AMD เปิดตัวชิป APU Ryzen Z1 สำหรับเครื่องเล่นเกมพกพา โดยจะเริ่มใช้กับ ASUS ROG Ally ที่เปิดตัวเครื่องมาแล้ว และจะวางขายในอีกไม่ช้านี้
Ryzen Z1 แยกออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ Ryzen Z1 ตัวธรรมดา และ Ryzen Z1 Extreme โดยทั้งสองรุ่นใช้ซีพียูแกน Zen 4 และจีพียูสถาปัตยกรรม RDNA 3
ฝั่งของ ASUS ระบุว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของ ASUS ROG Ally ทั้งสเปก ราคา และวันวางขาย ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้
การเปิดตัว AMD Ryzen Z1 น่าจะทำให้เราได้เห็นเครื่องเล่นเกมพกพายี่ห้ออื่นๆ นอกเหนือจาก ASUS ตามมาอีกมาก ก่อนหน้านี้เราก็เห็นเครื่องเล่นเกมพกพาหลายรุ่นที่ใช้ Ryzen รหัส U วางขายกันมาพอสมควรแล้ว (เช่น AYA NEO หรือ Ayn Loki) รวมถึง Steam Deck ที่เป็น APU รุ่นคัสตอม (Zen 2/RDNA 2) โค้ดเนม Aerith
ทางเลือกอื่นในท้องตลาดคือ เครื่องเกมพกพาที่ใช้ซีพียูตระกูล Arm เช่น Logitech G Cloud และ Razer Edge ที่ใช้ Snapdragon ทั้งคู่ แต่อุปกรณ์เหล่านี้มักรัน Android มีข้อจำกัดเรื่องการเล่นเกมยอดนิยมของพีซี ซึ่งต้องใช้วิธีเล่นแบบสตรีมผ่านคลาวด์แทน
ที่มา - AMD
Comments
/me มอง Nintendo
นินไม่กลัวหรอก rog ally มีมาริโอ้ ไหมล่ะ
ผมไม่ได้มองแง่นั้นครับ
มองว่า Switch ตัวใหม่จะใช้ชิปนี่หรือเปล่า
คะ… เครื่องเล่นเกนชินแบบพกพา…
นินเทนโดอุบเงียบรอเกทับทีหลัง?
ถ้าทำเครื่องเล่นเกมพกพาที่ใช้ ARM ใส่ x86-64 Chip มาช่วยประมวลเกม x86-64 ให้เล่นบนเครื่องพกพาได้ น่าจะลดปัญหาการ Port เกมมาลง ARM ในช่วงแรกๆ ได้อยู่นะ
แบบเดียวกับ Apple ยุค 90 ที่ใส่การ์ด x86 ให้ใช้งานโปรแกรม x86 บน Mac ได้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ราคา ราคา ราคา
ผมว่ามันก็ยังติดที่ System Call ต่ออยู่ดีน่ะครับ?
ยังไม่ต้องไปทางเทคนิค เอาแค่ราคามันจะบาาาาาานนนน่ะสิท่าน
สมัยโน้นทำได้เพราะเทียบสัดส่วนราคาของชิปกับเครื่องแล้วราคาชิปนี้จิ๊บจ้อยไปเลย จริง ๆ เทคนิคที่ Apple ใช้กับ M1 แล้วเร็วผิดผีเป็นเพราะ Apple ใส่สูตรโกงในชิปตัวเองเลย (คำสั่งไหนที่ dynarec แล้วไม่เวิร์กใน ARM จะใช้วงจรคำสั่งพิเศษช่วย) ของ MS จริง ๆ ก็เร็วพอแล้ว แต่ยังช้าและ compat แย่เพราะไม่มีสูตร ประกอบกับ legacy software ของทางนั้นมันไม่ได้มีแค่ WinAPI นี่สิ แต่กระนั้น Surface Pro X และ Pro 9 SQ2 ก็พอเล่นเกม x86 และ x86_64 บางเกมได้
แต่ถ้าเอาทาลงเทคนิคแล้ว tech stack ของซอฟต์แวร์ยุคนี้มันซับซ้อนเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้แบบ practical อย่าง Apple IIe card เองต้องการทั้งระบบแยกต่างหาก (แทบทุกอย่างทำงานบนการ์ด ยกเว้นฮาร์ดแวร์ที่ต้องย้อนกลับมาเครื่อง host) หรือถ้าหมายถึงเอาชิปไปทำงานคู่ขนานกัน ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงอยู่แล้วในสถาปัตยกรรม Unified Memory Architecture ระหว่าง CPU และ GPU หรือเอาเก๋า ๆ ก็ Starlet ในเครื่อง Wii แต่ตัวนั้นเอาไว้จัดการ DRM ซึ่งก็ต้องรื้อสถาปัตยกรรมหน่วยความจำให้แชร์กันได้ และต้องมั่นใจด้วยว่าทั้งสองหน่วยประมวลผลจะสามารถใช้งานหน่วยความจำหลักได้โดยที่ไม่งงว่าตัวเองต้องไปทางไหน (OS หลักต้องรู้ว่าจะจัดสรร process โดยใช้ CPU ตัวไหน) และแน่นอนว่าเปลืองพลังมาก ทั้ง bandwidth ที่จะต้องแชร์ให้อีกกับ CPU และ GPU อีก (อาจจะปิด ARM core ก่อนก็ได้แล้วเปิดใหม่หลังเล่นเสร็จ) หรือแบตที่จะเดี้ยงก่อนเอา
เห็นกราฟแล้วใช้ได้เลยนะ
ึเกม triple a ปัจจุบัน เล่น 720p low อัปสเกลเป็น 1080 ได้ 60fps ลื่น ๆ หลายเกมเลย
หรือ 1080p native low ก็ยังได้ 30-40fps
น่าสนมาก ผมมี mac อยู่แล้ว อยากได้มาเล่นเกมสักเครื่อง
ไม่อยากประกอบ pc ใหม่ ค่าไฟแพงด้วย rog ally น่าสนสุด ๆ สำหรับผม
Steam Deck น่าจะได้เปรียบ(หรือเปล่า?)ตรงใช้ SteamOS (Linux) เลยไม่ต้องจ่ายค่าไลเซนต์ค่า Windows 11 ใครอยากใช้ก็เปิด tool ลงกันเอง
ถ้า steam deck 2 ออกก็ใช้ชิพตัวนี้ละครับ
หมายถึง steam รุ่นใหม่ใช้ cpu ตัวเดียวกันแต่เพราะใช้ os ส่วนตัวเอง เครื่องที่ออกมาเลยจะกดต้นทุนถูกได้ถูกกว่าครับ
ดีไม่ดีกลายเป็นว่า ผู้พัฒนาหันไปใช้ SteamOS แทนแล้วช่วยผลักดันให้เป็น OS สำหรับเครื่องเล่นเกมแทน แต่ก็นะมันติดที่ว่า Dx มันอยู่บนวินโดวน์ แต่ถ้ามันไปทาง SteamOS ผู้พัฒนาเกมใหม่ ก็คงพอร์ตลง SteamOS ด้วยละมั้ง และสุดท้าย windows อาจจะทำ Windows XB OS มาแข่งก็ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้หมด อยู่ที่แรงผลักทั้งนั้น ถถถ
The Dream hacker..
SteamOS มันก็รันเกม directx ผ่าน proton นะครับ
ไม่ต้อง port แต่ต้องทดสอบและแก้ (บางอย่างเป็นที่เกม บางอย่างเป็นที่ proton)
ไม่จ่ายค่า Windows ยังไงก็ต้องจ่ายค่าพัฒนา SteamOS อยู่ดีครับ (ไหนจะบริการซัพพอร์ทหลังการขายอีก) เพราะงั้นในแง่ต้นทุน OS ก็ไม่ได้ได้เปรียบมากกว่าเท่าไหร่ เผลอๆอาจจะจ่ายเยอะกว่าด้วยในระยะสั้น
แต่ที่ได้เปรียบจริงๆคือ Steam เป็นเจ้าของร้านค้าด้วย ทำให้สามารถลดกำไรเครื่องแล้วไปเน้นที่กำไรร้านค้าแทนได้ ในขณะที่เจ้าอื่นๆทำได้แค่กำไรจากเครื่องอย่างเดียวครับ
ผมมองว่าสตีมเด็คเป็นการลงทุนขยายตลาดในธุรกิจเดิมของตัวเองด้วยซ้ำครับเพราะมาจิ้นรวมๆแล้วน่าจะบางมากๆ กว่าจะคืนทุนก็น่าจะนานเลยถ้าคิดแค่รายได้จำหน่าย hw
เรื่องความไม่ได้เปรียบเสียเปรียบผมเห็นด้วย แต่เรื่องจ่ายค่าพัฒนานั้น จริง ๆ ฝั่ง Windows ก็เสียไม่ต่างกัน เพราะ Windows ไม่ได้พัฒนาให้รองรับอุปกรณ์ Handheld มาตั้งแต่ต้น (มี Hackathon แล้วแต่ยังไม่ผ่านตอนนี้) เรื่องของซอฟต์แวร์ front-end และ hardware controller เองก็ยังต้องพัฒนาให้เข้ากันกับ OS ดังนั้น Windows จึงยังเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่จริง ๆ ปัญหาคือเสียมากเสียน้อยต่างกันเท่าไร แล้วคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับหรือไม่
Windows ยังมีข้อได้เปรียบอยู่มากเรื่องซอฟต์แวร์ที่รองรับมากกว่าเพราะเกมส่วนใหญ่ก็พัฒนามาบน Windows ทั้งนั้น (ROG Ally ชูจุดขายตรงนี้เลย แบบพยายามมาก) แต่ Steam OS ได้เปรียบตรง Ecosystem ของการเล่นเกม Handheld ที่ดีกว่า และ Tweak Tool ที่จัดเต็มกว่ามาก ๆ ทำให้ประสบการณ์ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ROG Ally เองไม่มีทัชแพด ซึ่งสำหรับบางคนถือเป็น Deal-breaker เลย และราคาเริ่มต้นที่ยังไม่แน่ชัด แต่ผมพนันไว้ว่าแพงกว่ามากแน่ ๆ
ได้เปรียบตรงราคา เพราะ Valve ขายราคาเข้าเนื้อตัวเอง และฟีเจอร์ที่ยังเหนือกว่าเครื่องเล่น Handheld ฝั่ง Windows เพราะตัวระบบให้การควบคุมที่มากกว่า Windows มาก และลงพวก Emu แล้วเวิร์กกว่า Windows (ยกเว้น Xenia เพราะรองรับเฉพาะ Windows)
เรื่องไลเซนส์แทบไม่มีผล เพราะ OEM ของ Windows เองถูกลงมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์จอขนาดเล็ก
เรื่องของ License น่าจะเรื่องเล็กนะเพราะดีลกับ MS น่าจะตกลงกันไม่ยาก แต่ต้นทุนการผลิตส่วนนี้ Deck น่าจะได้เปรียบกว่า
แต่ในแง่ของการขายและ end user ยังไงก็ขายได้เพราะมันลงวินโดวส์ตั้งแต่แรกมันก็การันตีแล้วว่ามันเล่นเกมได้ 100% ไม่ต้องมาลุ้น anticheat,drm ให้เมื่อย
MS มีไลเซนส์ที่เปิดให้เครื่องจอเล็ก (กว่าเท่าไหร่ ผมจำไม่ได้ละ) ใช้งานวินโดวส์ฟรีด้วยครับ
เผลอๆ MS แถมเงินค่าบันเดิล Game Pass ให้ด้วยแทนครับ
ตอนโน้น PSP ก็ภาพสวยกว่า แต่ภาพไม่ใช่ทุกอย่าง
เครื่องเกม มันวัดกันที่เกมครับ คุณจะบอกว่า Game library ของฝั่ง X86 มันแย่กว่าคู่แข่งอื่นอย่างนั้นรึ ผมว่าไม่น่านะ
ปัญหาเดียวเลยของ x86 - ไม่มี Nintendo
PS vita 2 ต้องมาแล้ว Port เกมส์จาก PS4 PS5 ลงมาตรงๆๆเลย
ผมว่า Sony อาจจะทำอยู่ก็เป็นได้