แม้โลก AR, VR หรือแม้แต่ MR จะมีมาตั้งนานแล้ว แต่กระแสนี้ถูกปลุกขึ้นจนเห่อกันไปทั่วโลกด้วย Metaverse จาก Meta เมื่อปีที่แล้ว ทว่า Phil Spencer ซีอีโอ Xbox กลับมองว่า คนในวงการเกมเมอร์ไม่ค่อยอินกับแนวคิด Metaverse นี้เท่าไหร่
Phil ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg พูดถึงเรื่องนี้ว่าเหล่าเกมเมอร์อยู่กับ Metaverse มากว่า 30 ปีแล้ว เวลาคนเหล่านี้เล่นเกม เขาก็มีปฏิสัมพันธ์กันผ่านโลก 3 มิติ ที่แชร์ร่วมกัน ทำอะไรร่วมกัน ก็แค่นั่งอยู่ที่บ้าน แล้วก็พูดคุยกันผ่านเสียง ผ่าน avatar ออนไลน์
ที่มา - Bloomberg Technology
Comments
ถูก ไม่ใช่เรื่ืองใหม่อะไรแต่อย่างใด
เล่าเกมเมอร์ >> เหล่าเกมเมอร์
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
แล้วที่ทำๆกันมา กราฟฟิกกะโหลกกะลามาก ยิ่งไม่อินไปใหญ่
ก็รู้ตัวเองนะว่าไม่อินแต่ไม่รู้ทำไม
พออ่านจบ มันก็จริงนะ เราอยู่กับมันมานานแล้ว
น่าจะซัก 20 ปีรึเปล่า
คือให้เทียบกับตัวละครพี่มารค์กับโนวิซแร็คน่าร็อกนี่ผมก็เทใจไปทางแร็คแล้วแหละ
ส่วนตัวคิดว่ามีแค่ 2 บริษัทที่สามารถทำ “Metaverse” คือ Blizzard กับ Rockstar
Blizzard ตัดทิ้งครับ ทุกวันนี้ไม่ใช่ Bliz ที่เราคุ้นเคยอีกต่อไป WoW จบไปแล้ว
Rockstar ทำได้แน่ GTA Online แทบจะเป็น Metaverse ที่ตรงคอนเซ็บกว่า และ FiveM คือมิติคู่ขนาน
ถ้า Rockstar เปิดกว้างกว่านี้ คิดว่าชาวเกมเมอร์ทำให้ทุกอาคารบ้านเรือนเข้าได้แน่ แล้วถ้าสเกลมันใหญ่ขึ้นการขายพื้นที่ออฟฟิคในเกมก็ใกล้เคียงความเป็นจริง
Rockstar ก็ตัดทิ้งไปอีกอันครับ หน้าเงินเกินไป แถมมีปัญหากับทีมงานเก่าๆที่ออกไปแล้วหลายคนจนคนที่เคยเป็นหัวหอกของค่าย ออกมาทำเกมของตัวเองชื่อ Everywhere ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
Rockstar ตอนนี้ Take Two ก็เริ่มจะไม่ต่างจาก publisher เจ้าอื่นละ ล่าสุด gta remaster ออกมาก็จบกัน
อันนี้ผมตอบทุกคนที่เดียวไปเลยนะครับ
ส่วนตัวผมว่าเรี่องหน้าเงิน ปัญหาภายใน เป็นเรี่องปกติของบริษัท แต่ผมก็ไม่สนับสนุนนะครับ แต่มีผลกระทบไหมก็ต้องดู End Product กันไปครับ
ส่วนตัวผมเล่นแต่ GTAO กับ FiveM ผมคิดว่าแม้ว่า Rockstar จะมีปัญหาคนหัวกะทิออกไปบ้าง แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า Rockstar พร้อมที่จะสร้างอะไรใหญ่ๆ แบบ Metaverse (หรือแบบภาษา Gamer คือ เกม Open World ที่อาจจะใช้ VR โต้ตอบกับผู้เล่นอี่นๆ) ได้ ด้วยจากการที่มี Resource และ Experience มากเยอะมาก ส่วนตัวผมว่าอยากให้ Rockstar ทำแนว GTAO + FiveM รวมกันเป็น Metaverse แต่ก็ดูกันอีกที่ว่า Take Two จะหยี่งยโสหรือไม่
ส่วนฝั่ง Blizzard ผมไม่เคยเล่น WoW เลยครับฮ่า แต่ได้ยินว่าระบบ Open World Economy แข็งแกร่งมาก มีการชี้อขายตลอดเวลา
สมัย ro บูมๆ นี่พวกที่ติดๆ คือเข้าไปเจอสังคมเพื่อนในเกมส์มากกว่าออกไปตีแมงในดันเจี้ยนจิงๆนั่นแหละ
ยิ่งตอนมีกิลวอร์ ยุคนั้นคนที่ติดนี่ไปอยู่ใน ro ได้ทั้งวัน ทั้งคืนจิงๆนะ
นึกถึงวันเก่าๆ
และ DL Action 13
+1
Metaverse ในแบบของที่ผมคิดเอาเองมันต้องแบบ Metrix หรือ Sword art online แบบนั้นครับ
ถ้าแบบเหมือนกับใส่ VR AR ลงไปเป็นแบบเกมมุมมองบุคคลที่1
แล้วเอามาเรียก Metaverse รู้สึกกระดากปากตัวเองยังไงชอบกล เหมือนมันมีมานานแล้วแค่ไม่มีเทคโนโลยี VR AR แค่นั้นเอง
แต่เข้าใจแหละว่าอาจจะเป็นจุดเริ่มต้น
ตอนได้ยินคอนเซ็ป Metaverse ยังคิดเลยว่ามันต่างจากเกมออนไลน์ยังไง แค่เอาของเล่นใหม่อย่าง VR เข้ามาเสริม มันก็ยังเป็นได้แค่ของเล่น ยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะเป็น Mainstream ได้ยังไง ทำไมถึงมั่นใจขนาดทุ่มเททุกอย่างแบบนั้น
ถูกเลย Metaverse ก็เจอมาตลอดที่เล่นเกมมาเยอะ จนรู้สึกเฉย ๆ กับคอนเซ็ปต์ แต่ผมวาวคือ อุปกรณ์ใหม่ตั้งหากอย่างที่เห็น Hololens ครั้งแรกนี้ผมวาวมาก ทำให้นึกถึง YuGi เลยอยากเล่นมาก ฮ่า ๆ
Metaverse ไม่ใช่อุปกรณ์ แต่คือผู้คน
ซ้ำครับ
พยายามทำให้มัน Mainstream ทั้ง ๆ ที่ทำให้มันสะดวกก่อนยังทำไม่ได้เลย ตอนนี้ตลาด VR มันโคตรจะ Niche สุด ๆ
เห็นด้วย จากคนที่ใช้เวลาชีวิตไปกับเกมออนไลน์เป็นหมื่นชม.
ผมสนใจแต่เทคโนโลยี VR ใหม่ๆ
แต่เมต้าเวิร์สตั้งแต่ประกาศมานี่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย
จริงครับ ส่วน VR ก็มีประโยชน์กับบางงานที่ช่วยให้เห็นภาพครบมิติมากขึ้น แต่ยังถือเป็นเครื่องมือเฉพาะทางอยู่ดี
..: เรื่อยไป
เห็นด้วยกับ Phil Spencer มันโคตรจะจริงอย่างทีสุด ตอนที่เปิดตัวแรกๆ ยังงงว่า Metaverse มันแปลกใหม่ตรงไหน
Second Life มีเหรียญของตัวเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ เป็นโลก 3D หาเงินในนั้นได้ นี่ก็เข้าคอนเซปเหมือนกัน มีมานานแล้วด้วยจนกราฟฟิคดูเก่าแล้ว