มีรายงานจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าแอปเปิลกำลังเตรียมการรองรับให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอป ผ่านช่องทาง Store จากรายอื่นนอกจาก App Store ของแอปเปิลเองได้ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EU ภายในปี 2024 โดยมอบหมายวิศวกรส่วนหนึ่งในการปรับแต่ง iOS 17 ให้รองรับการทำงานส่วนนี้แล้ว
ข้อกำหนดของ EU ออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานมีทางเลือก โดยมองว่าแอปเปิลและกูเกิล ที่เป็นสองระบบปฏิบัติการหลัก และควบคุมสโตร์สำหรับดาวน์โหลดแอป มีอำนาจควบคุมตลาดที่สูงมาก มีผลในปี 2024 ทั้งนี้เงื่อนไข EU บอกว่าบริษัทที่กฎหมายผล ต้องมีขนาดกิจการมากกว่า 75,000 ล้านยูโร หรือมีผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU มากกว่า 45 ล้านคน ซึ่งทั้งแอปเปิลและกูเกิลเข้าเงื่อนไขดังกล่าว
คาดว่าแอปเปิลจะเปิดให้ใช้งานสโตร์ภายนอก จำกัดเฉพาะประเทศในยุโรปที่มีกฎหมายกำหนดเท่านั้น อย่างไรก็ตามแอปเปิลเองก็มีความเสี่ยงเพราะหลายประเทศอาจพยายามผลักดันกฎหมายแนวเดียวกันตามด้วย
อย่างไรก็ตามตัวแทนของแอปเปิลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
ที่มา: Bloomberg
Comments
แว๊ปแรกในหัว แอพ 18+
วินาทีต่อมาจิตสำนึกตามมาสั่งสอน😐
ต่อไปเตรียมใจเจอเด้งไปโหลดแอปแปลกๆสแคมๆจากสโตร์ประหลาดๆแล้วสินะ
สโตร์ประหลาดน่าจะยากหน่อย ผมมองว่าตัวสโตร์ยังต้องไปโหลดจาก app store ของแอปเปิลเองอยู่ แปลว่าแอปเปิลต้อง trust สโตร์นั้นแล้ว
"แปลว่าแอปเปิลต้อง trust สโตร์นั้นแล้ว"
มีได้ แต่ Apple ไม่ approve ก็มีไม่ได้งี้เหรอ แล้วมันจะไม่ loop เดิม apple เรียก % จาก store นั้น? กลายเป็นหัก % สองทอด แต่สามารถลงแอพเรท R เรท M หรือพนัน ฯลฯ ได้แบบนี้น่ะเหรอ
ก็คงเป็นงั้น แต่มันก็ไม่ผูกขาดแล้วไง
ไม่งั้นก็จะมีแต่ scam เต็มไปหมด
ส่วนเรื่องรายได้ก็อาจจะจัดการ ให้เข้าเกณฑ์ eu
เป็นหัก คนละ 15-15
ผมว่าจะเป็น apple 30 + store นอก 10- 20
dev หนักเหมือนเดิม แค่ลงแอพอะไรก็ได้ที่ไม่ขึ้นกับกฎของ apple
อาจจะเป็นเหมือน android ก็ได้ ที่ใน EU ซื้อเครื่องใหม่มาเปิดเครื่องจะมีให้เลือกเลยว่าจะใช้ของ google ไหม หรือจะใช้เจ้าอื่น ทั้ง store/web browser
Store อื่นต้องติดตั้งผ่าน App Store (ดังนั้นรายได้จากการขาย App ใน Store อื่น ต้องจ่าย 30% ให้ Apple ด้วย)
ถ้าไม่มี EU นี่โลกของเทคโนโลยีตอนนี้จะเป็นยังไงนะ
ผมจะใช้ font จาก google CDN ใน web ที่ run บน server ที่อยู่ใน EU ได้
web จะไม่รกและโหลดไวกว่าเดิม เพราะไม่มี cookie management
ประหยัดที่บน server จากที่ไม่ต้องเก็บ database ไม่ใช้แล้ว
"ประหยัดที่" นี่ออกจะแปลกพิลึกนะครับ ไม่ใช่ว่าเอาข้อมูลผู้ใช้ที่สูบๆ กันเข้ามาแล้วจะยิ่งหนักกว่าเดิมหรอกหรือครับ?
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
มันเป็นกฏหมายของ EU น่ะครับไม่แน่ใจว่าใช่ GDPR หรือเปล่า
ว่า Customer Order ใน database ของ eCommerce ต้องสามารถ access ได้อย่างน้อยถ้าจำไม่ผิด 10 ปีครับ
ต่อให้เป็นเว็บเล็กขนาดไหนก็ตาม
เรื่องข้อบังคับนี่ก็เป็นดาบสองคมนะ การพัฒนาหลายอย่างจะช้าลง เพราะว่าจะโดนข้อบังคับโน่นนั่นนี่ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ face recognition ของประเทศจีนที่ล้ำหน้าจนใช้งานกันจริงจังแล้ว เพราะไม่ต้องแคร์เรื่องสิทธิส่วนบุคคลในการเก็บข้อมูลเหมือนกับทางฝั่งตะวันออก เป็นต้น