ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี Sophie Jentzsch และ Kristian Kersting ทดลองให้ ChatGPT 3.5 เล่ามุกตลกจำนวน 1,008 ครั้ง พบว่า 90% ของคำตอบเป็นมุกซ้ำเดิม 25 มุก
ทีมวิจัยประเมินว่าเหตุผลที่ ChatGPT ยิงมุกซ้ำๆ มาจากข้อมูลการเทรนโมเดลครั้งแรกสุด และมุกที่ไม่ค่อยตลกนักเป็นเพราะวิธีการเทรนแบบ reinforcement learning through human feedback (RLHF) ที่ให้มนุษย์ให้คะแนนคำตอบว่าดีแค่ไหน ซึ่งมนุษย์ที่ให้คะแนนตอนเทรน มักอิงกับแนวทางคำตอบตามคู่มือที่ได้รับมากกว่าเน้นความสร้างสรรค์
ทีมวิจัยยังบอกว่าจะทดลองแบบเดิมกับ GPT-4 ในอนาคตด้วย
มุกที่พบบ่อยที่สุด เจอทั้งหมด 140 ครั้ง คือ
Q: Why did the scarecrow win an award?
A: Because he was outstanding in his field.
อันดับสอง เจอทั้งหมด 122 ครั้ง
Q: Why did the tomato turn red?
A: Because it saw the salad dressing.
อันดับสามไล่เลี่ยกัน 121 ครั้ง
Q: Why was the math book sad?
A: Because it had too many problems.
อันดับสี่ 119 ครั้ง
Q: Why don't scientists trust atoms?
A: Because they make up everything.
จากการลองเองตอนเขียนข่าวนี้ ครั้งแรกก็ได้มุกยอดนิยมอันดับสี่เลย
ที่มา - Ars Technica
Comments
ก็น่าจะอย่างนั้นนะ AI ปัจจุบันยังไม่มีเรื่องอารมณ์ และการรับ input สภาพแวดล้อม มันทำให้การดึงข้อมูลออกมาใช้ก็จำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ พื้นที่หนึ่งในแนวเส้นพยากรณ์ ยิ่งถ้ามีข้อมูลสำหรับ train ไม่มากพอ ก็ยิ่งสุ่มออกมีโอกาสซ้ำกันมากขึ้น เขาคงเก็บสถิติอยู่ด้วยนั่นแหล่ะว่าคนมักชอบถามเรื่องอะไร เพื่อจะได้เก็บข้อมูลในกรอบที่จำกัดในเรื่องที่คนสนใจได้ เพราะไม่งั้นมันก็เปลืองทรัพยากรในการประมวลผล กฎ 20:80 ยังใช้ได้เสมอ
เคยให้มันแต่ง แร็พแบทเทิล เอาคนดัง กับคนในประวัติศาสตร์มาดวลกันเล่นๆ
ตอนแรกก็ตลกดี แต่ผ่านไปหลายรอบเริ่มจำได้ว่ามันคล้ายๆกัน
ยังมีข้อจำกัดเรื่องความคิดสร้างสรรค์
ในกระแสข่าวที่ AI จะมาแทนที่มนุษย์ ก็ถือเป็นข่าวที่ดี
ยังพอมีช่องว่างให้มนุษย์บ้าง
อนาคตก็ให้ AI ทำอย่างอื่นให้ ส่วนมนุษย์ที่เหลือก็ไปเป็นตลก, เดี่ยวไมค์ หรือไม่ก็วาดการ์ตูนแก็กกัน
ทำไมฟังดูเศร้ากว่าเดิม 😆