อย่าว่าแต่ลดเวลา บางคนถึงขั้นลบแอพเลย😆
ไปใช้ทวิตเหมือนเดิม
ใช้แล้วคิดว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น Substagram มากกว่า😂

เปิด platform แล้วคนแห่เข้ามา แต่ไม่เห็นมี content อะไร คนก็เลิกใช้

คิดว่าช่วงต้นของ platform ยังไงก็หนีไม่พ้น model จ่าย subsidize ให้คนผลิต content มาลงให้
แต่เหมือน Mark ลืมคิดตรงนี้
Elon เลยรีบ counter ด้วยการเสนอแบ่งรายได้ให้ Twit Blue

มวยถูกคู่จริงๆ

แค่ลง คอนเท้น 18+ ไม่ได้ก็แพ้ล่ะครับ

Elon หลอกดูไพ่ Mark

ลบทิ้งไปแล้วอะ

มันคือ Facebook ในหน้าตาแบบ Twitter เพราะนโยบายต่างๆ ก็เอาของ Facebook มาเลย

ถ้าคนไม่ชอบเฟสบุค ก็ไม่น่าจะชอบ Threads

มันผูกกับ real identity และ 18+ ไม่ได้ ชะตากรรมก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว อย่าง tumblr นั่นไง

ดูเป็นฟีเจอร์ใหม่ของ IG เฉยๆ ซึ่งยังทำไม่เสร็จอีก

มีแววแป๊กสูง ก็ไม่แปลกยูสเซอช่วงแรกก็คือยูสเซอร์​ ig ทั้งนั้น​ต้องดูว่าจะมีอะไรมาช่วยดันยอดต่อไม่มีคนก็กลับไปหาทวิตหมดอะ ไม่มีประโยชน์​อะไรที่จะใช้งานแอพแบบเดียวกัน2แอพ

ส่วนตัวไม่ค่อยใช้เธรดเพราะ 1. ไม่มีแอปเวอร์ชันไอแพดและเบราว์เซอร์ 2. เลือกดูเฉพาะคนที่ตามไม่ได้

มาร์คควรไปพักผ่อนซักปี แล้วค่อยมาทำงาน
นำเสนอไอเดียใหม่ ก็เว่อเกิน ทำไม่ได้ (meta)
อุตส่าห์ทำตามคนอื่น ก็ยังไม่สำเร็จอีก

อินสตาแกรมเวอร์ชั่นข้อความ ตรรกะอินสตาแกรม ทำให้ใช้งานยาก ต้องเป็นแอป ลีลาเยอะ ไอโอเอสเป็นหลัก (แต่ก็ไม่มีแอปไปแพ็ด) แถมต้องใช้แอคอินสตาแกรม 18+ ไม่ได้

แพลตฟอร์มไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น สำคัญกว่าคือผู้คนต่างหาก คือถ้าหาอะไรดึงดูดคนไปใช้ไม่ได้ สรุปแล้วเราจะคุยกับใครในแพลตฟอร์ม

Fediverse ประสบความสำเร็จกับกลุ่ม geek และ tech expert เพราะมันกระจายศูนย์ ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ในขณะที่คนทั่วไปใช้แพลตฟอร์มที่คนส่วนใหญ่กระจุกกันอยู่ อย่าง Facebook เองห้ามเรื่อง 18+ คนก็ยังเยอะอยู่เพราะเป็นแพลตฟอร์มบุกเบิก บางเจ้าอย่าง VK เปิดทีหลังแต่คนเข้าเยอะเพราะเป็นรัสเซียและไม่ห้าม 18+