สืบเนื่องจากข่าว สภารัฐมอนแทนาผ่านกฎหมายแบนการใช้งาน TikTok ทั้งรัฐ ถือเป็นรัฐแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนนี้ผู้ว่าการรัฐ Greg Gianforte ลงนามในกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยกฎหมายจะบังคับใช้จริงวันที่ 1 มกราคม 2024
นับจากวันที่ 1 มกราคม 2024 เป็นต้นไป TikTok จะไม่สามารถให้บริการในรัฐมอนแทนาได้ และสโตร์อย่าง App Store หรือ Play Store จะไม่สามารถให้ดาวน์โหลดแอพ TikTok ได้เช่นกัน หากละเมิดจะถูกปรับสูงสุดวันละ 10,000 ดอลลาร์
กฎหมายฉบับนี้ให้เหตุผลเรื่องการแบน TikTok เป็นเรื่องข้อมูลของผู้ใช้ที่เก็บโดย ByteDance และอาจถูกส่งต่อไปยังรัฐบาลจีน
คาดกันว่า ByteDance น่าจะฟ้องศาลเพื่อชะลอการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ออกไป
ที่มา - The Hill
To protect Montanans’ personal and private data from the Chinese Communist Party, I have banned TikTok in Montana.
— Governor Greg Gianforte (@GovGianforte) May 17, 2023
TikTok is just one app tied to foreign adversaries. Today I directed the state’s Chief Information Officer to ban any application that provides personal information or data to foreign adversaries from the state network. pic.twitter.com/92Im6D9Jgx
— Governor Greg Gianforte (@GovGianforte) May 17, 2023
ภาพจาก ByteDance
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ไทยน่าจะทำบ้าง
TikTok เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แย่งเวลาไปจาก YouTube ไม่น้อยโดนตัดขาแน่นอน ฮ่า ๆ แต่ยากแล้ว TikTok มันติดลมบนไปแล้ว
การแข่งขันเสรี…… :p
ถ้าตรูชนะ คนอื่นต้องเสรี
ถ้าตรูแพ้ ขอแบนนะ
😏
เสรีในนิยามของคุณคงต้องห้ามทำสงครามการค้า
เพื่อความมั่นคงของชาติครับ
จริง ๆ ประเทศที่มีสามารถมี product ใหญ่ ๆ เป็นของตัวเองได้
ก็เพราะทำแบบนี้นะ แบนค่ายใหญ่ระดับโลกเพื่อให้คนในประเทศตัวเองได้เกิด
จริง ๆ ก็อยากให้ไทยทำบ้างเหมือนกันนะครับ
ในไทยมีคนเก่งมาก ๆ อยู่ไม่น้อย ติดแต่โดนเจ้าใหญ่ทุบตลอด
เลยไม่ได้เกิดสักที
ตรรกะแหม่งๆ ถ้าปิดกันเพื่อให้คนในประเทศเท่านั้นทำ มันก็ถูกเจ้าใหญ่ในประเทศทุบเหมือนกันแหละ
มันจะ OK ถ้าประเทศเรามัน fair trade กันจริงๆ มี regulator แข็งๆ ไม่ใช่แบบตอนนี้
อันนั้นมันอีกส่วนหนึ่งอะครับ
เคสที่ผมบอก ตัวอย่างคือจีน ที่แบน social เจ้าหลักตั้งแต่ต้น แล้วดันให้คนในประเทศทำออกมา
แล้วคนในประเทศก็ช่วยกันใช้ของในประเทศตัวเอง
ส่วนเจ้าใหญ๋ประเทศ ก็เป็นอีกเรื่องนึงล่ะมั้ง
แต่เหมือนจีน เจ้าที่ทำ ก็น่าจะได้รับการผลักดันจากรัฐบาลนะ
จริง ๆ ของเกาหลี้ใต้ ก็น่าจะเหมือนกัน กลุ่ม Chaebol
ก็ต้องแบนมันปกติแหละ เดี่ยวของประเทศตัวเองจะสู้ไม่ได้เอา
จีน เก็บข้อมูล ผ่าน TIKTOK
สหรัฐ เก็บข้อมมูล ผ่าน GOOGLE FACEBOOK APPLE MICROSOFT และ อื่นๆ
เก็บแล้วเอาไปทำอะไร? ได้บ้างครับ?
จีนเองก็แบน Google Facebook Youtube และอีกหลายๆ อย่าง ตั้งนานแล้ว ไม่ต้องแปลกใจหรอก อเมริกาจะแบนบ้าง แบนมา-แบนกลับ น่ะ ไม่โกง
ก็ไม่เชิง
จีนเขาแบนเพราะไม่ทำตามกฎ และยังไม่ยอมทำตามกฎจนถึงปัจจุบัน ก็เลยต้องปิดกั้นการเข้าถึง (ใช้คำว่าปิดกั้นเพราะบางกลุ่มคน และบางพื้นที่ เขายังไม่ปิดกั้น)
ส่วนกรณี tiktok เขาชี้แจงไปแล้ว แต่คนบางกลุ่มไม่เชื่อ เลยแบน ซึ่งถ้าต้องการปลดแบน ก็คือต้องยอมขายกิจการออกไป ซึ่งก็เดาได้ว่าคนซื้อคงเป็นบริษัทของอเมริกานั่นเอง
ผมก็เข้าใจแบบนั้นเหมือนกัน
ผมไม่ได้อวยจีนนะ แต่ผมเข้าใจว่าจีนมีกฎชัดเจนว่าทำยังไงถึงจะให้บริการได้ ซึ่ง Google Facebook ไม่ได้ทำตามก็เลยให้บริการไม่ได้ ไม่ได้เจาะจงชื่อว่าแบน Google Facebook แบบที่อเมริกาทำกับ Tiktok หรือ Huawei ซะทีเดียว แล้วก็ไม่ได้ล๊อบบี้ให้ประเทศอื่นแบนตามด้วย
แต่ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้เพราะผมไม่ได้ติดตามละเอียด บวกกับเห็นคอมเมนท์ทำนองแบนมาแบนกลับไม่โกงเยอะ ก็เลยไม่มั่นใจเหมือนกันว่าตัวเองเข้าใจถูกไหม รอคนมาเสริมละกัน 55+
เคสนี้ก็ออก "กฎ" อย่างถูกต้องนะครับ ผ่านสภาของรัฐ มีโหวต ผู้ว่าการรัฐลงนาม ถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่างครับ (สภารัฐมาจากการเลือกตั้งด้วย เหนือกว่าจีนอีก)
ประเด็นคือกฏหมายมันไม่เปิดโอกาสให้ดำเนินการต่อไปได้ กฏหมายมันมีการเลือกปฏิบัติครับ กรณี google ยังมีสิทธิที่จะกลับไปดำเนินงานที่จีนเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าปฏิบัตืตามกฏหมายจีน แต่ tiktok มันคือการแบน
กฎหมายมหาชนที่ดี ห้ามระบุชื่อเอกชนครับ
อย่างมากคือ กำหนดเป็นสเปกแบบกึ่งๆล็อกสเปก
ผมยังสงสัยเลยว่าคนโหวตให้ผ่านไม่เข้าใจพื้นฐานข้อนี้รึไง?
ดีใจที่เริ่มมีคนแยกออกและเห็นธาตุแท้อเมริกาซะที
อยากทราบเหมือนกันว่าเมื่อมีผลบังคับใช้จะ Block อย่างไร ตาม Location ตาม IP หรือตามข้อมูลทะเบียนพลเมืองของรัฐ วุ่นวายน่าดู
ผมเชื่อว่ามันเป็นประเด็นความมั่นคง ไม่เกี่ยวกับการค้า
เหตุผลเดียวกับที่จีนแบนหลายเว็บของสหรัฐ
เขาไม่อยากให้สื่อประเทศคู่แข่ง มา influence คนของเขา
Montana เป็นรัฐ Republican เขาไม่ชอบบริษัทเทคประเทศตัวเองเท่าไหร่หรอก
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วย คิดว่าออกกฎหมายให้แสดงอัลกอริทึ่ม และแก้ส่วนที่เป็นปัญหาก็เพียงพอแล้ว
ออกกฏหมายถูกต้อง ทำตามกฏหมาย ก็โอเค ไม่ผิดอะไรนะครับ ลดความเสี่ยงได้ ลด แถมได้ประโยชน์อีกเด้งเพิ่มด้วย