จากการเปิดตัวเฮดเซต Apple Vision Pro ก็มาพร้อมคำถามยอดนิยม แบบเดียวกับทุกสินค้าเฮดเซตประเภทนี้ นั่นคือคนที่ต้องใส่แว่นสายตาจะใช้งานเฮดเซตนี้อย่างไร?
คำตอบของแอปเปิลคือการร่วมมือกับ ZEISS บริษัทผู้ผลิตเลนส์ชื่อดัง ออกเลนส์ ZEISS Optical Inserts ซึ่งปรับให้เข้ากับปัญหาสายตาของแต่ละบุคคล แล้วนำส่วนเลนส์เสริมนี้ติดด้วยแม่เหล็กเข้ากับเฮดเซต Apple Vision Pro ทำให้สามารถมองเห็นได้ปกติ และรองรับฟีเจอร์การตรวจจับดวงตา
เรื่องต่อมาที่คนอยากรู้คือราคา ซึ่งแอปเปิลและ ZEISS ก็ยังไม่มีรายละเอียดส่วนนี้ บอกเพียงสินค้านี้จะจำหน่ายแยกในปีหน้าที่อเมริกา พร้อมกับช่วงการขายของ Vision Pro
ที่มา: ZEISS
Comments
น้ำตาจะแชร์เลยอันนี้ เพราะเคยลองสินค้าแนวนี้แล้วมีปัญหากับสายตาตลอด
เดี๋ยวราคาเลนส์มาน่าจะได้แชร์น้ำตาอีกที
ดีไม่ดี เอาค่าทำเลนส์ ไปทำเลสิค เลยดีกว่า lol
ผมสั้น 600 ก็หาคนตัดเลนส์สำหรับ quest 2 ได้นะ ใน shopee ราคาไม่แพง
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ระดับ zeiss จากคนใช้กล้อง Contarex Bullseye กับ hasselblad plana กับ sonnar คือเลนส์คมจริงไม่เถียง แต่ราคาก็แรงตาม เลยล่อไป 3500 สินะ
เลนส์เดี่ยว ZEISS ก็เหยียบแสน บวกกับราคามหามิตรจาก Apple ค่าแบรนด์สูงลิ่ว ไม่อยากคิดถึงราคาเลนส์เสริม น่าจะ 2 ใน 3 ของเครื่อง Vision Pro
lens แว่นตา Zeiss ราคาไม่แพง สูงกว่าพวกญี่ปุนอย่าง hoya 10-20% แค่นั้น
ถ้าราคา 2/3 ของ Vision Pro กำเงินไปทำ ReLex เถอะครับ
ยังดีแค่ zeiss ไม่ใช่ Rodenstock ราคาคงทะลุชั้นบรรยากาศ
เดาว่าเดี๋ยวก็มี 3rd party ทำมาแข่งอยู่ดี
ในเชิงเทคนิคมันออกแบบ จอ/ซอฟแวร์ ที่ทำให้สายตาสั้นมองชัดไม่ได้เหรอครับ เพราะตัวอุปกรณ์แทบจะจ่อติดอยู่ที่ตาอยู่แล้ว ภาพในหัวผมคือเหมือนเครื่องวัดสายตาตามร้านตัดแว่นน่ะ พอเรามองเข้าไปก่อนปรับค่าภาพจะไม่ชัด พอเครื่องคำนวณเสร็จก็มองเห็นภาพข้างในชัดเลย
มันต้องมีเลนส์ที่ปรับให้แสงตกกระทบพอที่จอตาเรานี่ครับ software ปรับเบลอชัดยังไงไม่น่าจะช่วยอะไร เลนส์ติดจอน่าจะออกแบบให้พอดีกับสายตาทั่วๆ ไป เหมือนแว่น VR DIY ทั้งหลายที่เอามือถือมาเป็นจอ มองจอใกล้ๆ แต่เห็นชัดเหมือนจออยู่ไกลๆ
มันก็จะเพิ่มต้นทุนครับ แล้วก็มุมมองอาจจะไม่กว้างเท่าเดิมด้วย รวมถึงน้ำหนักนี่เพิ่มแน่ๆแค่นี้ที่ดูคนที่ได้ลองก็บอกว่าหนักแล้วก็เล่นใช้อลู+กระจก
โดยส่วนใหญ่แล้วของพวกนี้เรามักจะใช้คนเดียวหรือแชร์แค่ไม่กี่คนครับ เพราะงั้นการเพิ่มฟังชั่นให้มันสามารถปรับสายตาได้จึงมีความจำเป็นน้อย อีกทั้งยังเพิ่มต้นทุนมากและทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่ลง (หนักขึ้น ใหญ่ขึ้น) แม้จะเป็นการปรับแบบ Manual ก็ตาม (ส่วนปรับ Auto นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง) มันจึงไม่คุ้มที่จะใส่เข้าไปครับ