมรากเหง้าของตัวเองว่ามันเกิดมาเพื่อ
ผู้ใช้ที่ ไม่ใช่ ประเภทอยู่เฉยๆ เดี๋ยว OS ทำให้
ผลก็คือ หวังผู้ใช้ใหม่ๆ
แต่เขาก็ยังคงซื่อสัตย์กับ OS เดิมต่อไป(เพราะใช้ง่ายกว่า)
ส่วนผู้ใช้เก่า
หงุดหงิดกับความ พยายาม ทำให้ง่าย
แต่กลายเป็นโดนลดทอนความสามารถ
จริงถ้าเทียบกับ MacOS แมคซื้อมาก็รวม OS
ฝั่งวินโดส์นี่ซื้อเครื่องจากบริษัทหรือยี่ห้อเนี่ยรวม OS มาหมดแล้ว ซื้อใหม่นี่เครื่องเปล่า DoS , no OS แทบไม่มียกเว้นสั่ง แถมสั่งต้องฝั่ง commercial , สาย enterprise ถ้า consumer ทั่วไปก็รวม OS หมด จะยกเว้นอีกอย่างก็คอมประกอบ
ซื้อคอมสายวินโดส์จริงไม่เห็นน่ากังวลเท่าไรว่าจะเสียเงินค่า OS เลย อัพฟรียาวๆ คงเหมือนแมคไปแล้ว
ผมที่สนใจแต่เลขเวอร์ชันของมันอย่างเดียว (Windows NT 10.0): ( ͡° ͜ʖ ͡°)