นักวิเคราะห์จาก Barclays บอกว่า Google Search ยังเติบโตได้แม้ ChatGPT จะเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากส่วนแบ่งของ Google ครองตลาดต่อเนื่อง และเติบโตมากกว่า 20% นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัว
ขณะที่ Google ออกรายงานล่าสุดว่า ตอนนี้ Search ถูกใช้งานมากกว่า 5 ล้านล้านครั้งต่อปี จากที่เคยมีประมาณ 3.5 ล้านล้านการค้นหาในต้นปี 2023
ส่วนจำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT ต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ในเดือนพฤศจิกายน 2023 มีผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ที่ 100 ล้านคน และในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เพิ่มขึ้นถึง 400 ล้านคน
Rohan Sahai หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ Sora ของ OpenAI เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนนำเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI นี้ ไปใส่ในบริการอื่นของ OpenAI ด้วยที่สามารถทำได้
ปัจจุบันการใช้งาน AI สร้างวิดีโอ Sora ลูกค้า ChatGPT แบบเสียเงิน ต้องเข้าไปที่แอปเฉพาะของ Sora โดยตรงเพื่อสร้างวิดีโอ
Sahai บอกว่าในตอนนี้ OpenAI กำลังทำให้ ChatGPT สามารถเรียกใช้งาน Sora ได้เลยผ่านแชทบอต แต่ยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดตัวได้เมื่อใด ความสามารถที่วางไว้คือสั่งแก้ไข หรือปรับปรุงวิดีโอได้เลยผ่านแชท ส่วนสาเหตุที่ต้องการนำ Sora มาใส่ใน ChatGPT ก็เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รวมไว้ที่เดียวไม่ซับซ้อนสำหรับลูกค้า เหมือนที่สามารถสร้างรูปภาพด้วย DALL-E 3 ได้นั่นเอง
OpenAI เปิดตัว GPT-4.5 โมเดล AI ภาษาขนาดใหญ่ตัวใหม่ ซึ่ง OpenAI บอกว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพัฒนามาทั้งขั้นตอน Pre-Train และ Post-Train ทำให้สามารถตอบคำถามและเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ได้กว้างขึ้น
จุดเด่นของ GPT-4.5 ที่ OpenAI บอกคือการตอบคำถามที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น มีวิธีการตอบคำถามที่มีความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ ดีขึ้นมาก จึงทำงานได้ดีในการช่วยแก้ไขปรับปรุงงานเขียน หรืออธิบายวิธีการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และมีความหลอน (hallucinate) น้อยลง
นอกจากขยาย ChatGPT Deep Research ให้ผู้ใช้งานแบบเสียเงินทุกกลุ่มแล้ว OpenAI ยังประกาศขยายบริการ ChatGPT แบบคุยเสียง Advanced Voice ให้กับลูกค้าแบบฟรี พร้อมเพิ่มความสามารถสำหรับลูกค้าแบบเสียเงิน
โหมดการทำงานคุยเสียง Advanced Voice ใน ChatGPT สำหรับลูกค้าฟรี ใช้โมเดล GPT-4o mini ซึ่งมีต้นทุนที่น้อยกว่า สามารถใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยเป็นรูปแบบพรีวิวที่จำกัดจำนวนใช้งานต่อวัน
OpenAI ประกาศว่าเครื่องมือสำหรับการค้นหา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก Deep Research ที่เดิมจำกัดให้เฉพาะลูกค้า ChatGPT Pro ตอนนี้ได้เปิดให้ลูกค้าแบบเสียเงินทุกกลุ่มสามารถใช้งานได้แล้ว ตามแผนที่ซีอีโอ Sam Altman บอกเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งลูกค้า ChatGPT Plus, Team, Edu และ Enterprise
อย่างไรก็ตามจำนวนคิวรียังคงถูกจำกัด โดยลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ได้ใช้ Deep Research ทั้ง Plus, Team, Edu และ Enterprise สามารถใช้ Deep Research ได้ 10 คิวรีต่อเดือน ส่วนลูกค้า Pro เพิ่มจำนวนจาก 100 เป็น 120 คิวรีต่อเดือน
OpenAI ประกาศว่า Operator ฟังก์ชันผู้ช่วย AI Agent ที่สามารถสั่งให้ทำงานผ่านเว็บตามที่กำหนดอัตโนมัติ ตอนนี้เปิดให้ใช้งานเพิ่มเติมแล้วจากเดิมได้เฉพาะในอเมริกา มีผลในเกือบทุกประเทศที่มี ChatGPT ให้ใช้งาน (ไทยด้วย) โดยต้องเป็นลูกค้าแบบ Pro เท่านั้น
Operator มีความสามารถหลายอย่างที่ทำได้ผ่านเมาส์และคีย์บอร์ด เช่น กรอกแบบฟอร์ม ทำคำสั่งจองร้านอาหาร หรือทำคำสั่งซื้อสินค้า โดยมีสถานะเป็นพรีวิวงานวิจัย จึงอาจมีข้อจำกัดหรือข้อบกพร่องในการทำงานได้ ซึ่ง OpenAI บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
Brad Lightcap ซีโอโอ OpenAI ให้สัมภาษณ์กับ CNBC บอกว่าตอนนี้ ChatGPT มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกสัปดาห์ถึง 400 ล้านบัญชีแล้ว โดยก่อนหน้า OpenAI รายงานเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่ามี 200 ล้านบัญชี
Lightcap บอกว่าแนวโน้มจำนวนผู้ใช้งานยังเติบโตไปเรื่อย ๆ เพราะ ChatGPT กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เข้าถึงคนจำนวนมากขึ้น มีการบอกกันปากต่อปาก
จำนวนผู้ใช้งานแบบบัญชีองค์กร Enterprise ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านบัญชี สะท้อนว่าองค์กรมีความสนใจนำเครื่องมือมาให้พนักงานใช้กันมากขึ้น รวมทั้งทราฟิกจากนักพัฒนาที่เชื่อมต่อเข้ามาก็เพิ่มขึ้นสูง โดยมีจำนวนเพิ่มเด่นจากการเรียกใช้โมเดลคิดเป็นขั้นตอน o3
นอกจากประกาศแผนการออกโมเดล GPT4.5, GPT-5 และยกเลิกการออก o3 แล้ว Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ได้อธิบายแผนเกี่ยวกับบริการค้นหาข้อมูลเชิงลึกสำหรับงานวิจัย Deep Research ของ ChatGPT ด้วย
มีผู้ใช้งานชื่อ seconds_0 บอกว่าสำหรับเขาแล้ว Deep Research เป็นเครื่องมือที่ดีมากระดับพร้อมจ่าย 1,000 ดอลลาร์ต่อเดือนเลย ซึ่งตอนนี้ Deep Research ยังจำกัดการใช้งานไว้ 100 คิวรีต่อวันเฉพาะลูกค้า Pro ซึ่ง Altman โควทโพสต์นี้และบอกว่าเขาเตรียมเปิดให้ลูกค้ากลุ่มอื่นใช้ Deep Research ได้ด้วย โดยลูกค้า Plus ใช้ได้ 10 คิวรีต่อเดือน และผู้ใช้งานฟรี 2 คิวรีต่อเดือน ซึ่งตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ประกาศโร้ดแมปการออกโมเดลปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ของบริษัท โดยมีเป้าหมายลดความซับซ้อน ไม่ต้องการให้ผู้ใช้งานต้องมาเลือกว่าจะใช้โมเดลใดทำงาน ต้องการรวมโมเดล AI เป็นชุดเดียว เพิ่มความสะดวกกับผู้ใช้งาน
OpenAI มีโมเดลหลักที่เปิดให้ใช้งานตอนนี้คือตระกูล GPT ที่เน้นการให้คำตอบทันที รุ่นล่าสุดคือ GPT-4 และตระกูล o ที่เน้นการคิดเป็นขั้นตอน ซึ่งเพิ่งเปิดตัว o3 และ o3-mini โดย o3-mini เปิดให้ใช้งานแล้ว
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า OpenAI เตรียมเผยแพร่หนังโฆษณาในช่วงการแข่งขันกีฬา Super Bowl เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่ามีอัตราค่าโฆษณาที่สูงมาก ตัวเลขที่รายงานตอนนี้คือ 8 ล้านดอลลาร์ต่อ 30 วินาที โดยถึงตอนนี้ OpenAI ยังไม่ได้ยืนยันข้อมูลหรือเผยแพร่หนังโฆษณาให้ได้ชมกันก่อน
การซื้อเวลาฉายโฆษณาของ OpenAI ปีนี้ อาจทำให้เราได้เห็นการแข่งขันโฆษณาจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อีกครั้งบนธีมปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จากค่ายต่าง ๆ เหมือนกับปีที่แล้วที่ทั้ง Google, Microsoft ต่างนำเสนอว่า AI ทำอะไรได้บ้าง
OpenAI เปิดตัวความสามารถใหม่ของ ChatGPT เรียกชื่อว่า Deep Research สำหรับการค้นหา วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูลในเชิงลึก ที่มาพร้อมผลลัพธ์ซึ่งอธิบายเป็นลำดับขั้นตอน และให้แหล่งอ้างอิงประกอบ
OpenAI บอกว่า Deep Research เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเฉพาะด้าน เช่น การเงิน วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม กฎหมาย ซึ่งวิธีการค้นหาข้อมูลเชิงลึกเดิมนั้นใช้เวลามาก เพราะต้องยืนยันความน่าเชื่อถือข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอน นอกจากนี้ Deep Research ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการค้นหาเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าที่มีรายละเอียดเปรียบเทียบเยอะ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
OpenAI ประกาศปล่อยโมเดล o3-mini ตามที่เคยสัญญาไว้
OpenAI เปิดตัวโมเดลตระกูล o3 มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ถือเป็นเวอร์ชันพัฒนาขึ้นจากโมเดล o1 เดิม (ข้าม o2 ไปด้วยเหตุผลเรื่องเครื่องหมายการค้ากับโอเปอเรเตอร์ O2) มีประสิทธิภาพตอบคำถามด้านคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ (STEM) ได้ดีกว่า ตอบเร็วกว่า o1-mini โดยยังคงต้นทุนในการรันระดับเดียวกับ o1-mini
OpenAI เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ChatGPT Gov ซึ่งนำ ChatGPT มาปรับแต่งสำหรับใช้งานกับหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พร้อมรองรับช่องทางในการใช้งานโมเดลใหม่ของ OpenAI ด้วย
หน่วยงานของรัฐบาลสามารถนำ ChatGPT Gov มารันได้ทั้งบนคลาวด์ของ Microsoft Azure หรือคลาวด์ที่ควบคุมเฉพาะ Azure Government ผ่านบริษัท OpenAI ของ Azure ทำให้หน่วยงานสามารถบริหารจัดการความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลได้ตามเงื่อนไขของหน่วยงานนั้น ซึ่งรวมทั้งการจัดการข้อมูลที่ไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะด้วย
OpenAI ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้อินเทอร์เฟซ ChatGPT Canvas ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานเขียนโค้ดหรือปรับปรุงการเขียนบทความ รายละเอียดดังนี้
DeepSeek บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของจีนที่เพิ่งเปิดตัวโมเดลคิดเป็นขั้นตอน R1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลายเป็นหัวข้อสนทนาหลักในวงการ AI ถึงความก้าวหน้าครั้งใหญ่ เพราะโมเดลมีขนาดเล็กที่สุด 1.5B แต่ความสามารถหลายด้านสูงกว่า OpenAI o1-mini ขณะที่ต้นทุนในการฝึกฝนโมเดลนั้นต่ำมาก โดยบริษัทบอกว่าใช้เงิน 5.6 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
กระแสข่าวที่ออกมาทำให้ DeepSeek ตอนนี้ขึ้นอันดับ 1 แอปยอดนิยมของ App Store ในสหรัฐอเมริกา แซงหน้า ChatGPT ไปเรียบร้อย
องค์กรวิจัย Pew Research Center รายงานผลสำรวจว่าวัยรุ่นในอเมริกาอายุ 13-17 ปี ใช้ ChatGPT ช่วยทำการบ้านหรือช่วยงานโรงเรียนมากน้อยแค่ไหน พบว่า 26% บอกว่าใช้ ChatGPT ช่วยทำงานโรงเรียน ผลสำรวจปี 2024 นี้จึงเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ 13%
อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้อาจบอกได้ว่าวัยรุ่นยังนำ ChatGPT มาใช้กับงานโรงเรียนไม่มากนัก เพราะอีก 74% ก็ไม่ได้นำมาใช้ ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในแวดวงการศึกษา
OpenAI เพิ่มความสามารถใหม่ให้ ChatGPT เรียกว่า Tasks ที่ให้ผู้ใช้งานตั้งการแจ้งเตือน หรือสั่งให้ ChatGPT ทำสิ่งต่าง ๆ แบบกำหนดเวลาได้
ความแตกต่างของ Tasks กับผู้ช่วยตั้งค่าแจ้งเตือนที่มีอยู่แล้วอย่าง Google Assistant หรือ Siri คือการรองรับอินพุทภาษาที่มากกว่า โดย ChatGPT สามารถส่งการแจ้งเตือนได้ทั้งแบบครั้งเดียว หรือการแจ้งเตือนซ้ำเป็นประจำ ขึ้นอยู่กับการกำหนดไว้ นอกจากนี้แชทบอตยังสามารถแนะนำด้วยว่าต้องการตั้งค่าแจ้งเตือนในหัวข้อต่าง ๆ ที่กำลังสนทนาหรือไม่
คำสั่งแจ้งเตือนยังเพิ่มความซับซ้อนในงานได้เช่น ให้ทำรายงานสรุปข่าวสภาพอากาศทุกวันตอน 6 โมงเช้า, ส่งแผนออกกำลังกาย 15 นาที แต่ละวัน เป็นต้น การแจ้งเตือนนี้รองรับทั้งบนเว็บและแอปมือถือ
ตำรวจลาสเวกัสแถลงข่าวผลการสอบสวน เหตุการณ์ที่คนร้ายวางระเบิดรถกระบะไฟฟ้า Tesla Cybertruck หน้าโรงแรม Trump Hotel ซึ่งคนร้ายที่เป็นคนขับรถเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน โดยบอกว่าคนร้ายใช้ ChatGPT ช่วยวางแผนก่อเหตุครั้งนี้
Sam Altman โพสต์ข้อความ (หรืออาจเรียกว่าบ่น) ใน X บอกว่าเรื่องที่บ้ามากอย่างหนึ่งคือ OpenAI ให้บริการ Subscription เทียร์บนสุด Pro แบบขาดทุนอยู่ตอนนี้ เพราะว่าคนใช้งานกันมากกว่าที่ประเมินไว้
ปัจจุบันการใช้งาน ChatGPT แบบเสียเงิน มีแพ็คเกจที่ราคาแพงที่สุดคือ ChatGPT Pro ซึ่งคิดราคาเดือนละ 200 ดอลลาร์ แพ็คเกจนี้เพิ่งออกมาให้เลือกใช้งานเมื่อเดือนที่แล้ว สามารถใช้งานโมเดล o1 และ o1-mini แบบไม่จำกัด ส่วน o1 pro mode มีการจำกัดจำนวน
มีรายงานปัญหา ChatGPT และบริการ AI ตัวอื่นของ OpenAI ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อคืนนี้ โดยข้อมูลจาก Downdector ระบุว่าเริ่มมีปัญหาตั้งแต่เวลาประมาณ 1:00น. ส่วนสถานะปัจจุบันพบปัญหาน้อยลง
OpenAI ยืนยันปัญหานี้ตั้งแต่ 2:00น. โดยให้รายละเอียดว่าพบความผิดพลาดเพิ่มสูงขึ้นทั้ง ChatGPT, Sora และ API สถานะล่าสุดเมื่อเวลา 7:00น. Sora และ API กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว ส่วน ChatGPT กำลังทยอยกลับมาใช้งานได้
ChatGPT มีปัญหากระทบการใช้งานเป็นวงกว้างครั้งที่สองในเดือนนี้ โดยก่อนหน้านี้เกิดขึ้นวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ iOS 18.2 ออกอัปเดต และรองรับการเชื่อมต่อ ChatGPT ผ่าน Apple Intelligence
OpenAI ปล่อยอัปเดตสำหรับ ChatGPT บน macOS ให้สามารถอ่านเนื้อหาและโต้ตอบในหน้าจอของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้บนหลายแอปมากขึ้น เช่น Apple Notes, Notion และ Quip นอกจากนี้ ยังรองรับแอปสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์มากมาย เช่น BBEdit, Android Studio และ AppCode
เดิมทีฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ iTerm 2, Terminal, TextEdit, VS Code และ Xcode เท่านั้น ตัวอย่างการใช้งาน เช่น สั่งให้ ChatGPT อ่านโค้ดจาก Xcode และขอคำแนะนำในการปรับโค้ดได้จากหน้าแอปทันที ไม่ต้องคัดลอกและสลับไปวางโค้ดในแอป ChatGPT ที่สำคัญคือสามารถอ่านเนื้อหาจากหลายแอปพร้อมกันได้
OpenAI เปิดสายด่วน ChatGPT ในสหรัฐ สามารถโทรเข้าไป 1-800-CHATGPT (ถ้าเปลี่ยนเป็นเบอร์คือ 1-800-242-8478) เพื่อคุยด้วยเสียงกับ ChatGPT ได้ฟรีนาน 15 นาทีต่อเดือน
ผู้ใช้ที่อยู่นอกสหรัฐ สามารถสื่อสารกับ ChatGPT ได้ทาง WhatsApp โดยส่งข้อความไปยังเลขหมายเดียวกัน ในแง่ฟีเจอร์คงไม่ต่างอะไรจากการคุยกับ ChatGPT ผ่านช่องทางอื่นๆ (แอพ-เว็บ) แต่เป็นการเพิ่มช่องทางให้สื่อสารทางโทรศัพท์แบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถใช้เบอร์บ้าน (landline) โทรเข้าไปได้เช่นกัน
ฟีเจอร์นี้เป็นหนึ่งในงานแถลงข่าวฟีเจอร์ใหม่ต่อเนื่อง 12 วัน ที่ OpenAI ประกาศเอาไว้
OpenAI ประกาศว่า ChatGPT Search บริการค้นหาข้อมูลพลัง AI เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรีแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากบริการ ChatGPT Search เปิดตัวเป็นทางการกับผู้ใช้งานเสียเงินเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปรับมาจาก SearchGPT ที่เปิดตัวในตอนแรก
ChatGPT Search สำหรับผู้ใช้งานฟรีจะรองรับทั้งผ่านเว็บไซต์ chatgpt.com และแอปบนมือถือกับเดสก์ท็อป โดยผู้ใช้งานต้องล็อกอินเท่านั้น
OpenAI ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ที่ผู้ใช้งาน ChatGPT จำนวนมากรอคอยเพราะมีให้ใช้ใน Claude ระยะหนึ่งแล้วนั่นคือ "Projects" คุณสมบัติจัดการแชท และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นชุด ๆ เพื่อให้การเรียกใช้งาน ChatGPT ในแต่ละหัวข้อต่อเนื่องและสะดวกมากขึ้น
เมื่อเริ่มเรียกใช้งาน Projects ChatGPT จะให้กำหนดหัวข้อ รายการแชทที่เกี่ยวข้อง และไฟล์อัปโหลดที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้งานสามารถกำหนดสีโฟลเดอร์เพื่อให้สะดวกในการค้นหาย้อนหลัง และเรียกใช้เป็นพื้นฐานเมื่อต้องการแชทในหัวข้อนั้นต่อ ทำให้ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง
OpenAI เพิ่มความสามารถใหม่ให้ ChatGPT โดยโหมดสนทนาเสียง Advanced Voice Mode รองรับอินพุทวิดีโอแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดกล้อง แล้ว ChatGPT สามารถเรียนรู้ อธิบาย ตอบคำถาม เกี่ยวกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าได้
นอกจากกล้องในสมาร์ทโฟนแล้ว ChatGPT Advanced Voice Mode ยังสามารถรับอินพุทจากการแชร์หน้าจออุปกรณ์ในตอนนั้น เพื่อถามคำถามได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้งานเช่น ให้ช่วยแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ที่ป้อนอินพุทแบบเดิมได้ยาก และสามารถเขียนเพิ่มตามคำแนะนำโต้ตอบไปมาได้ดีกว่า