Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุดแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On ซึ่งพูดถึง Vision Pro เฮดเซต Mixed Reality ในประเด็นที่แอปเปิลจะทำรุ่นราคาถูกลงออกมาขายในปี 2025 ซึ่งเขาเคยรายงานครั้งหนึ่งในเดือนมิถุนายน
ข้อมูลใหม่บอกว่าเฮดเซตรุ่นราคาถูกลงนี้ มีราคาในช่วง 1,500-2,500 ดอลลาร์ (55,000-90,000 บาท) โดยแอปเปิลลดต้นทุน ด้วยการตัดส่วนจอด้านนอกที่แสดงดวงตาผู้สวมใส่ออกไป (ก่อนหน้านี้ Gurman บอกว่าแอปเปิลไม่น่าตัดส่วนนี้ออก) ลดจำนวนกล้องภายนอก ลดจำนวนเซ็นเซอร์ ลดความละเอียดหน้าจอลง และใช้ชิปเกรด iPhone จากเดิมเป็นชิประดับ Mac
เขายังให้ข้อมูลเรื่อง Vision Pro รุ่นที่สองว่าตอนนี้อยู่ในการพัฒนา แม้รุ่นแรกจะเริ่มส่งมอบในต้นปีหน้า โดยแอปเปิลจะโฟกัสที่ขนาดเฮดเซตเล็กลง เบาลง ให้สวมใส่ได้ดีขึ้น
สุดท้าย Gurman ให้ข้อมูลเรื่อง iPad รุ่นใหม่ที่มีรายงานว่าจะออกในสัปดาห์นี้ โดยเขาบอกว่าข้อมูลที่มี iPad กลุ่มดังกล่าวมีโอกาสออกมาในปีนี้ แต่ไม่ใช่ในเดือนตุลาคมนี้
ที่มา: Bloomberg
Comments
ขนาด apple เคยเห็นข่าวว่าที่เปิดขายออกมา ขายไม่ดีเลยจะรอดไหม
หรือว่าลดสเปคคุมกำไร
ตอนนี้ Apple เป็นความหวังสุดท้ายของหมู่บ้าน MR,VR แล้วมั้งเพราะ Google สภาพตอนนี้ก็เหมือนทิ้งไปแล้ว Meta ก็ลุ่มๆ ดอนๆ แต่ถ้าตัวถูกยังมาราคานี้ก็น่าจะตีตลาดคนใช้ทั่วไปยากอยู่ดี
ผมก็คิดคล้ายกัน ถ้า Apple ทำแล้วยังออกมาให้อยู่รอดโดยมีกำไรไม่ได้ น่าจะต้องพับโปรเจคนี้ทิ้งไปก่อน
การที่คนไม่ใช้หมายความว่ามันไม่มีความพิเศษมากพอที่จะต้องจ่ายตังค์ไปซื้อฟีเจอร์เหล่านั้น
..: เรื่อยไป
ผมว่ากำไรไม่ได้แน่ๆ ช่วง 2-5 ปีนี้ แต่อนาคตไม่แน่ 555555
ถ้ามันเบาและก็โอเคในเรื่อง AI และ App มันก็ยังจะเป็น Future Device ได้อยู่ 5555
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ขนาดลด แล้ว ก็ยังแพง กว่า ค่ายอื่น นะ รอดู ว่า ฝั่ง เอเปิล จะผลักดัน ได้ ไหม
ถ้าห้าหมื่นคงมีกลุ่ม consumer มาจับบ้าง จะได้แมสเยอะๆ หน่อย
ถ้าใช้เป็นเครื่องมือเจาะกลุ่ม Content creator ตัว Pro ก็ถือว่าไม่แพง
ให้ Meta จับกลุ่ม Consumer ไป
ถ้าเข้าใจว่า market ของ มือถือจอ touch ก่อนมี iphone
จะรู้ว่ามันมี potential ที่ vision pro จะ boom อยู่
ตอนนี้คนส่วนใหญ่น่าจะโตมายุคมี iphone แล้ว
ถ้าเป็นตามนี้จริง ก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ
คือมือถือจอทัชยุคก่อนไอโฟนมีมานานแล้ว แต่มันยังผีเข้าผีออก พอไอโฟนออกมาแล้วมันคือตูม นี่คือสิ่งที่มือถือจอทัชควรจะเป็น หลังจากนั้นวิวัฒนาการมือถือจอทัชก็ก้าวกระโดดเลย แต่ตอนนี้มันเริ่มตัน ๆ แล้ว ไปอวดกันว่ากล้องใครสวยกว่าแทน
MR/VR ของแอปเปิ้ลถ้าทำได้แบบเดียวกับไอโฟนก็คือเจ๋งเลย แต่เอาจริง ๆ กำแพงใหญ่เลยคือราคา ไอโฟนตอนนั้นมันไม่ได้ราคาสุดโต่งทิ้งคู่แข่งไม่เห็นฝุ่นแบบนี้ ราคามันจับต้องได้ตอนนั้นเทียบกับมือถือโนเกียรุ่นท๊อป ๆ ยังถูกกว่าด้วยซ้ำ
แต่ราคา 5 หมื่นเอาจริง ๆ ผมว่าเป็นไปได้นะที่มันจะบูม คนซื้อไอโฟนเครื่องละ 5 หมื่นมีไม่น้อยเลยแหละ
VR ผมว่ามันยังอยู่ปลายขอบเทคโนโลยีอยู่ แม้จะใช้ขั้นสุดของเทคโนโลยีที่มีตอนนี้ก็ยังเปรียบได้เหมือนกับ smartphone ในยุคแรกๆ เท่านั้นเอง(VR ด้วยความที่มันใกล้ตามาก การจะให้ไม่เห็นเป็น pixel ได้เหมือนผมเคยอ่านเจอว่าต้องความละเอียดระดับ 8K ขึ้นไป และยิ่งถ้าจะรวมกับกราฟฟิกที่จะรันใน 8K และมี texture และ shader ที่ดีพอ ผมว่ายังห่างไกลกับตอนเทคโนโลยีตอนนี้พอควร) และราคาก็สูงมาก การจะเข้าถึงคนจำนวนมาก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก
แต่การเข้ามาเป็นเจ้าแรกๆ เพื่อชิงความได้เปรียบในเรื่อง know how และ ecosystem ในอนาคตซะมากกว่า
Apple น่าจะหวังผลให้จังหวะเหมือนพอดีๆ กับเทคโนโลยีการมาของ iphone รุ่นแรก ในเทคโนโลยี่ที่พอไหว ให้คนติด ecosystem แล้วค่อยๆ เติบโตไปกับตลาด โดยไม่ได้หวังผลให้ VR เป็นการเปิดโลกใหม่แบบ Meta
มองย้อนกลับมาที่ smartphone กว่าจะครอบคลุมตลาดใหญ่ได้จริง ก็คือตอนที่รุ่นกลาง(ต่ำกว่าหมื่น)มีความสามารถในระดับที่เรียกว่าใช้ได้จริง(มีความลื่นไหลในระดับเดียวกับ iphone 4s/5 ขึ้นไป) ก็ถึงนับได้ว่าครอบคลุมอย่างแท้จริง ทีนี้ VR ก็คงอีกยาว กว่าที่รุ่นต่ำกว่าหมื่น มีความสามารถระดับที่คาดหวังได้
แบบนี้ก็คงจะแยกรุ่นมาเป็น Vision เฉยๆ กับ Vision Pro ซะหล่ะมั้ง
จะให้บูมเหมือนมือถือมันเป็นได้ยาก มันเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะใช้ในพื้นที่ส่วนตัว ขนาดนาฬิกาก็ยังไม่ถูกใช้งานเท่ามือถือเลยแม้จะพกได้ง่ายกว่าแล้วก็ใช้ได้ทุกที่
เห็น AR ของ Quest 3 แล้วว้าวมากมาย
กำไรน่าจะไปอยู่ในโปรแกรมต่างๆที่ผูกมัดเฉพาะ apple Vision Pro เท่านั้้นที่ต้องจ่ายใช้งาน
5 หมื่น ค่อยน่าสนใจซื้อขึ้นมาหน่อย แฟนๆapple ซื้อกันเยอะแน่นอน แพงกว่า15 pro max ไม่เท่าไหร่เอง