Phil Spencer หัวหน้าธุรกิจเกมของไมโครซอฟท์ ให้การในการไต่สวนของ FTC เล่าเบื้องหลังของการซื้อกิจการ Bethesda/ZeniMax เมื่อปี 2020 ว่าเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อกิจการ เป็นเพราะได้ยินข่าวว่าโซนี่เซ็นสัญญากับ Bethesda ว่าเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ตอนนั้นคือ Deathloop และ Ghostwire: Tokyo ห้ามไปลง Xbox เด็ดขาด แถมตอนนั้นยังมีการพูดถึงเรื่อง Starfield ว่าห้ามไปลง Xbox ด้วยเช่นกัน (แม้ยังไม่ได้เซ็นสัญญาเหมือน 2 เกมแรก)
Spencer บอกว่าไมโครซอฟท์เป็นเบอร์สามในตลาดคอนโซล หากโดนแย่งคอนเทนต์ต่อไป ก็จะถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ จึงต้องเป็นเจ้าของคอนเทนต์เองเพื่อให้ยังอยู่ในธุรกิจเกมต่อไปได้
เขาให้ข้อมูลเพิ่มว่าหากไมโครซอฟท์ออกเกมบน PlayStation จะต้องโดนโซนี่กินส่วนแบ่งรายได้ 30% และนำเงินนั้นกลับมาต่อสู้กับ Xbox เพื่อบีบให้อยู่ไม่ได้ ต้องออกจากตลาดเกมไป เราพยายามต่อสู้ในตลาดคอนโซลมา 20 ปีและยังไม่ประสบความสำเร็จ
เขายังตอบคำถามเรื่องเกม The Elder Scrolls 6 โปรเจคถัดไปของ Bethesda หลังจากเสร็จงาน Starfield ว่าคงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 ปี (five plus years away) และปฏิเสธไม่ตอบคำถามว่าเกมจะลงแพลตฟอร์มไหนบ้าง บอกเพียงว่ายังเป็นอนาคตระยะไกล ยากที่จะตัดสินใจในตอนนี้ (It’s difficult for us right now to nail down)
Comments
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โซนี่ไม่ผิด ไมโครซอฟท์ผิด
ว่ากันตามตรง การแข่งขันมันก็แบบนี้แหละ ทำทุกอย่างเพื่อชิงความได้เปรียบ ส่วนเกมเมอร์ ก็มีหน้าที่จ่ายตังค์อย่างเดียว เอิ๊กๆ
..: เรื่อยไป
เหมือน Sony ออกเงินให้ Bethesda ทำเกม แล้วพอดูเหมือนเกมมันจะออกมาดี ms ที่ก็ไปออกเงินให้ค่ายอื่นเหมือนกันแต่เกมไม่ค่อยปัง เลยแก้เกมโดยการซื้อ Bethesda แล้วให้ฉีกสัญญาที่ทำไว้กับ sony
ก็เหมือนที่สมัย Sony เจ้าตลาดแล้วบีบ 3rd party ไม่ให้ลงเครื่องนินเทนโด
ส่วน Final Fantasy ถ้า MS ซื้อได้คงซื้อไปล่ะ
https://twitter.com/PeterOvo5/status/1672301153952907266
ที่ไปเซ็นสัญญาสองเกมนั้นเป็น Time exclusive มีช่วงระยะเวลา เช่น 6 เดือน 1 ปี ทุกวันนี้สองเกมส์ที่ว่านั้นก็ลง Xbox แล้ว
ทาง Microsoft เองก็เคยทำ อย่าง Tomb raider ยิ่งสมัย PS3 กับ Xbox360 นี่พี่แกซื้อ Exclusive หนักมากๆ Ace Combat, Blue dragon
เรื่องค่าส่วนแบ่ง Sony ทำเกม Destiny กับ MLB เป็น Multiplatform ก็โดน Microsoft กินเงินค่า store เหมือนกัน
แล้วมาบ่นค่ายอื่น :V
แสดงตัวเป็นผู้ถูกกระทำจนคนใจอ่อน
พอตัวเองได้ Monopoly ไปก็ไม่ต่างกับที่ Sony ทำหรอก แถมยังจะเลวร้ายกว่าอีก
ยุค Cross-Play ก็เคยทำให้เห็นมาแล้วในสมัย PS3 ที่ Sony ขอร่วมด้วย แต่ตัวเองก็ไม่เอา
แล้วมาทำตัวน่าสงสารในยุค One
เลวร้ายกว่ายังไง เกมที่ลงXbox ลง pcด้วยตั้งแต่day1 คนเล่นเกมได้ประโยชน์ ส่วน Sony ถึงมูลค่าบริษัทจะต่ำกว่าแต่บอกเลยอำนาจต่อรองค่ายเกมมีมากกว่าหลายเท่า เอาแค่โซนี่จ่ายเงินเพื่อex เกมอะไรก็ได้ทั้งนั้นทุกคนยินดี เพราะpsมีอำนาจตลาดมาก มากเกินไปแทนที่จะให้ค่ายเกมตัดสินใจเอง ส่วนXboxลองไปขอexเกมอะไรลงเฉพาะเครื่องตัวเองสิยากมากเพราะอำนาจไม่เท่าไม่มีใครกล้ามามาหรอกถ้าไม่ซื้อบริษัทไป
สิ่งที่ไมโครซอฟทำมองว่าดีกว่าไม่ได้เลวร้ายกว่าอย่างที่คุณอ้างมา เพราะอะไรที่ชาวเกมได้ประโยชน์ย่อมดีต่อผู้บริโภค
จริงๆเพราะsonyจ่ายเงินเพื่อEXนี้แหล่ะ มันถึงมีเกมป้อนตลาดPSเยอะ เพราะการได้เงินก้อนมาก่อนสำหรับค่ายเกม มันทำให้เสี่ยงได้มากกว่า ทำเกมมาแล้วไปรุ่นตอนขายว่าจะขาดถอนทุนคืนได้ปล่าว สำหรับค่ายเกมไม่ใหญ่ที่ไม่ได้ทำAAAได้เงินsonyไป ก็เรัยกว่าเท่าทุนตั้งแต่ยังไม่ขาย
ส่วนxboxก็ดูยุค360ครับ exมากพอพอหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
ผมคิดว่า ถ้าเรามองด้านผลประโยชน์ของผู้บริโภคมากเกินไป (แบบที่ฝั่งอเมริกันชอบพูดกัน) พอมองในภาพรวมมันก็เกิดปัญหาได้เหมือนกัน
อย่างเช่น GamePass ที่ผมด่ามาแล้วทุกคอมเมนต์ จนตอนนี้ผมเลิกด่าละ เหนื่อย 555
มองในแง่นึง การที่พยายามจะผลักให้เกมต้องออกทั้ง Xbox และ PC พร้อม ๆ กันมันก็เป็นภาระกับทางผู้ผลิตเกมมากขึ้น เพราะว่าต้องทำงานมากว่าเท่าตัว (โดยเฉพาะที่ทีม QA) แล้วในยุคที่ HW ฝั่ง PC มีปัญหาแทบจะทุกรุ่น ภาระที่ว่ามันก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก
ถ้ามองแบบ developer จริง ๆ การลงแค่ PS5 เครื่องเดียวเลย มันก็ทำให้ทำงานได้ง่ายกว่า เก็บงานได้เนี้ยบกว่า สุดท้ายคนเล่นก็แฮปปี้ เสียเงินเท่ากันได้ของคุณภาพสูงกว่า เทียบกับฝั่ง Xbox ที่มีสอง configuration ละ บวกกับอีกพันล้าน configuration ของพีซี ก็ทำให้ได้ของคุณภาพครึ่งกลาง ๆ ที่ขายราคาเท่ากันแล้วคนเล่นก็ทนได้ทนไป
การที่แบบ ออก PS5 มาก่อน ขายไปก่อนสักสองปี แล้วออก PC มาเก็บตกยอดขายอีกส่วนหนึ่งแบบนี้ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าออกทุกอย่างพร้อมกันโดยที่ไม่เสร็จสักแพลตฟอร์มก็ได้ครับ
จะว่าไป ที่ผมคิดแบบนี้เพราะผมมีทั้ง PS5 และ Gaming PC (ที่ลำพังการ์ดจออย่างเดียวก็แพงกว่า PS5 ทั้งเครื่องแล้ว) ก็ได้ล่ะมั้ง ผมเลยไม่ได้รู้สึกว่าเสียประโยชน์กับการที่เกมมันเป็น console exclusive ถ้าผมมีแต่พีซีอย่างเดียวผมก็อาจจะรู้สึกว่าผมเสียประโยชน์เลยคิดว่าฝั่ง Xbox อาจจะดีกว่าเพราะลงทั้งสองเครื่องพร้อมกัน
ปัญหาคือออกช้ากว่าก็ไม่ต่างกันไงครับมีปัญหาเหมือนเดิมตัวอย่างก็มีหลายเกมแล้วของ sony ที่ลง pc ฉนั้นออกพร้อมกันดีแล้วถ้าอยากเล่นแบบไร้บัคก็รอสักครึ่งปี
แล้วคุณไม่คิดมั่งหรอว่าคนที่ต้องรอ บางทีเขาก็อยากเล่น การที่ซื้อคอนโซลมาวางทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะน่ะ มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ex แบบเวลาน่ะ ก็ทุเรศเหมือนกัน ไม่ว่าจะฝั่งไหนก็ตาม
ผมที่อยากเล่น Horizon Zerodawn แล้วซื้อ PS4 Pro มาเล่น จบแล้ววางไว้จนฝุ่นเกาะจนขายทิ้ง อยากเล่น Zelda BOTW ซื้อ Switch เล่นจบแล้ววางไว้จนขายทิ้ง
เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้เดือดร้อนเท่าไรนะครับ เพราะการ์ดจอ PC ราคาแพงกว่า Console เยอะ ซื้อ Console เพื่อเกมที่เราอยากเล่นจริง ๆ ผมว่าคุ้มนะ
ผู้เล่นเบอร์สาม จากทั้งหมด... 3เจ้า(เอาจริง ๆ มันควรนับ Nintendo ด้วยจริง ๆ หรอ?)
เป็นเบอร์ 3 เพราะไม่มีคอนเทนท์ 👎
เป็นเบอร์ 3 เพราะไม่ยอมทำตลาด 👍
อันนี้จริงมาก ตลาดเอเชียนี่ไม่ทำเลย มีแค่ญี่ปุ่นที่ทำ
มุมคนทำเกม
ไม่ทำเกมให้เพราะเป็นพันธมิตรต่อโซนี่ 👎
ไม่ทำเกมให้เพราะคนส่วนมากเข้าไม่ถึง xbox 👎
ญี่ปุ่นเองก็เพิ่งกลับมาทำ
ทิ้งไปตอน 360 ทั้งที่ตอนนั้นก็ทำได้ค่อนข้างดี จนกระทั่ง ps3 มาตั้งตัวได้
เจาะไปเรื่อยๆ มันก็น่าจะเจาะได้บ้าง ดันเลือกถอยซะงั้น
เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ ก็ทำนะครับ ของผมเครื่องสิงคโปร์
ใช่เลยครับ เป็นเบอร์ 3 ก็ไม่แปลกครับ เพราะไม่จริงจังพอ