ศึกมหาสงครามเกมคอนโซลระหว่าง Xbox-PlayStation ลามมาถึงแวดวงการเมืองสหรัฐและการเมืองระหว่างประเทศแล้ว โดย ส.ว. และ ส.ส. ของสหรัฐกลุ่มหนึ่ง ส่งจดหมายถึงทูตการค้าสหรัฐ Katherine Tai ในประเด็นว่า PlayStation ให้กลยุทธ์เกมเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งผลให้ Xbox ซึ่งเป็นบริษัทอเมริกัน ไม่สามารถเจาะตลาดญี่ปุ่นได้
ในจดหมายบอกว่า PlayStation ครองตลาดคอนโซลระดับบนของญี่ปุ่นถึง 98% และท่าการเซ็นสัญญากับเกมดังในญี่ปุ่นเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ (ไม่ได้บอกชื่อเกมแต่ทุกคนคงเข้าใจตรงกัน) ถือเป็นการกีดกัน Xbox ในตลาดญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้พัฒนาเกมในสหรัฐที่เสียโอกาสทำรายได้ในญี่ปุ่นด้วย
กลุ่ม ส.ส. และ ส.ว. ชี้ว่าวิธีการของโซนี่อาจผิดกฎหมายผูกขาดของญี่ปุ่นด้วย ดังนั้นสหรัฐอเมริกาในฐานะคู่ค้าตามสัญญา U.S.-Japan Digital Trade Agreement ที่เซ็นกันเมื่อปี 2019 และมีเนื้อหาเรื่องป้องกันการปฏิบัติไม่เป็นธรรมในสินค้าดิจิทัล (non-discriminatory treatment) จึงควรปกป้องบริษัทอเมริกันในเรื่องนี้
Katherine Tai ในฐานะทูตการค้าของสหรัฐบอกว่าเพิ่งทราบเรื่องนี้ และรับปากว่าจะไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ที่มา - Axios
Comments
Nintendo โดนเหยียดอีกล่ะ lol
ปู่ไถเครื่องตัดหญ้าชิลล์ๆ
เดี๋ยวติงจีนก็ออกมาโย้วๆใน ยูทูป เฟสบุ๊ค เว็บบอดดังของไทย เต็มแน่ๆ
ช่วยมาเจาะตลาดไทยทีเถอะ
+1 ตลาดอื่นที่เจาะได้พวกก็ไม่เจาะไง
ไม่ขยายตลาดมาซักที จะไม่มีแรงเล่นแล้วนะ
สนง ในไทยก็มีมานานแล้ว
แต่ขายแค่ Office ก็พอใจละ
นักการเมืองเมกามาบีบอีก
รอดูสัญญาที่ Sony กำลังจะเปิดในคดีกับ MS อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงแทบไม่มีใครแย่งเกมญี่ปุ่นนอกค่าย Sony มาได้เลย
ถ้ามีอะไรทำนองว่าถ้าไม่ยอม Ex กับ PS จะเสียนั่นนู่นนี่อะไรแบบนี้ Sony ก็โดนเล่นแน่นอน หรือถ้าออกมาเป็นรวมหัวกันเพื่อกีดกันก็ยิ่งหนักเพราะผิดตามสัญญาการค้าและอาจจะผิดกฎหมายผูกขาดด้วยทั้งคู่เลย
แต่ถ้าออกมาว่า Sony ให้ข้อเสนอที่ดีมากจริงๆก็อาจจะรอดอยู่ แต่มันจะดีมากจนถึงขั้น MS สู้ไม่ได้เลยเหรอ?
PS น่าจะกินส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Xbox ครับ
ถ้าหาก MS ยื่นข้อเสนอที่เท่ากันหรือมากกว่าไม่มากจาก Sony ยื่น ค่ายเกมญี่ปุ่น(ที่มักจะเปิดตัวเกมเป็นภาษาญี่ปุ่นและขายในประเทศก่อน)ก็น่าจะเลือก Sony มากกว่า ถึงแม้ข้อเสนอไม่เท่า MS แต่ยอดขายได้มากกว่ายังไงก็ win กว่าครับ
คำว่าสู้ของผมไม่ได้หมายถึงต้อง Ex กับ Xbox เท่านั้นครับ แต่รวมถึงการขอให้เกมมาลง Xbox ด้วยแค่นั้นเอง (ก็คือลงทั้ง Xbox กับ PS นั่นแหละ)
เพราะงั้นสิ่งที่หลักๆค่ายเกมเสียก็คือ ผลตอบแทนที่ได้จากดีลของ Sony โดยตรง ไม่ได้เสียยอดขายอะไร (และอาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อยจากผู้ใช้ Xbox ทั่วโลกด้วย) ซึ่งผมก็แอบสงสัยว่าทำไม MS ถึงไม่สู้หรือสู้ไม่ได้ในเรื่องนี้นั่นแหละครับ
Sony ยื่นเงิน และให้ทำลง PS อย่างเดียวก่อน บริษัทเกมก็จะ focus ไปที่ platform เดียวได้ พอเกมออกมีเวลาอีกปีกว่าๆในการไป focus platform อื่น ซึ่งก็ใช้ resource ของทีมเดิมไปทำต่อได้
MS ยื่นเงิน และให้ทำลง Xbox และ PS ด้วย บริษัทเกมต้อง focus ถึง 2 platform (หรือ 3 ถ้ารวม windows ด้วย) ทีมที่ทำจะต้องใหญ่ขึ้น ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นเพราะต้องจ้างงาน resource เพิ่ม ระยะเวลาในการทำอาจตะต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าทุก platform ไม่มีปัญหา ถ้าเป็นแบบกรณีนี้ตามที่ว่ามานี่ MS นี่ต้องทุ่มหนักมากกว่า Sony เป็นเท่าๆตัวเลยครับบริษัทเกมถึงจะยอม
ซึ่งบริษัทเดียวกันนั้น พอนึกอยากทำลงทุกแพลตฟอร์ม วางขายพร้อมกัน ก็ทำได้เลยโดยไม่มีปัญหาทรัพยากรไม่พอ
555 ใช่ครับ ถ้าไม่มีใครเสนอก็ทำได้เลย แต่ถ้ามีคนเสนอราคา Ex มา ก็ทำแบบ Ex ได้เงินด้วย ลด cost ด้วย
อย่างที่ผมกล่าวครับ ที่ผมต้องการจะสื่อคือขอให้มีเกมมาลงก็พอ ไม่ว่าจะ day 1 หรือไม่ก็ตาม
ถ้าเป็น day 1 ผมเห็นด้วยในประเด็นของคุณครับ แต่แค่ในกรณีของบริษัทเล็กๆที่ต้องเลือกแค่ platform ใด platform หนึ่งเท่านั้นนะครับ
แต่สำหรับบริษัทขนาดกลางที่ถึงจะไม่ใช่ Day 1 แต่ก็มีแพลนจะทำเกมลง PC อยู่แล้ว หรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพมากพอจะออกเกม day 1 ทุก platform ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่อง resource มันฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ครับถ้าจะใช้เป็นเหตุผลว่าทำไม MS ถึงต้องจ่ายแพงกว่า Sony มากๆ เพียงพอให้เกมมาลง Xbox เมื่อไหร่ก็ได้ครับ
อย่างไรก็ดี.. เรื่องมันอาจจะจบแค่ที่ว่า MS ไม่สู้เองก็ได้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่ติดตามรอดูเฉยๆ ไม่ได้ฟันธง Sony กับบริษัทเกมตั้งใจกีดกันอย่างไม่เป็นธรรมตามที่หัวข้อข่าวตั้งแง่นะครับ กันไว้เผื่อเข้าใจผิด
ยุค xbox360 แย่งเกมญี่ปุ่นไปเพียบเลยครับเพราะ ms ให้ทุนค่ายเล็ก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำตลาดหนักเหมือนแต่ก่อนก็สถาพอย่างที่เห็น
ปีแรก ๆ ที่ X-BOX 360 ตีตลาด JP แตกหน่อยนึงแล้ว
ด้วย Exclusives นะ อย่าง blue dragon แต่ ...
ดันสะดุดขาตัวเองล้มตายเพราะ ไฟแดงมรณะสามดวง
ปัญหาของ Sony คือ Game Developer ฝั่ง JP
เจ้าใหญ่ ๆ เกมส์หายไปเกือบหมดแล้วมากกว่า
เลยต้องมาห่วง เกมส์ที่มาจาก US ซึ่ง ไม่ควรลง Sony ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ยกเว้น Nintendo ที่มีมีระบบกับเกมส์ ของมันเองโดยเฉพาะนะ
ยังยืนยันตามเดิมว่า ต่อไป จะเหลือแค่ Steam ของ lord GabeN กับ Nintendo
ได้ยินว่า เมื่อก่อน PlayStation พัฒนาในญี่ปุ่น dev ญี่ปุ่นเลยสามารถเข้าถึงตัวผู้สร้าง HW ได้ง่ายกว่าครับ แต่สมัยนี้ความได้เปรียบนี้หายไปละเพราะ PlayStation เกือบทั้งหมดน่าจะไปอยู่ฝั่งอเมริกาหมดแล้ว
ลืออุตสาหกกรมเกมญี่ปุ่นจะโดนเล่นซะแล้ว แบบหลายๆอุตสาหกรรมในอดีตของญี่ปุ่นที่กำลังจะรุ่งก็โดนสอยร่วง
แล้วหนัง Exclusive เข้าข่ายกีดกันการค้าไหมครับ ผมมองว่าไม่เข้าข่าย
ถ้ามีบริการไหนที่ส่วนแบ่งสูงมากๆ แล้วตั้งเงื่อนไขกีดกัน เช่น ถ้าลงของเราห้ามลงของคนอื่น + ถ้าลงของคนอื่นก็ห้ามลงของเรา อะไรแบบนี้ก็โดนเต็มๆครับ
ปล. แต่กรณีนี้มีเรื่องสัญญาการค้าระหว่างประเทศด้วย เช่น ถ้าบริษัทในประเทศรวมหัวกันเพื่อกีดกันบริษัทต่างชาติ อะไรแบบนี้ก็โดนเช่นกัน
ไม่เกี่ยวกับข่าว แต่ขอถาม ps5 รีเซลตอนนี้ ราคาลงมา 20,000 แต่ประกันจะเดินแล้ว มากน้อยแล้วแต่ล็อตจริงมั้ยครับ
ถ้าจริงก็ไม่ควรซื้อนะ ปล่อยให้เน่าคาร้านไป
ตอนนี้เห็นซื้อตามร้านได้แล้วนะ คนปล่อยมือ 2 ก็หลักหมื่นและ
ผมเจอมือหนึ่งในร้านแล้วแถมผ่อนไม่มีดอกได้ 10เดือน
สงสัยว่าแล้วแบบ Nintendo มีใครเล่นประเด็นนี้ไหม ทำไมดูปกติสุข ทั้งที่เกมของค่ายไม่แชร์ใครเลยเหมือนกัน
เพราะเกม ex ดังๆ ของ nin มันเป็น 1st party ทำเองลงเองเลยไม่มีปัญหา
ผมอยากเห็นคนเล่นกลับว่า ทำไม Logic Pro, Final Cut Pro ถึงไม่มีบน Windows ซะที กีดกันการค้าหรือเปล่า
มันรันบน VAIO ไม่ได้นะ
เอาจริง ๆ ผมว่า US นี่ เค้าทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบอยู่ละ อาศัยความเป็นพี่ใหญ่ มีกรณีศึกษาอยู่เต็มไปหมด (เช่นตอน Plaza Accord)
ไม่รุ้เสียแล้วว่าประเทศด้อยพัฒนาประเทศหนึ่งพร้อมจะเพย์แค่ไหน
The Last Wizard Of Century.