เว็บไซต์ Windows Central ได้ข้อมูลภายในของไมโครซอฟท์เรื่องโครงการ CorePC ที่ต้องการยกเครื่องแกนของ Windows ให้ทันสมัยกว่าเดิม แข่งขันกับระบบปฏิบัติการยุคใหม่อย่าง ChromeOS ได้ดีขึ้น
ไมโครซอฟท์พยายามปรับปรุง Windows มาหลายครั้งแล้ว เช่น Windows Core OS ในปี 2019 และ Windows 10X ที่เลิกทำในปี 2021 ไอเดียของโครงการเหล่านี้เหมือนกันทั้งหมดคือ นำแกนของ OS มาถอดฟีเจอร์เก่าๆ ออกให้เบาขึ้น ติดตั้งอัพเดตง่ายขึ้น ปลอดภัยกว่าเดิม และรองรับเฉพาะแอพใหม่ๆ ยุค UWP เท่านั้น
โครงการ CorePC รอบนี้ยังมีเป้าหมายแบบเดิมคือทำให้ตัวแกน OS เล็กลง และไมโครซอฟท์สามารถคัสตอมเวอร์ชันของ OS แยกตามระดับฟีเจอร์ได้
ไอเดียของ Windows 10X ที่ยังสืบต่อมายุค CorePC
เป้าหมายสำคัญของ CorePC รอบนี้คือ state separation หรือการแยกส่วนของ OS เป็นอีกพาร์ทิชัน ลักษณะเดียวกับ OS สมัยใหม่อย่าง Android/iOS ทำให้การอัพเดตง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องยุ่งกับข้อมูลของผู้ใช้ และปลอดภัยขึ้นเพราะผู้ใช้เข้าไปยุ่งกับพาร์ทิชันของ OS ไม่ได้
ถ้าเทียบ Windows Core OS ใช้แนวทางสร้าง Windows ขึ้นมาใหม่ให้ทันสมัย รองรับเฉพาะแอพยุคใหม่ (ซึ่งล้มเหลว) คราวนี้ CorePC ใช้แนวทางถอดชิ้นส่วนของ Windows เดิมให้เป็นโมดูล ปรับแต่งได้มากขึ้น โดยยังคงรองรับแอพยุคเก่าอยู่
แหล่งข่าวของ Windows Central บอกว่าไมโครซอฟท์ต้องการออก OS ที่เล็ก เร็ว รันได้เฉพาะ Edge, เว็บแอพ, แอพจาก Android และ Office เพื่อมาแข่งกับ ChromeOS ในตลาดพีซีเพื่อการศึกษา ตอนนี้ OS รุ่นทดสอบภายในลดขนาดลงได้ 60-75% จาก Windows 11 SE เวอร์ชันเพื่อการศึกษา
แต่ไมโครซอฟท์ยังจะออก OS เวอร์ชันที่มีฟีเจอร์เทียบเท่า Windows ในปัจจุบัน โดยใช้แกนของ CorePC ที่อัพเดตได้ง่ายกว่า แล้วรองรับแอพเก่าๆ ผ่าน compatibility layer ชื่อว่า Neon ด้วย
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนนักว่า CorePC จะพัฒนาเสร็จเมื่อไร แต่ไมโครซอฟท์มีแผนจะออก Windows เวอร์ชันใหม่โค้ดเนม Hudson Valley (ที่เราเรียกกันว่า Windows 12) ในปีหน้า 2024
ที่มา - Windows Central
Comments
อยากลองใช้เลยแฮะ
อันนี้ดี แบบดีมากๆ ดูน่าจะทำให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานได้ง่ายขึ้นเยอะ
ข้าม Windows 11 แล้วไปใช้ Windows 12 เลยสินะ
'นำแกนของ OS มาถอดฟีเจอร์เก่าๆ ออกให้เบาขึ้น'
เวอร์ชั่นหลังๆนี่bloat wareเพียบ
The Last Wizard Of Century.
ไม่ใช่ว่าพอเป็น Windows 12 ใช้คอนเซปนี้ ฟีเจอร์หายเพียบ แล้วเราก็ต้องรอฟีเจอร์เก่าๆอีกเป็นปีนะ เช่น Drag and Drop
พอเพิ่มกลับมาปับใหญ่เกิน ทำรุ่น 13 core เล็ก ๆ ดีกว่า loop ไปเรื่อย ๆ
มีให้เห็นแล้วจาก 7-->8 10-->11
เวอร์ชันต่อไปจะเหลืออะไร
ก็ทีมงานดันเอาเวล่ไปเปลี่ยนธีม เปลี่ยนไอคอนแอพ ลบบรรทัดโค้ด
แทนที่จะทุ่มทรัพยากรไปใสสิ่งที่ควรทำกลับไม่ อยากให้ Microsoft ทิ้งอีโก้
ตอนนี้ดันเป็นการยำของเก่ากับของใหม่
เช่น
- task manager ที่จับ win 32 มายัดใส่ UI ใหม่ ผลปรากฎคือได้ สวยได้ dark mode แต่หน่วงและค้าง
- Windows Explorer ก็ยำกับ win 32 จนค้างและกระตุก ใช้คอมทำงานพอซีพียู 100% Explorer.exe ไปก่อนเลย หรือบางที ต้องไปปิดและเปิดใหม่ใน task manager
เรื่อง Win32 -> WinUI3 บอกเลยครับ ทำใจ มันไปทางนั้นหมดแน่นอน
แต่เรื่องค้างผมไม่เคยเจอนะ อาจจะเพราะเครื่องแรงประมาณนึงมั้ง ?
เมือ่ก่อน
มันไปหนัก ไดร์เวอรืหรือป่าว
ดีๆ
..: เรื่อยไป
หวังว่าทำมาแล้วคงไม่แพ้ windows 11 tiny ที่ใครไม่รู้นั่งทำให้ดูว่ามันตัดอะไรออกได้บ้างนะ
Windows 12 จะมาแล้วเหรอ เพิ่งใช้ Windows 11 มาได้ไม่กี่ปีเองนี่
1.ไล่เบา? เอาพรีโหลดออกก่อนเลยครับ
2.UWP คอมไพล์ทีช้ามากกกกกกกก ช้ากว่า Java อีก แถมไม่อิสระเท่า .NET Forms/WPF
คอมไพล์เป็น native ก็ช้านิดแหละครับ ต้องทำใจ
ความพยายามรอบใหม่
มาแต่คอร์ไม่มีฟีเจอร์หรือฟีเจอร์หายเยอะๆก็ไม่ไหวนะ
legacy อะไรที่มันเกิน 10 ปีก็เอาไปบ้าง ชีวิตมันต้องเดินหน้า
จริงงงง
แต่มีตัวนึงอย่าไปคอมเมนต์ถึงนะ ActiveX อ่ะ จะมีคนมาดราม่าเลย 555
WE ARE THE 99%
ไม่ได้ยินนานแล้วนะตัวนี้เนี่ย
ผมได้ยินทุกวันเลยครับ...
หวังว่าจะไม่ทำแบบค่ายเกมนะ
ไม่เอา DLC นะ
modder ไม่ถูกใจสิ่งนี้
"ปลอดภัยจนทำอะไรไม่ได้"