Tags:
Node Thumbnail

ไมโครซอฟท์เขียนบล็อกเล่าประสบการณ์ย้ายระบบจัดการธุรกรรมภายในของตัวเอง ที่เรียกรวมๆ ว่า Microsoft Commerce (มีเซอร์วิสประมาณ 700 ตัว) จากเดิมที่เขียนด้วย .NET Framework รันบนวินโดวส์ มาสู่ .NET Core ที่รันบนลินุกซ์

เหตุผลในการย้ายมาจากไมโครซอฟท์ต้องการย้ายระบบไปรันบน Azure ใช้สถาปัตยกรรม container/kubernetes (AKS) แต่พบว่ารันด้วยลินุกซ์จะเหมาะสมมากกว่า ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงต้องย้ายจาก .NET Framework มาเป็น .NET Core ที่รันได้ข้ามแพลตฟอร์มก่อน

ไมโครซอฟท์ทดลองย้ายเซอร์วิสตัวหนึ่งชื่อ Global Lookup Service (GLS) มีหน้าที่ตรวจสอบว่าผู้ใช้อยู่ที่ไหน และอยู่ใกล้ศูนย์ข้อมูลไหนมากที่สุด เซอร์วิสตัวนี้กระจายอยู่ในศูนย์ข้อมูล 4 เขตทั่วโลก มีโหลดที่ 100,000 รีเควสต์ต่อวินาที เดิมรันอยู่บน .NET Framework 4.6.2 ใน Windows VM อีกที

กระบวนการย้ายเริ่มจากเปลี่ยน .NET Framework 4.6.2 เป็น .NET Core 3.1 (ภายหลังอัพเกรดเป็น .NET 5 และ .NET 6 ตามลำดับ) ความซับซ้อนของการย้ายขึ้นกับเซอร์วิสแต่ละตัวว่าพึ่งพาฟีเจอร์ของ .NET แค่ไหน บางตัวอาจแค่เปลี่ยนรันไทม์อย่างเดียวก็พอ ในขณะที่บางตัวก็อาจแก้โค้ดเพิ่มด้วย

การเปลี่ยนจาก .NET Framework 4.6.2 ที่เก่าแล้ว (ออกปี 2016) มาเป็น .NET Core 3.1 ที่ใหม่ขึ้น ช่วยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นที่ระดับรันไทม์ทันที (ลดจำนวนคอร์ซีพียูลงได้ 35% และลด latency 78%) จากนั้นเมื่ออัพเกรดเป็น .NET 5 และ 6 ประสิทธิภาพโดยรวมก็เพิ่มขึ้นตามอีก แถมกระบวนการอัพเกรดเวอร์ชันไม่ยากเท่ากับตอนย้ายจาก .NET Framework มาเป็น .NET Core แล้ว

หลังย้าย .NET เสร็จเรียบร้อย ก็เป็นคิวของการย้ายระบบปฏิบัติการจากวินโดวส์เป็นลินุกซ์ ซึ่งเจอปัญหาว่าโค้ดเดิมเขียนเพื่อวินโดวส์ มีปัญหาอย่างการใช้ \ (backslash), การเรียก COM หรือ API บางอย่างของวินโดวส์ (เช่น Win32 File API), การใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์ IIS ของวินโดวส์ จึงจำเป็นต้องค่อยๆ ทยอยแก้ไขไปทีละส่วน

No Description

ตัวอย่างการใช้เธร็ดที่ลดลงหลังการย้ายมาเป็น .NET Core

ที่มา - Microsoft

Get latest news from Blognone

Comments

By: Azymik on 8 October 2022 - 19:23 #1264565

เพิ่ม latency 78%

เข้าใจว่าต้นทางเขียนว่า improvement in service latency แต่พอแปลออกมาเป็นแบบนี้ อาจทำให้อ่านแล้วเข้าใจว่า latency เพิ่มขึ้นครับ

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 8 October 2022 - 21:31 #1264573
btoy's picture

ต่อไประบบ​ backend คงรันอยู่บน​ linux​ แทบทั้งหมดแล้วล่ะเนอะ cloud container kubernetes เข้ามามีส่วนช่วยผลักดันอย่างมาก


..: เรื่อยไป

By: deaknaew on 8 October 2022 - 21:52 #1264575

Server Error in '/' Application. ____________________________________ Could not load file or assembly 'Some.Library, Version=0.0.0.0, Culture=neutral, PublicKeyToken=null' or one of its dependencies.

🤣🤣🤣

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 8 October 2022 - 21:54 #1264576
TeamKiller's picture

ย้ายมา Linux ประสิทธิดีขึ้นไหมนะ ไม่บอกหน่อยเหรอ ฮ่าๆ หรือกลัวคนไม่ซื้อวินโดส์

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 8 October 2022 - 22:02 #1264578 Reply to:1264576
Ford AntiTrust's picture

ก็ตัว GLS ทีเค้าเล่าไว้ครับ ว่าย้ายมาใช้ .NET 6 รันบน AKS (ซึ่งมันทำงานบน Linux)

By: sMaliHug on 8 October 2022 - 22:25 #1264580

Windows 13 ย้าย Kernel มา Linux แน่ๆ

อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้นะ กรณีศึกษาจาก IE มาสู่ edge

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 8 October 2022 - 22:46 #1264581 Reply to:1264580
Ford AntiTrust's picture

ทำไมต้องเปลี่ยน ในเมื่อตอนนี้ Linux kernel ก็อยู่ในรูปแบบ WSL ซึ่งทำงานบน Windows ได้แบบเนียนๆ ตอนนี้ version 2 กำลังทำ support GUI อยู่

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 8 October 2022 - 23:36 #1264585 Reply to:1264580
mr_tawan's picture

แอพพังเป็นล้านแน่นอนครับแบบนี้


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: sMaliHug on 9 October 2022 - 00:37 #1264589 Reply to:1264585

ทำไมต้องเปลี่ยน ก็เหมือน IE ล่ะครับ เพื่อผู้พัฒนาจะได้ไม่เขียน codeแยก

ในที่นี้ก็ driver ต่างๆ วิ่งไป Kernel.org ที่เดียวจบ

แอปตายหมด เหมือนie ตอนนี้เลยครับ มีเว็บที่ใช้ activeX จำนวนมาก ก็ต้องตายไปและเกิดใหม่ ตามสไตล์ Ms. ช่งงแรกก็จะมี compatible mode ไปสักระยะ

แต่ผมก็แค่คิดเฉยๆครับ อาจเป็นจริงหรือไม่ก็ได้

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 9 October 2022 - 15:29 #1264614 Reply to:1264589
Perl's picture

นึกถึงฝั่ง Business ที่เค้าใช้ AD, Exchange กันทั่วโลกด้วยครับ
MS อาจถึงกับธุกิจเจ๊งเลยนะครับ ถ้าไปทิ้งเขาหมด

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 9 October 2022 - 15:39 #1264616 Reply to:1264589
Ford AntiTrust's picture

หากเทียบ ActiveX กับสิ่งที่ต้องเปลี่ยนในระดับ Kernel ของ Windows แล้ว การทิ้ง ActiveX ผลของมันเล็กน้อยมาก

ยังไม่รวมเรื่อง license ที่ Linux kernel เป็น GPL อีกด้วยนะ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 9 October 2022 - 21:22 #1264654 Reply to:1264589
mr_tawan's picture

Linux Kernel เป็น GPLv2

ถ้าอยากเขียนไดร์เวอร์ลงใน Kernel ต้องเตรียมใจด้วยว่าต้องเปิดเผย IP ของตัวเอง ถ้าจะทำแบบ Nvidia ก็จะโดนด่าแบบที่เห็นอยู่บ่อย ๆ

แล้วถ้าไม่ maintain driver ก็มีสิทธิถูกถอดอีกครับ

ลำพังแค่ไอ้พวกชิพจีนที่ทำมือถือกัน ยังแทบไม่มีใครเปิดโค๊ด kernel เลยมั้ง เห็นนักพัฒนาด่าอยู่เนือง ๆ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Neroroms
Windows
on 10 October 2022 - 07:05 #1264662 Reply to:1264589

มันไม่ใช่แค่แอฟอย่างเดียวเนี่ยสิครับ อาจจะมีปัญหาถึงระดับอุปกรณ์​ที่ต้องใช้งานด้วย
แล้วแทนที่จะเปลี่ยน Kernel​ ซึ่งเป็นงานยากที่ต้องมานั่งทำให้เข้ากันได้ ไหนยังต้องแก้ไข Driver อีกมหาศาล สู้สร้าง Microsoft Linux ที่มี UX UI เหมือน Windows ง่ายกว่าครับ ว่าแต่จะเปลือง Resources ไปทำไม สู้เอาคนตรงนั้นมาปรับปรุง​ประสิทธิภาพ​ให้ของที่ใช้งานได้อยู่​แล้วขึ้นไปเรื่อย ๆ ดีกว่าครับ
การทำ compatible mode มันก็ยากอยู่สำหรับ Windows​ ที่มี Software กับ Hardware ที่หลากหลายมาก ๆ ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเปลี่ยนแล้วมันจะดีขึ้นด้วย อาจจะพังแทนก็ได้

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 11 October 2022 - 02:15 #1264770 Reply to:1264589
big50000's picture

จนตอนนี้ อุปกรณ์ ARM หลายตัวยังรันบน Mainline Linux แบบพอใช้งานได้ไม่ได้เลย เพราะผู้ผลิตไม่ยอมเปิดเผยโค้ด Driver ของตัวเอง พวกหัวหมอหน่อยก็พากันเขียนเป็น Kernel Module กันส่วนใหญ่ ขนาดรอมจีน เขียนโค้ดลง Kernel ตรง ๆ ยังไม่มีใครเปิด Source กันเลยสักคน ไม่อย่างนั้น Arch/pmOS/Manjaro ARM ผงาดบนมือถือปลอมตั้งนานแล้ว 555

By: panitw
Windows Phone
on 10 October 2022 - 13:07 #1264708 Reply to:1264585
panitw's picture

ถ้าสลับ เอา Linux เป็น Core แล้ว Emulate X86 แทนล่ะ? (edited: ต้องใช้คำว่า Emulate Windows Core)

By: nont on 9 October 2022 - 09:28 #1264599 Reply to:1264580

เคยถามใน Microsoft ❤️ Linux Teams Channel แล้วครับ เค้าบอกว่าเป็น Hoax แถมจริงๆแล้ว support หลายอย่างสำหรับ Linux ก็ยังตามหลัง Windows ครับ ตัวอย่างหลักเลยคือ Intune

By: rattananen
AndroidWindows
on 9 October 2022 - 10:35 #1264604 Reply to:1264580

program พังกระจายครับ
ปัญหาอย่างนึงคือ Windows ใช้ codepage UTF16 by default ครับ
ส่วน Linux ใช้ UTF8

เช่นคำว่า "บล็อกนัน" ใน Windows กับ Linux ใน binary format มันไม่เหมือนกัน

เท่าที่รู้อีกอย่างก็คือ File system ครับ
ถ้า program ไม่ได้เขียนให้รองรับทั่งคู่แต่แรกนี่ก็มีโอกาสพัง 70%

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 11 October 2022 - 02:18 #1264771 Reply to:1264604
big50000's picture

เอาแค่เรื่อง Case-sensitive ก็ลากโปรแกรมพังได้เกินครึ่งแล้ว

By: xobser
Android
on 9 October 2022 - 02:56 #1264590

ตอนนี้เขียน api service บน windows compile แล้วเอาไปรับน server centos ubuntu สร้าง service ใน systemd โคตรง่าย อันไหน import ไม่ได้หรือไม่มีใน .net แบบเก่าก็หาเอาใน nuget มาทดแทนได้หมด

By: tom789
Windows Phone
on 9 October 2022 - 12:17 #1264607

งานช้างเลย