สหภาพยุโรป (EU) โดยคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) กำลังมีแผนที่จะกำหนดมาตรฐานความดังของเสียงในเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาไม่ให้เกินระดับที่ปลอดภัยต่อการได้ยิน
ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เครื่องเล่นเพลงมักจะมีคุณสมบัติในการปรับค่าสูงสุดไม่ให้เกินจำนวนหนึ่ง แต่ทางสหภาพฯ เห็นว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญ หรือไม่ทราบถึงอันตรายของเสียงที่ดังเกินความเหมาะสม ไปจนถึงไม่ทราบว่ามีคุณสมบัติเหล่านี้ในเครื่องเล่นของตน ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 5 - 10 เปอร์เซนต์ หรือกว่า 10 ล้านคนในยุโรปกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากการสูญเสียการได้ยิน
ตามมาตรฐานใหม่ เครื่องเล่นเพลงทุกเครื่องที่ขายในยุโรปจะต้องถูกกำหนดให้เล่นเพลงได้ดังสุดแค่ 80 dBA จากโรงงาน ซึ่งเป็นระดับที่ทางการแพทยเห็นว่าปลอดภัยต่อการได้ยิน จากที่แต่เดิมเครื่องเล่นเพลงส่วนใหญ่จะสามารถปรับระดับความดังได้สูงสุดประมาณ 120 dBA อย่างไรก็ตามผู้ใช้จะยังสามารถปรับเพิ่มเสียงให้เกิน 80 dBA ได้ แต่หลังจากที่มีการเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนเท่านั้น (เช่นมีข้อความเตือนขึ้นบนหน้าจอ)
ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ส่งเรื่องไปยังสภายุโรปแล้ว และคาดว่ามาตรฐานดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ โดยจะมีผลเฉพาะกับเครื่องเล่นที่ผลิตหลังจากประกาศใช้ข้อบังคับนี้แล้วเท่านั้น
ที่มา - AppleInsider
Comments
iPod มี Volume Limit มานานละ แต่ไม่ค่อยมีคนใช้กัน
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ผมใช้ ที่ 70%
ไม่เข้าท่าอ่ะ แล้วคนที่ใช้หูฟัง Ohm สูงๆ ทำให้เครื่องเล่นขับเสียงไม่ออกก็จะให้ไปซื้อ Amp มาเพิ่มเหรอ เวรจริงๆ
อ่านดูให้ทั่วก่อน มันเร่งเอาทีหลังได้ แต่เขาให้ตั้งดีฟอลต์มาด้วยเสมอ!
เค้าหมายถึงต่อให้เครื่องเล่นเปิดเสียงดังเท่ากัน แต่เสียงที่ออกจากหูฟังบางอันเสียงจะเบา บางอันเสียงจะดัง ^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ขอแนะนำให้อ่านข่าวจนจบครบถ้วนก่อนแสดงความคิดเห็นครับ
That is the way things are.
+1
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เคยไหมครับ เวลาขึ้นขนส่งสาธารณะ มีคนฟังเพลงดัง จนเสียงลอดออกมาได้ยินชัดเลย บางทีขนาดนี่งฝั่งตรงข้ามบนรถไฟฟ้านะ ทั้งน่ารำคาญ และสงสัยว่าหูเขาจะเป็นอย่างไร
ก็คงจะมีปัญหาเรื่องการฟังทีหลังน่ะแหละ
ฟังเพลงในที่มีเสียงรบกวนสูงควรระวัง
เพราะจะเผลอฟังเสียงดังเกินไปได้ง่าย
เพราะสมองจะปรับเทียบกับเสียงแวดล้อมแล้วบอกว่าไม่ค่อยดัง
แต่เสียงมันไม่ได้ค่อยลงตามที่สมองรับรู้ถ้าฟังติดต่อกันนานๆทำให้หูพังได้ง่ายๆ
เรื่องจริงเลย ตอนที่ยังใช้ Walkman S700 ที่แถมว่าพร้อมกับหูฟังที่ทำ Noise Cancelling ได้ ผมจะเปิดเพลงเบามาก (จากระดับในเครื่องก็น่าจะราวๆ 10 นิดๆมั้ง) แต่พอเปลี่ยนเป็นหูฟังแบบ Open-ear นี่ปรับขึ้นไปเกือบสองเท่าของที่ฟังปกติเลย เพราะเป็นคนทนฟังเสียงรถ+เด็กแว๊นบนถนนไม่ได้จริงๆ
เสียงรอบข้างมันดังจนต้องเร่งให้มันดังกว่าเสียงข้างนอก บางทีไม่รู้ตัวหรอกครับ ผมเองก็เคยเป็น หลังๆ ได้หูฟังเก็บเสียงดีๆ หน่อยก็ดีขึ้นมาเยอะ
เคยบ่อยเลยครับ และหลายๆ ครั้งก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวเสียด้วยว่าเปิดดัง แต่ก็ดูเขาไม่แคร์สายตาใครสักเท่าไหร่แฮะ - -"
ป.ล.mำให้นึกถึงกระทู้นึงในพันทิพ เหอๆๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
หูฟังประเภท Open (อย่างตัวที่ผมใช้อยู่ Sennheiser PX100) จะมีเสียงดังลอดออกมาค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับเสียงที่ได้ยินจริง ๆ
มันดังกว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คบางตัวด้วยซ้ำน่ะนะ (เสียงดีกว่าด้วย)
แต่ถ้าใส่ In-Ear หรือ Earbud แล้วเสียงดังลอดออกมามาก ๆ นี่ก็ต้องคิดหนักนะครับ อิอิ
ปล. แบบ เค้าแนะนำให้ใส่แบบ Open เดินตามถนน บางยี่ห้อเรียก Streetstyle ด้วยซ้ำ เพราะหูฟังแบบนี้ใส่แล้วจะยังได้ยินเสียงข้างนอกอยู่ เดินบนถนนแล้วไม่โดนรถชนตาย ... (ถ้าใส่ In-Ear แล้วเดินข้ามถนน อาจจะเสียชีวิตแบบไม่รู้ตัวได้ ...)
ปลล. ผมพกหูฟังสองคู่เสมอ เวลาอยู่ข้างนอก ใส่เวลาเดินบนถนนคู่นึง แล้วก็ใส่เวลาอยู่ในห้องเงียบ ๆ อีกคู่นึง :P
ชอบครับ สร้างสรรค์ดีมาก
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เอ่อ ผมเคยเจอคนเอามือถือเปิดเพลง "ออกทางลำโพงเครื่อง" ในรถไฟฟ้าใต้ดิน ได้ยินไปทั้งโบกี้ (ท่อนนึงนี่เรียกโบกี้ป่ะครับ?) ทั้งน่ารำคาญ และสงสัยว่าสมองเขาเป็นอย่างไร (ถึงได้ทำอะไรไม่เกรงใจชาวบ้านแบบนี้)
The Phantom Thief