ดูสิ่งที่บอกไว้ตอนก่อนเปิดตัว กับเกมเพลย์จริงๆของ Diablo Immortal แล้ว ไม่ได้สบายใจขึ้นเลย

รอบนี้คงไม่ pre-order ดูทรงก่อนดีกว่า

คิดว่าคงกระทบไม่เยอะ เป็นแนวทางที่ดูกลางสุดระหว่างเม็ดเงินที่เป็นเกมกาชากับเกมขายครั้งเดียวจบแล้ว

เอาเป็นว่าขอให้ตัวเกมออกมาสนุกละกัน ผมซื้อเครื่อง xss มารอละ

รอขายจริงแล้วดูสตรีมที่เค้าเล่นไปก่อนสักวันสองวันค่อยตัดสินใจซื้อ

วงการเกมสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้

ก็ดีนะมี Game Pass เป็น Season ไป จะได้มี Update เรื่อยๆ ถ้า Engine รองรับก็ปล่อยออกมาปีละ 1 season ก็อาจมีทุนพอจ่ายเงินเดือนพนักงาน ไม่ต้องดิ้นรนส่งของมี Bug ออกมาขายแบบบริษัทอื่น เข้าใจแหล่ะกระแส cashflow มันไม่เข้าใครออกใคร เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่ต้องออกแบบระบบงาน และ Business Model ให้สอดคล้องกับสภาวะทางการเงินด้วย ไ่ม่ใช่หวังแต่เกมส์ AAA เพียงอย่างเดียว

ส่วน Diablo Immortal ก็ควรแยกจักรวาลออกไปให้ชัดแบบ Marvel ไปเลย จะได้เล่นแท็คติกทางการตลาดได้เต็มที่อยากใส่อะไรก็ใส่ไปเพื่อทดสอบตลาด เพราะยังไงก็ปล่อยฟรีอยู่แล้ว แยกจักรวาลหลัก จักรวาลรองไป คนเล่นจะได้ไม่สับสน

ขอไม่ต้องต่อเซิร์ฟเวอร์เล่นตลอดเวลาด้วยนะ

จากที่เล่น Diablo มาทุกภาค รวมถึง Immortal
ดูทรงแล้ว หยิบโมเดล Immortal มาใช้แน่ๆ

แต่ไม่บอกว่า Lootbox หรอก มาในรูปแบบเปิดทีบท้ายดันแทน
และถ้าไม่ซื้อ Meterial เพิ่มพลังหีบ เปิดให้ทีบแตกก็ไม่เจอของดีหรอก

ไม่มีขาย lootbox แต่ขายของช่วยเพิ่ม rate หีบท้ายดันแทน (แบบ immortal) แหงๆ

จ้ะ (รอดูอย่างเดียว)

ทำไมต้องมี Free-Tier และ Premium Tiers ????????????????????

ชัดเจนว่ามีส่วนต่างในการเล่นแน่ มันเล่นแง่ทุกมุมอยู่แล้ว เช่นของที่ได้สเตตัสพอๆกัน แต่ premium tiers สามารถอัพไปได้ไกลกว่า หรือใส่เจมได้เยอะกว่า

บอกเลยถ้ามีแยก Tiers = มีเหลือมล้ำแน่นอน

เกลียด battle pass มาก บังคับเข้าเกมเกือบทุกวัน ต้องทำนู้นนี่ เพื่อไห้ได้ของ ถึงแม้จะเป็นของตกแต่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่มีหรอก ไม่งั้นรู้สึกขาดๆไม่ได้ของเหมือนเกมไม่สมบูรณ์ สุดท้ายคงต้องเติม จะเล่นชิวๆอืดๆ อาทิตย์ไหนไม่ว่างก็ไม่ต้องเข้าเกมก็ได้ไรงี้ หมดความอิสระในการเล่นไปเยอะเลย