ทีมนักวิจัยจาก Gwangju Institute of Science and Technology ประเทศเกาหลีใต้ได้แผยแพร่งานวิจัยในการพัฒนาระบบ DDA (dynamic difficulty adjustment) ซึ่งเป็นระบบปรับความยากของเกมในระหว่างการเล่นที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น โดยระบบสามารถปรับความยากไม่เพียงให้สอดคล้องกับความเก่งของผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังสัมพันธ์ความรู้สึกสนุกของผู้เล่นด้วย
เทคโนโลยี DDA นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว ในปัจจุบันระบบ DDA ที่มีใช้งานอยู่จะอาศัยการเก็บข้อมูลของผู้เล่นเกมเพื่อประเมินระดับฝีมือว่าเล่นได้เก่งเพียงใดและปรับความยากของเกมให้มีความท้าทายเหมาะสมกับฝีมือการเล่นนั้น หากผู้เล่นทำคะแนนได้ดีตัวเกมก็จะถูกปรับให้ยากขึ้นโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามทีมวิจัยคิดว่าการที่ผู้เล่นสามารถทำคะแนนได้ดีแล้วเจอเกมที่ยากขึ้นไม่ได้แปลว่าผู้เล่นจะรู้สึกสนุกขึ้นตามไปด้วยเสมอ
ทีมวิจัยจึงพัฒนาระบบ DDA ที่ไม่เพียงแต่สนใจแค่ความเก่งในการเล่นที่วัดได้จากคะแนนของผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่สะท้อนถึงความสนุกในการเล่นเกม โดยระบบจะมุ่งเพิ่มระดับความพึงพอใจของผู้เล่นในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านในมิติเหล่านี้
ทีมวิจัยเชิญอาสาสมัครมาร่วมทำการทดลองเล่นเกมประเภทเกมต่อสู้โดยให้แข่งกับคอมพิวเตอร์ที่มีความยากระดับต่างๆ กันหลายระดับ จากนั้นเก็บข้อมูลจากอาสามาสมัครโดยให้ตอบแบบสอบถามว่าการเล่นเกมที่ผ่านมานั้นทำให้พวกเขามีความรู้สึกอย่างไร
จากนั้นทีมวิจัยนำเอาข้อมูลที่ได้จากการสอบถามไปเทรนให้ระบบ DDA ทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างระดับความยากแต่ละระดับกับความรู้สึกพึงพอใจในแต่ละมิติของกลุ่มผู้เล่นได้ดีขึ้น พวกเขาใช้เทคนิค Monte-Carlo tree search ในการปรับปรุงระบบ DDA ให้สามารถปรับระดับความยากของเกมได้ดีช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกมากขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของงานวิจัยนี้ได้ที่นี่
ที่มา - Tech Xplore
Comments
โดยให้ตอบแบบสอบถาม
พอเห็นหัวข้อใช้ AI ปรับความยากของเกมแล้วนึกถึง Black Mirror ตอน Playtest ทุกทีเลย
อย่าปรับเลย ... คนเขาตายบ่อย ๆ เพราะเค้าจะฝึกตัวเอง (ฮา)
ฝึกความอดทน อดกลั้น ต่อความยากลำบาก ต่อความไม่ได้ดั่งใจ เพื่อไม่ให้หัวร้อนในชีวิตจริง 🧘
Jusci - Google Plus - Twitter
ในระบบเดิมๆ การปรับให้ง่ายลงพอเข้าใจได้ แต่ปรับให้ยากขึ้นนี่เพื่ออะไรนะ แกล้งคนเล่นหรอ(ปรกติเกมไหนง่ายไปผมก็ปรับให้ยากขึ้นเองนะ คือถ้าคนเล่นเกมเก่งขนาดนั้นแล้วคงไม่ยากที่จะปรับระดับความยากกเกมได้ ถ้าเกมมีให้ปรับ)
แต่งานวิจัยระบบใหม่นี่ก็ดูดีนะ
มันมีกลุ่ม Hardcore Gamer ไงครับ แล้วกลุ่มนี้จ่ายหนักด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นแฟนเดนตายของแต่ละซีรีส์ แล้ว trend ช่วงนี้ก็เป็นอย่างนั้นด้วย เกมส์อย่าง Elder Ring เป็นตัวอย่างที่ดี คนเรามันจะมี step การเรียนรู้จากง่ายไปหายากอยู่แล้ว และคนที่จะทนเล่นไปตาม scale แบบนี้ส่วนใหญ่ก็เป็น Hardcore Gamer
แต่ส่วนตัวผมว่าเขาน่าจะมีวัตถุประสงค์ทำอย่างอื่นด้วยแหล่ะ เพราะความจริงแล้วแนวคิดนี้ประยุกต์ได้อีกหลายอย่าง เพื่อใช้พัฒนาการตอบสนองของมนุษย์ได้ โดยเฉพาะงาน Simulation ต่างๆ ที่ต้องการความสมจริง และปรับความยากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพัฒนา skill ของมนุษย์ ทำให้ลดการ training โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้เยอะ เอาเป็นว่าอุปกรณ์ Simulation ของกองทัพในปัจจุบันแทบจะเป็นตู้เกมส์ เพราะคนรุ่นใหม่คุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว ถ้าเคยเห็นอุปกรณ์คุมโดรนของกองทัพจะบอกว่านี่มัน Game Controller นี่หว่า
Forza 4-5 ก็มี พอปรับยากขึ้นแล้วแพ้บ่อยก็ปรับกลับมาที่เดิมให้
เกมมันจะสนุกถ้า ได้ชัยชนะแบบฉิวเฉียด