รายงานเรื่อง iPhone 15 จะใช้พอร์ต USB-C ในการชาร์จมีมาระยะหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่ EU ออกข้อกำหนดให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งสมาร์ทโฟนใช้ USB-C มีผลปลายปีนี้
มีรายงานเพิ่มเติมว่าข้อกำหนดของการใช้ USB-C นั้น ระบุไว้ด้วยว่าอุปกรณ์จะต้องรองรับการชาร์จด้วยอุปกรณ์ USB-C แบบทั่วไปในตลาด และหากไม่รองรับ สินค้านั้นก็ไม่สามารถขายในกลุ่มประเทศ EU ได้
แม้ประกาศนี้อาจไม่มีอะไรพิเศษ แต่ก็มีรายงานก่อนหน้าว่าแม้แอปเปิลจะเปลี่ยน iPhone 15 มาใช้ USB-C แต่แอปเปิลก็อาจเพิ่มข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ระบบตรวจสอบว่าสายชาร์จนั้นเป็นของแอปเปิลหรือเป็นสายที่รองรับ MFi หรือไม่ ซึ่งตามข้อมูลนี้ก็จะไม่สามารถทำได้ ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า iPhone 15 เวอร์ชัน USB-C อาจขายเฉพาะใน EU เท่านั้น ส่วนภูมิภาคอื่นยังเป็น Lightning เหมือนเดิมด้วย
ที่มา: Phone Arena
Comments
ก็ดีนะ ซื้อสายเดียวใช้ได้ทุกอุปกรณ์
ก็ดี แต่ผมคิดว่ายังไม่น่าขัดความเป็น Apple ได้เท่าไหร่
เดี๋ยวก็มาแนวว่า สายทั่วไป ชาจได้ 5v-2a (แต่คงไม่น่าเกลียดขนาด 5v-1a ละมั้ง)
ถ้าอยากชาจเร็วกว่านี้ต้องใช้ ที่ชาจ และสายชาจที่เป็นของ apple ที่มีชิปเฉพาะ โดยอ้างความปลอดภัย บราๆๆ
หรือไม่ก็อาจจะแนวๆ ว่าชาจได้! แต่ใช้ sync ข้อมูลไม่ได้ ต้องใช้สายที่เป็นของ apple ที่มีชิปเฉพาะ
ข่าวจากแหล่งอื่นมีกล่าวไว้แบบนี้ครับ
European Commissioner Thierry Breton has sent Apple a letter warning the company that limiting the functionality of USB-C cables would not be permitted and would prevent iPhones from being sold in the EU when the law goes into effect, according to German newspaper Die Zeit. The letter was obtained by German press agency DPA, and the report says the EU also warned Apple during a meeting in mid-March.
https://www.macrumors.com/2023/05/04/eu-warns-apple-about-limiting-usb-c-iphone-cables/
ก็อาจจะชาร์จได้แค่ 5V/2A เพื่อ "ความปลอดภัย"
แต่สำหรับผู้ผลิตที่ผ่านการตรวจสอบความเข้ากันได้ มีชิป MFi แล้วก็จะได้ 15-20-30W แล้วแต่ tier
ไปดูข่าวภาคภาษาอังกฤษ มีกล่าวไว้แบบนี้ครับ
European Commissioner Thierry Breton has sent Apple a letter warning the company that limiting the functionality of USB-C cables would not be permitted and would prevent iPhones from being sold in the EU when the law goes into effect, according to German newspaper Die Zeit. The letter was obtained by German press agency DPA, and the report says the EU also warned Apple during a meeting in mid-March.
https://www.macrumors.com/2023/05/04/eu-warns-apple-about-limiting-usb-c-iphone-cables/
ทุกวันนี้บางสายไม่ MFI ก็ใช้กันเกลื่อน ไม่น่าจะล็อคออะไรเปล่า แค่ให้ผู้ใช้เลือกเอาเองจะแบบ MFI หรือไม่ MFI ตามงบ สาย C to C อีกก็ใช้กันไปทั่ว
แล้วในวันข้างหน้า หากมีพอร์ทที่ดีกว่า USB-C ขึ้นมา จะทำยังไงให้พอร์ทใหม่ลงตลาด EU ได้ ในเมือบังคับให้ต้องมี C ติดมาด้วย หรือจะให้ใส่สองพอร์ท?
มีใหม่ ก็ตั้งกฏใหม่นะครับ เพื่อให้มันใช้ร่วมกันได้ ไม่ต้องมาแบบของใครของมันอีก
ตอนแรก ๆ ผมก็เห็นคล้อยตามนะเรื่อง EU กำหนดแบบนี้เดี๋ยวสายอื่นดี ๆ จะไม่ได้เกิด แต่ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะมีพอร์ตอะไรที่ดีกว่า Type C ถ้าเป็นไร้พอร์ทก็ว่าไปอย่างคือดีกว่าในที่นี้คือ ดีจนไม่จำเป็นต้องใช้ Type C นะครับ ทุกวันนี้ Type C มันดีแล้วนะครับในเรื่องการใช้งาน ทั้งสลับด้านเสียบได้ ส่งข้อมูลก็เร็ว ชาร์จจะเอาเร็วแค่ไหนก็ไปได้ ระดับ 240W
คือผมว่ากว่าจะคิดค้นอร์ทที่ดีกว่า Type C ได้นี่คงไปไร้พอร์ทแล้วแหละครับ อีกอย่าง ตัว Type C เองมันสามารถพัฒนาได้ ถ้ามันยัง Backward compatible ยังไง EU ก็คงให้ใช้ Type C รุ่นใหม่ได้แน่ ๆ (ถ้ามันจำเป็นต้องพัฒนา)
เอาจริงงานนี้แอปเปิ้ลทำตัวเองนะที่กั๊ก Lightning ทำให้มันดูด้อยกว่า Type C แบบไม่มีข้อโต้แย้งเลย ชาจช้า ส่งข้อมูลก็ช้า มีเรื่องเดียวที่สาวกเอามาโต้ก็คงเป็นความคงทนของพอร์ตเสียบ่อย ๆ ไม่หลวม (แต่สายของแอปเปิ้ลเองก็แบ่บอ่อนแอจริง ๆ )แต่เอาจริง ๆ มันคือการออกแบบและวัสดุที่แอปเปิ้ลเลือกใช้มากกว่าที่จะเป็นที่พอร์ตเอง พอร์ต Type C บางเจ้าเค้าก็ดีอยู่ เสียบแน่นไม่หลวมและทน ถ้าแอปเปิ้ลทำ Lightning ให้มันดี ๆ เอาจริง ๆ ข้อกำหนดของ EU คงไม่เกิดขึ้นมาหรอก
Lightning จริงทำให้เร็วได้อยู่นะครับ พี่แกเคยใส่ในบางรุ่นของ iPad Pro ก่อนมาใช้ USB-C
ผมถึงบอกว่าแอปเปิ้ลเค้ากั๊กไงครับ จะทำอ่ะทำได้แต่ไม่ทำ จะมาบอกว่าไม่จำเป็นมันก็ใช่ แค่คือคนอยากได้ไง @_@
สมัยก่อนยังไม่มี type C นี่ Lightning ก็ดีที่สุด(สำหรับ apple) ครับ ขนาดเล็ก สลับด้านเสียบได้
ดังนั้นจะบอกว่านึกภาพไม่ออกว่าจะมีอะไรดีกว่า type C ก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับ อนาคตอาจจะมีก็ได้ อย่างกรณี type C ใช้ไปนานๆก็หลวม ดังนั้นอนาคตก็น่าจะมีอะไีที่ดีกว่าได้อยู่ครับ
ถ้าพอร์ทที่ดีกว่าอยู่ในมือบริษัทยักษ์ใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะแก้กฎ แต่ถ้าเป็นบริษัทเล็กที่ไม่มีแรงผลักดันทางกฏหมาย ก็คงต้องขายสิทธิบัตรให้บริษัทใหญ่ไปต่อยอด หรือถ้าบริษัทขนาดเล็กมากอาจโดนซื้อไปทั้งบริษัทเลยก็ได้
ออกขายที่อื่นไปก่อน ใน eu ก็ใช้ของเก่าไปจนกว่าจะเปลี่ยนกฎ
“iPhone 15 เวอร์ชัน USB-C อาจขายเฉพาะใน EU เท่านั้น ส่วนภูมิภาคอื่นยังเป็น Lightning เหมือนเดิมด้วย”
สมกับเป็น Apple บริษัทรักษ์โลก อันดับหนึ่งตลอดกาล ขยะอิเล็คทรอนิกส์เราไม่ชอบ เราชอบเงินในกระเป๋าคุณ
ถ้าจริงนี่เยี่ยมมากครับ ผมยกนิ้วกลางให้เลย สุดยอดจริงๆ
หลังๆเน้นยอดขายมากกว่านวัฒกรรมละ
บริษัท ต้องเน้นผลกำไรมากกว่าคำสรรเสริญครับ
555
ลอยลำแล้ว จะทำอะไรยังไงออกมาก็ได้ สาวกติ่งสุดลิ่มทิ่มประตูพร้อมซื้อทุกรุ่น
จริงๆที่อ่านต้นทางก็ไม่ได้มีแนวโน้มอะไรขนาดนั้นนะครับ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ 55+)
เท่าที่เข้าใจคือ EU สั่งมาว่าให้ iOS รองรับ sideload app ด้วย แล้วก็มีข่าวลือมาว่าน่าจะมีแค่เครื่อง EU ที่รองรับฟีเจอร์นี้ ผู้เขียนข่าวก็เลยคาดเดาว่า USB-C เองก็อาจจะมีแค่เครื่อง EU เหมือนกันเท่านั้นเอง แต่ส่วนตัวผมมองว่าต้นทุนของ Software กับ Hardware variants มันต่างกัน แถม Apple ก็ขึ้นชื่อเรื่องลดต้นทุน Logistic เก่งด้วย ก็เลยคิดว่าไม่น่าจะแยกเวอร์ชั่นขายคู่กันครับ
แต่ถึงจะไม่แยกขายคู่กัน ผมคิดว่ายังไง Apple ก็น่าจะออกรุ่นเล็กราคาถูกที่ใช้ Lightning (รวมถึงบอดี้และชิ้นส่วนเก่าอื่นๆ) และขายแค่นอก EU อย่างเดียว เพื่อเคลียร์สต๊อคให้หมดแล้วค่อยปรับให้ทุกอย่างเป็น USB-C อยู่ดีครับ
Hardware ต่างก็มีให้เห็นแล้วยด้วยสิครับ
ที่ USA ไม่มีช่องใส่ซิม
นอก USA ยกเว้นจีน ใส่ 1 sim กับใช้ esim
ที่จีน ใส่ 2 sim
ของจีนผมไม่แน่ใจ แต่ของ US ด้านในก็ยังมีแผ่นซิมหลอกๆแทนที่ช่องใส่ซิมอยู่ครับ เพราะงั้นไลน์การผลิตบางไลน์ก็ยังใช้ไลน์เดียวกันได้อยู่ ส่วนแผงวงจรซิมผมคิดว่าถ้าแค่เอาออกไปเฉยๆไม่น่าจะเพิ่มต้นทุนมากขนาดนั้นครับ
แต่ถ้าเป็นพอร์ทชาร์จ ผมคิดว่าต้นทุนการผลิตมันน่าจะมากกว่านั้นครับ (แต่ผมก็แค่เดาๆเอาจากคนที่ไม่มีความรู้เรื่องสายการผลิตนะครับ ถ้าผิดก็ขออภัยด้วย)
อีกเรื่องคือ ความจำเป็นในการใช้ซิมมันยังมีอยู่ในอีกหลายๆประเทศ การตั้งไลน์ผลิตแบบคู่ขนานมันยังพอสมเหตุสมผลอยู่ ในขณะที่ Lightning นั้น นอกจาก Apple ก็แทบไม่มีแล้ว และมีแต่จะน้อยลงไปเรื่อยๆด้วย เพราะงั้นผมก็เลยคิดว่า Apple น่าจะเลือกแนวทางที่ลดการผลิต Lightning ลงมากกว่าครับ
รักษ์โลกสุดๆ 5555
Fast Charge 15w 18w 25w
ไม่น่าใช่ปัญหานะ apple ก็เปลี่ยนเป็น type c ตั้งแต่ ipad และ ที่สายทั่วๆไปก็ใช้ด้วยกันได้
ผมคนเดียวหรือป่าวที่คิดว่าสายเดียวชาร์จหลายเครื่องจะทำให้สายเสื่อมเร็ว
หรือว่าผมรู้สึกไปเอง ผมชาร์จหลายเครื่องรวมถึงหูฟัง
สายมันช่ำรุดเร็วมาก ผมเลยแยกของใครของมัน
ปกติ สายถูกใช้งาน ดึงเข้าดึงออกบ่อย ๆ เสื่อมเร็วอยู่แล้ว
ของผมซื้อแบบหัวแม่เหล็กมาใช้ ใช้แบบถอดแตะสาย ไม่ต้องดึงและดันเข้าแบบแรง ๆ สะดวกมาก ทำแบบสายเดียว หลายหัวชาร์จ ประหยัดมาก ใช้ของ Ugreen อยู่ เปล่าโฆษณา ของเขาดีจริง มีทั้งแบบ Micro USB และ USB-C ใช้สายข้ามหัวกันได้ ใช้คุ้มจนต้องร้องขอชีวิต ใช้คุ้มจนต้องบอกคนขายว่าขายแพงกว่านี้เถอะ
สำหรับผมสุดท้ายก็ใช้หลายเส้นครับ เพราะจะชาร์ทพร้อมๆ กันหลายอุปกรณ์ มีเส้นเดียวไม่พอ ซื้อสายมาหลายแบบ เปลี่ยนหัวได้ไรแบบนี้ ก็สุดท้ายพกสายอย่างน้อยก็สองเส้นละครับ คอมเครื่อง มือถือเครื่อง สายวินโดส์คอมผมกินไฟ ยิ่งแชร์เน็ทจากไอโฟนอีกหลุดบ่อย เสียบสายดึงไฟไปด้วย
ของผมชาร์จเยอะมากอยู่มาหลายปีแล้วด้วยนะครับ แฟนก็แย่งใช้เรื่อยๆ 🤔
เสื่อมนี่คงต้องถามว่าหมายถึงชำรุดแบบไหนถึงจะตอบได้
ผมซื้อหัวชาร์จแม่เหล็กจบสวยครับ ใช้มาสองปีกว่าพอร์ตไม่ช้ำแน่นอน
ก็เห็นด้วยนะถ้าจะบอกว่าต้องใช้ USB-C ที่รองรับ MFi เพื่อความปลอดภัยในการชาร์จเร็วมันไม่สมเหตุผลเลย เพราะมีมาตรฐาน USB-PD ซึ่งแอปเปิลเองก็รองรับอยู่แล้ว.
MFi เป็นตราที่เอาไว้ติดบนอุปกรณ์ที่ได้รับการทดสอบแล้วว่าใช้งานได้กับอุปกรณ์แอปเปิ้ล
ส่วน USB-PD เป็นโปรโตคอลในการจ่ายไฟผ่านสาย USB คือตัวอุปกรณ์นี้แค่ implement โปรโตคอลนี้ก็ติดได้ละ ไม่ได้บอกว่าใช้แล้วจะเจอปัญหาอะไรหรือเปล่า
คิดว่าสองส่วนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันซะทีเดียวครับ
แล้วก็คุ้น ๆ ว่ามีการตราการทดสอบที่ชาร์จแบตของ USB-IF โดยเฉพาะเหมือนกันครับ
ความหมายของผมคือถ้าข่าวที่ลือกันว่าแอปเปิลจะปิดฟีเจอร์ชาร์จเร็วกับสายที่ไม่ได้รับ MFi โดยอ้างเพื่อความปลอดภัยเป็นจริง มันเป็นเหตุผลที่ฟังดูไม่สมเหตุเลยเพราะ Mac กับ iPad แค่ตรงตามสเปก PD ก็พอแล้ว.
ผมไม่รู้ว่าจะโดนมองว่าเข้าข้าง Apple มากแค่ไหนนะ คือมาตราฐานหัว Type-C มัน แต่คุณเคยเห็นตัวหน้าสัมผัสใน port Type-c ที่มันเหลื่อมๆกันของสายที่ไม่ได้ผ่านมาตราฐาน Apple หรือยังครับ คือจริงๆไม่ต้องให้ Apple ตรวจสอบแล้วเขาทำระยะช่องว่างระหว่างหน้าสำผัสตรงก็แล้วไป แต่ถ้าเหลื่อมก็มีโอกาศลัดวงจร แล้วคุณนึกภาพตอนจ่ายไฟสูงๆดูครับ สำหรับสายที่ลกต้นทุนอ่ะนะ เห็นภายนอกมันเสียบ Type-C ได้นั่นล่ะ แต่โชครายเจอสายแจ็คพอตก็พอตลัดวงจรพังไปเลย ใน Youtube มีช่างเตือนไว้อยู่ เขาส่งกล้องขยายเทียบให้ดูเลย
เรื่องคุณภาพของหัวคอนเนกเตอร์นี้เข้าใจครับ อาจจะพิมพ์ไม่ละเอียดว่า "ถ้า iPhone จะเปลี่ยนมาใช้ USB-C ก็ช่วยให้ทำให้ Universal สมชื่อหน่อยเถอะ" 🥲
ทั้งนี้ตัวผมเองไม่ได้มี iPad และ Mac แต่เห็นทั้งสองอย่างนี้ใช้โปรโตคอล USB-PD ที่มีระบบนิรภัย ถ้าเปิดตัว iPhone แล้วบอกว่า "ชาร์จเร็วผ่าน USB-C ด้วยสายที่เราไม่รองรับมันไม่ปลอดภัยสำหรับ iPhone" ก็ย้อนแย้งอะ อย่างน้อยๆ รองรับ eMArker ที่เป็นมาตรฐานกลางด้วยเถอะนะ.