แอปเปิลเริ่มส่งมอบเฮดเซต Apple Vision Pro ให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาแล้ว ทำให้มีข้อมูลเอกสารซัพพอร์ตเผยแพร่ออกมาประกอบการใช้งาน ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจในรายละเอียด โดยมีคนรวบรวมไว้แล้วดังนี้
การใช้งาน Vision Pro สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธเพิ่มเติมได้ ดังนี้
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลบอกว่าหากเป็นอุปกรณ์ 3rd Party แอปเปิลไม่รับประกันว่าจะสามารถใช้งานได้ทั้งหมด
อุปกรณ์แอปเปิลในยุคหลังได้ใส่ชิปเพื่อรองรับ Find My สำหรับค้นหาพิกัดตำแหน่งอุปกรณ์ กรณีทำหาย (แม้แต่ Apple Pencil ยังอาจมี) แต่ไม่ใช่สำหรับ Vision Pro
แอปเปิลระบุว่า Vision Pro รองรับเฉพาะฟังก์ชัน Activation Lock เท่านั้น ไม่รองรับฟังก์ชันการแสดงตำแหน่งปัจจุบันเพื่อค้นหา การป้องกันอุปกรณ์ที่ทำได้คือล็อกอุปกรณ์ ไม่ให้ปิด Find My หรือรีเซ็ตอุปกรณ์ได้เท่านั้น
ทางเลือกหนึ่งที่อาจพอทำได้ในปัญหานี้ คือใส่ AirTag ไว้ในเคสที่เก็บ Vision Pro แล้วค้นหาพิกัดจากเคสแทน
ภาพที่นำเสนอของ Vision Pro นั้น มักเป็นการใช้งานภายในบ้าน เหตุผลหนึ่งอาจเพราะแบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เฮดเซตนี้ก็มีโหมดสำหรับการเดินทาง Travel Mode ด้วย ที่นำเสนอผ่านการเปิด immersive ระหว่างนั่งเครื่องบิน สร้างสภาพแวดล้อมรอบตัวขึ้นมาระหว่างดูภาพยนตร์
คำแนะนำในการใช้งานระหว่างเดินทางคือ จัดเก็บ Vision Pro ไว้อย่างเหมาะสม ถ้าไม่ได้ใช้งาน โดยแนะนำให้ใส่ในเคสป้องกันโดยเฉพาะ และถอดแบตเตอรี่ออก ไม่มีของที่อาจไปขูดขีดเฮดเซตอยู่ใกล้ ๆ
ส่วนการใช้งานขณะเดินทางเครื่องบิน แอปเปิลแนะนำให้ผู้ใช้งานนั่งอยู่กับที่ตลอดเวลา และถอดเฮดเซตออกก่อนลุกขึ้นยืน หลีกเลี่ยงการมองหน้าต่างเครื่องบิน เพราะอาจกระทบการตรวจสอบสภาพแวดล้อม การปรับตำแหน่งจอภาพให้ใช้ Digital Crown หมุนปรับตำแหน่งที่ต้องการ
ฟีเจอร์ขายอันหนึ่งของ Vision Pro คือ Persona ที่สามารถสร้างใบหน้าผู้ใช้งาน ไว้แสดงเมื่อสนทนาวิดีโอคอล และสามารถเคลื่อนไหวตามได้เสมือนจริง อย่างไรก็ตามรีวิวในช่วงแรกจากสื่อยังมองว่า Persona แสดงผลออกมาดูแปลกตา ซึ่งแอปเปิลน่าจะต้องปรับปรุงเพิ่มเติม
ทั้งนี้แอปเปิลก็แนะนำการตั้งค่า Persona เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สมจริงที่สุดหลายอย่าง เช่น อยู่ในสภาพแสงที่เหมาะสม ไม่มีเงาสะท้อน, ใช้ฉากหลังพื้นเรียบ ไม่มีของหรือคนอยู่ด้านหลัง, เมื่อสั่งให้ยิ้ม ให้ยิ้มกว้างหรือเป็นธรรมชาติที่สุด, หากใส่หมวก AirPods ต่างหู ภาพที่ออกมาอาจไม่สมบูรณ์ ให้แก้ไขโดยถอดสิ่งเหล่านี้ออกก่อน
ภาพ Brian Tong
Comments
-ใส่แล้วทอดไข่เจียวปูได้
55555555 ชอบมุกนี้
คือต่อเมาส์ไม่ได้แต่ใช้ Trackpad ได้
พอบอกว่าไม่ให้มองหน้าต่างก็เข้าใจว่าใช้กล้องจับตำแหน่งได้ดีมากจนภาพไม่ไหล (อย่าง Quest 3 ได้ลองบนเครื่องบินละ ถ้าไม่มีความเร่งอ่ะใช้ได้ พอมีความเร่งปุ๊บตำแหน่งไหลเลยจ้า ตกหลุมอากาศหรือปรับความเร็วงี้) แต่พอบอกว่าใช้ digital crown ปรับตำแหน่งจอนี่เริ่มไม่แน่ใจว่าเพื่อไม่ให้ขยับตัวระรานคนข้างๆ หรือมีเรื่องอื่นด้วย 🤔
เป็นอุปกรณ์ Apple ที่เรื่องเยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา - -*
นี่ยังไม่นับรวมเรื่องค่าสายตาที่ต้องตัดเลนส์เสริมอีก จริงๆน่าจะแนะนำให้ใช้คอนแทคเลนส์ ประหยัดดี เสริมเลนส์ที่แว่นมันแพง ก็เสริมที่คนใช้แว่นดีกว่า ถูกกว่าเยอะ
ถ้าคิดแบบ Apple จะไล่ลูกค้าให้ไปทำคอนแทคเลนส์เองไปไม่ได้นะครับ ต้องจบในตัวให้ได้ ไม่งั้นลูกค้าได้ไปก็เสียเวลาอีก ซึ่งคนใส่แว่นบอกคนก็ไม่ได้อยากใส่คอนแทคเลนส์ด้วยนะครับ
Persona คนใน ยังบอกว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย สูัๆ ครับให้เวลาหน่อยคงเจ๋งเลยแหล่ะ 🙌🏻
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ปัญหาคือแอพทั้งหลายจะตามมาไหม ไม่งั้นก็ไม่ต่างจาก vr ทั่วไปที่ช่วงแรกบูม พอหลังๆทั้งเกมทั้งแอพ มาน้อยมากเลย
ใช้แอพของไอแพดได้ทันที แค่นี้ก็มีเป็นล้านแอพแล้วครับ ecosystem ของ apple มันแข็งแรงพอที่จะอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้ 3rd party เลยด้วยซ้ำ แต่อย่างที่อินฟูหลายท่านพูด มันยังไม่ได้เหมาะกับทุกคน
ลองย้อนกลับไปวันที่ iPhone, iPad, Apple Watch เปิดตัววันแรกสิ มันยังเหลือช่องว่างให้ไปต่อได้อีกเยอะ กว่าทุกอุปกรณ์ข้างบนจะมาถึงเจนล่าสุดแบบทุกวันนี้
เริ่มเข้าใจเหตุผลจากข่าวลือที่ว่าอุปกรณ์ยังไม่พร้อมแต่พยายามดันให้ออกมาขายให้ได้ก่อนแฮะ
เอาจริงก็ไม่ลือนะ แต่ละช่วงมันมีข่าวออกมาว่ายังไม่ค่อยมั่นใจ ยังไม่พร้อมจริง ๆ
- ตั้งแต่ Tim cook บอกว่า นึกไม่ออกว่าคนจะใส่ VR นาน ๆ ทำอะไร
- แล้วซักพัก ก็บอกว่า ต้องออกจำหน่ายแล้ว แต่ทีมพัฒนาบอกยังไม่พร้อม เลยมีการเปิดตัวไปกลางปีที่แล้ว
- หลังเปิดตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว ก็ใช้เวลาถึงเกือบปีเลย ถึงจะอออกวางขาย
- Tim cook เคยให้สัมภาษณ์หลังเปิดตัว ว่าผมใส่ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นรูป Tim cook ใส่เลยแม้แต่รูปเดียว จนเพิ่งมามีรูปใส่ขึ้นหน้าปกเทห์ ๆ ตอนวันวางขายนี่แหละ
เยี่ยมครับ ผมคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ อันดับ 1 ของโลก
กำลังสงสัยว่าถ้าใช้เมาส์บลูทูธได้บน vr จะหา cursor เจอไหมนะ
ตอนนี้เหมือนใช้ผ่านเครื่อง mac ได้อยู่แล้วนะครับ ลากออกจากจอ mac มาแอปของ Vision Pro ได้ด้วย
ปกติจะมีปุ่มที่กดค้างแล้ว cursor จะย้ายมาตรงหน้าให้เองครับ
มีข่าวว่า ทำตกแล้วแตกครับ