OpenAI ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม จากปัญหา ChatGPT มีผู้ใช้งานพบการแสดงรายการแชตของคนอื่น ทำให้ OpenAI ปิดบริการชั่วคราว และกลับมาให้บริการต่อ โดยบอกว่าพบบั๊กในซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สตัวหนึ่งที่ใช้งาน
OpenAI บอกว่าผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้น อาจทำให้มีคนเห็นรายการแชตจากผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิก ChatGPT Plus ที่จ่ายเงินรายเดือน ประมาณ 1.2% ของผู้ใช้งานทั้งหมดที่มีการใช้งาน ChatGPT ในช่วงเวลาที่มีปัญหา 9 ชั่วโมงนั้น และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นข้อมูลทั้ง ชื่อ นามสกุล อีเมล ที่อยู่ เลขบัตรเครดิต 4 ตัวสุดท้าย วันหมดอายุบัตรเครดิตด้วย แต่จะไม่เห็นเลขบัตรเครดิตทั้งหมด
คำแนะนำของ OpenAI หากต้องการตรวจสอบว่าข้อมูลใดที่ถูกแสดง สามารถดูได้จากอีเมลยืนยันการสมัครการใช้งาน ซึ่งส่งหาช่วงวันที่ 20 มีนาคม 01:00-10:00น. ตามเวลาแปซิฟิก หรือ 15:00-00:00น. ตามเวลาในไทย ที่อาจส่งหาผิดคนในช่วงเวลานั้น หรือตรวจสอบที่ My account และไปที่ Manage my subscription
สาเหตุของปัญหานี้ OpenAI บอกว่ามาจากบั๊กในไลบรารี่ redis-py ของ Redis ซึ่ง ChatGPT ใช้แคชของ Redis ในการจัดการข้อมูลผู้ใช้งาน ทำให้ไม่ต้องส่งรีเควสไปที่ฐานข้อมูลทุกครั้ง ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Asyncio โดยพบปัญหาหากมีการยกเลิกคำสั่ง แต่เกิดความขัดข้องระหว่างนั้น แทนที่คำสั่งในคิวจะถูก pop ทิ้งออกไปเลย ก็คงค้างอยู่ ทำให้รีเควสถัดมาจากผู้ใช้คนอื่น สามารถรับข้อมูลที่ค้างอยู่นั้นไปได้แทน โดยทีมงานได้แก้ไขบั๊กที่พบ จัดการระบบคิวไม่ให้เกิดการได้ข้อมูลผิดคน รวมทั้งเพิ่ม log ให้หยุดการทำงานเมื่อพบข้อผิดพลาดอีกครั้ง
ที่มา: OpenAI
Comments
อืม... จะ read resource ทำไมต้อง queue
เห็นข้อมูลคนอื่น บั๊กแบบนี้ถือว่ารุนแรงมาก
ผมว่าน่าจะเพิ่ม AM PM ด้วยนะครับ
ถ้าไม่มี 15:00-00:00 ผมคงคิดว่าสิบโมงเช้า
ถ้าไม่มีระบุ AM PM มันต้องหมายถึงเวลาแบบ 24 ชั่วโมงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?
ในข่าวก็หมายถึงสิบโมงเช้านี่ครับ
แก้ยังไงครับแบบนี้ เสียหายเยอะมั้ย
นึกถึง RO สมัยเบต้า
login แล้วได้ตัวคนอื่นมาเล่นแทน
ตกลงมันเป็นบั๊กที่ตัว db หรือที่ db client ครับ?
น่าจะไม่เกี่ยวกับ db มั้งครับ เป็นตัว cache ซึ่งดันไปหยิบ cache ผิด user
client ครับ issue #2624 ในกระทู้พอรู้ว่าเกี่ยวกับ ChatGPT ก็โดนรับประทานกันไปตามระเบียบ
เอาจริงผมว่าหลายๆแอปเป็นนะ อย่าง MI Home ก็เคยไปดึง User ใครไม่รู้ Garmin, Amazfit ผมก็เป็น
ใครใช้ lib นี้กับ auth บน web app ของตัวเองต้องระวังเลยนะครับนี่