By: mk 
on 31 July 2022 - 18:00
Tags:
Revelio Labs บริษัทที่เก็บสถิติตำแหน่งงานของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ออกรายงานว่าตำแหน่งงานที่มีคำว่า "metaverse" ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว 81% ภายในเวลาแค่ 3 เดือนล่าสุด (เมษายน-มิถุนายน 2022)
Revelio Labs เก็บสถิติย้อนหลังดูตำแหน่งงานที่มีคำว่า metaverse พบว่าค่อยๆ เพิ่มขึ้นหลัง Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 และขึ้นไปพีคที่เดือนเมษายน แต่หลังจากนั้นก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา
เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือ ตลาดแรงงานสายไอทีก็ชะลอตัวลง โดยบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งเริ่มชะลอการจ้างงานใหม่ หรือบางรายถึงขั้นต้องปลดคนออก ภาพรวมของตำแหน่งงานไอทีในเมืองใหญ่ของสหรัฐลดลง 8.4% ในรอบ 4 สัปดาห์ล่าสุด ทำให้หลายบริษัทต้องมาพิจารณาตำแหน่งงานที่จำเป็นต้องเปิดรับจริงๆ กันใหม่ ซึ่งตำแหน่งงานสุดไฮป์อย่าง metaverse ย่อมโดนตัดออกนั่นเอง
ที่มา - Bloomberg
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
รอพี่ T จ้างงานแล้วกัน เห็นก่อนหน้านั้นพูดใหญ่ว่า จะมีอาชีพในโลกเสมือน อย่างหมอMetaverse อย่างงง 555
ที่ว่าเซ้งที่ทิพย์แถวสีลมหลักล้านนี่ไปไหนละครับ ออกมาแฉหน่อย
ใครไปหลอกมาร์คว่า meta คือ อนาคต...ทิพย์
พูดตามตรง จักรยานเนรมิตอะไรนี่ ผมไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างที่มันจะแมสเลย ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แม้กระทั่งโซเชี่ยลเอง ก็ยังไม่มีใครทำเป็นรูปเป็นร่างออกมา
จักรวาล!
ขอบคุณที่ช่วยตบครับ ไม่งั้นผมคงนอนไม่หลับเพราะไม่เข้าใจมุกไปอีกหลายวัน
มันเกิดขี้นแน่ แต่ยังไม่ถึงเวลา
ก็แค่ buzzword
คงอีก 20-30 ปี metaverse จะใช้งานอย่างแพร่หลาย เหมือนโซเชียลเน็ตเวอร์ตเหมือนทุกวันนี้
ผมให้อีก 50~60 ปีครับ ไม่น่าจะเร็วขนาดนั้น เว้นแต่ apple มีอะไรให้ wow จนค่ายอื่นต้องทำตาม แต่ก็มาคอขวดตรงที่ คนเก่งๆได้เสียไปจาก covid เยอะพอสมควร
ถ้าสุดท้ายออกมาเป็นแว่น VR กับด้ามจับสองอัน เจ๊งแน่นอน มันทำให้ยุ่งยากกว่าเดิม
ผมว่ามันมีมานานแล้วนะ แต่มันอยู่ในรูปแบบของเกม MMO ทั้งหลายมากกว่าครับ
จริงๆถ้าตีความแบบกว้างๆ พวก Forum หรือ Web board มันก็นับเป็น Metaverse แล้วล่ะครับ แค่มัน Avatar/Expression มันจำกัดกว่าแค่นั้นเอง (ต้องมากแค่ไหนถึงจะเป็น Metaverse? ไม่มีใครรู้ 55+)
เอาจริงๆคำจำกัดความของ Metaverse ทุกวันนี้คืออะไรผมยังไม่รู้เลย หลายบริษัทใส่ AR VR blockchain อะไรพวกนี้มั่วไปหมด คนต้นคิดอย่าง FB ก็ไม่ทำอะไรให้ชัดเจน มันเลยมั่วซั่วกลายเป็นแค่ Buzzword เนี่ยแหละ
จะตีกว้างๆ แบบนั้นมันก็ได้อยู่ เพียงแต่ที่ผมยก MMO เพราะมันเห็นชัดเจน เนื่องจากมันมีโลกเสมือนที่เห็นได้ชัดเจน มีกิจกรรมให้ทำร่วมกันมากกว่าแค่พูดคุยกันครับ
Metaverse นี่ ทรงเดียวกับ Crypto เลย
คือ นิยามตัวมันเองไม่ชัดเจน เน้นโปรโมทว่า
มันคืออนาคต และคนที่เกี่ยวข้องจะรวยส์
ในเมื่อเราเข้าแอพธนาคารในมือถือเร็วกว่าสวม VR แล้วเข้าโลกเสมือนเพื่อฝาก/ถอนเงิน คงยากครับที่จะให้เกิดเป็นรูปธรรม
The winter is coming.
ตอนนี้บริษัทเริ่มเตรียมรับมือภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจถดถอย จึงเกิดเหตุ "หลายแห่งเริ่มชะลอการจ้างงานใหม่ หรือบางรายถึงขั้นต้องปลดคนออก" คาดว่าตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับคำจำพวก web3, crypto currency, AI, big data, data science น่าจะได้รับผลกระทบด้วยระดับที่มากน้อยต่างกัน
หลังๆ เบื่อกับคำพวกนี้มาก จนอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมไม่สนใจ "แก้ปัญหา" เอาแต่ "หาปัญหาเพื่อนำเครื่องมือไปใช้"
ผมว่าพวกเว็บบอร์ด เกมออนไลน์ มันก็เปรียบเหมือนโลกเสมือนมาก่อนอยู่แล้ว การที่เราต้องใส่แว่นชนิดพิเศษถึงจะเห็นโลก 3D อีกใบ มันไม่ง่ายนะที่จะทำให้ทุกคนสนุกไปกับมัน (ผมคนนึงล่ะ)
..: เรื่อยไป
กำลังคิดว่าองค์กรต่าง ๆ ที่เคยเอาเรื่อง metaverse มาโปรโมตกันโครม ๆ น่าจะมองเห็นแล้วว่า metaverse จริง ๆ มันไม่มีอะไรเท่าไร เป็นเพียงแค่ buzzword XX ที่ผ่านหูไปเท่านั้น
Artificial demand ชัด ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ช่วงที่ ปั่นกันนี่ แอบหงุดหงิดมาก ๆ เลย
ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีอะไรสักอย่าง แต่ก็ปั่นกันเหมือนเวลานั้นมาถึงแล้ว
เหมือนว่างกันเกินไป เลยอยากสร้างเรื่องขึ้นมาให้ตื่นเต้นกันแก้เบื่อ
ของที่มีตอนนี้ไม่ว้าวซักอัน ไม่มีอันไหนพร้อมซักอย่าง
ผมเองไม่ว้าวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะผมฉลาดไม่พอที่จะเห็นว่ามันจะกลายมาเป็นอนาคตของ cyberliving ได้ยังไง