จดหมายข่าวรายสัปดาห์ Power On โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg ตอนล่าสุด เขาอ้างข้อมูลจากทีมพัฒนา Apple Vision Pro ที่มองว่าเฮดเซต Vision Pro นี้ อาจต้องใช้เวลาถึงรุ่นที่ 4 ลูกค้าทั่วไปจึงจะเริ่มซื้อมาใช้งานแบบเป็นประจำทุกวัน
โจทย์ท้าทาย Vision Pro มีหลายอย่าง หลังจากสินค้าเริ่มขายให้กับลูกค้าทั่วไป ทั้งปัญหาฮาร์ดแวร์ ที่ยังมีความหนัก แบตเตอรีที่ใช้งานได้ในเวลาจำกัด แอปยังมีไม่เยอะ และบั๊กที่พบหลายอย่างใน visionOS ซึ่งหากแอปเปิลแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ Vision Pro ก็จะเป็นอีกสินค้าหลักของแอปเปิลเหมือน iPhone, iPad และ Apple Watch
Gurman ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทีมพัฒนา Vision Pro มองเป้าหมายระยะไกลตอนนี้ว่าเฮดเซตนี้่จะแทนที่ iPad ได้ ซึ่งเขามองว่าแนวทางนี้ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มีความสับสนมากขึ้น แบบที่ iPad กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ จากแท็บเล็ต กลายเป็นอุปกรณ์ที่ทำได้แทนที่ Mac แต่ยังไม่ครบครันพอนั่นเอง
ที่มา: Bloomberg
Comments
มาแทน iPad เลยหรอ แปลก ๆ ยังมองไม่ออกแฮะ
ถ้ามันจะสมบูรแบบ คือต้องมี ai คือไม่ต้อง ใช่มือทำอะไรแล้ว พูดสั่งให้ทำเลย อันนั้นแหล่มแน่
เอาจริงๆ ให้เลือกระหว่างพูดกับ คลิ๊ก คนน่าจะเลือกคลื๊กมากกว่า
พูดให้ทำ ไม่ใช่คลิกเวป แบบสั่งงานให้ทำ คลิกเวป อันนั้นรู้แล้ว สั่งงานให้ทำซับซ้อน ต้องหลายคิก อาจเป็นพันหมื่นคลิก
จะเอา ai มาสั่งเปิดเวปเหรอ
ถ้าใช้ในสถานที่ส่วนตัวก็นึกออก
แต่ถ้าใช้ข้างนอก ก็เขิลๆที่จะพูดนะครับ
แต่ไม่แน่ อนาคตมันอาจจะเป็นเรื่องปกติก็ได้
เข้าเว็บพอนให้หน่อย อะไรประมาณนี้อะป่าวคับ 555
📸
อ่านคลื่นสมองทำงานเลยดีกว่ามั้งครับ พูดนี่เอาไปใช้งานนอกบ้านน่าจะเขินๆหน่อยนะ บางสถานที่อาจจะรบกวนคนอื่นด้วย
แก้หนักก่อนเลยครับ ใส่นานๆไม่ได้ ทั้ง quest pico
ถ้ามันไม่บางเท่า Rayban Meta ก็ไม่มีทางที่คนทั่วไปจะเอามาใช้ปกติหรอก
It's Physically impossible.
อันนั้นมันแว่นธรรมดานะครับ อาจจะต้องนิยามว่าใช้งานทั่วไปปกติคืออะไร
ถ้าใช้งานในบ้าน นั่งเล่นบนโซฟา ไถ ๆ โซเชียล หรือใช้งานในออฟฟิต เป็นจอคอม ผมก็มองว่า แค่ ณ ปัจจุบันก็สามารถทำได้แบบไม่มีปัญหานะครับ
แต่ถ้าการใช้งานทั่วไปคือการใช้งานตลอดเวลา ใส่ตลอดในที่สาธารณะ ใส่ขับรถ ใส่กินข้าว อันนี้ผมก็คิดว่าคงไม่ใช่
แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้ามันคือการใช้งานแบบ iPad ที่เราจะเอาออกมาใช้ในสถานการณ์เดียวกัน ไม่ได้ใช้ iPad ตอนขับรถ ตอนเดินอยู่ หรือการควักออกมาใช้บนรถไฟฟ้า มันมีแหละคนที่เอามาใช้ แต่ส่วนใหญ่ใช้มือถือจะสะดวกกว่า แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องความสะดวก การใช้ Apple Vision บนรถไฟฟ้าก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำไม่ได้
แต่ผมคิดว่า การใช้ Apple Vision ตอนกินข้าวนี่ผมว่าเวิคเลยนะ คือสามารถใส่กิน KFC แบบใช้มือได้ แล้วไถ Feed ได้โดยไม่ทำให้จอมือถือเป้นมัน ดีอยู่นะ 555
สักแบบ Xreal ก็ยังดีนะฮะ ไหนๆ ก็พ่วงแบตแยกอยู่แล้วด้วย 😅 แต่ FoV ต่างกันเยอะเลย
ถ้าทำไม่ได้ สุดท้ายมันก็ไม่ต่างจาก VR ทั่วไปหรือ ทีวี 3D ครับ ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีมันเจ๋งจริงแต่ถ้ายังต้องใส่ที่หน้าแล้วยังรู้สึกว่าหนัก และใหญ่เกินไป มันก็ยากที่จะได้รับความนิยมในวงกว้าง
ถ้าเราไปบอกคนเมื่อ 30 ปีก่อนว่า Moto Startac, PC Pentium 2 กับ EOS 5QD มันจะรวมกันมาเป็น iPhone 15 เค้าก็คงบอก It's Physically impossible. เหมือนกันครับ
เป็นไปได้อยู่แล้วครับ แค่ไม่ใช่ในเร็วๆนี้เท่านั้นเอง
อ่า ไม่แน่ใจว่าหลายท่านที่บอกว่าเป็นไปได้ ได้เห็นแว่น Rayban Meta รึยังนะครับ คือมันคือแว่นตาเฉย ๆ ข้างหน้าเป็นกระจกตัดแสงอย่างเดียว แล้วมีกล้องไว้ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอข้าง ๆ
ี่บอกว่า It's Physically impossible. มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ แว่น VR ในแบบ Vision Pro มันต้องมีสองส่วนคือ จอ และเลนส์ คือ แค่มีอย่างใดอย่างนึงในสองอย่างนี้ มันก็หนากว่า Rayban Meta แล้วครับ ไหนจะต้องมีหน้ากากไว้บล๊อกแสงอีก ต่อให้พัฒนาทั้งเลนส์และจอให้บางแบบขั้นสุดจริง ๆ เอาแบบ 0.1 nm เลย ข้อจำกัดทาง Physics มันคือ อย่างน้อย จอและเลนส์มันต้องมีระยะห่างในระดับนึงครับ แค่ระยะห่างตรงนั้นมันก็กว้างกว่าแว่น Rayban Meta แล้วครับ และผมเชื่อว่า คำพูดที่ว่า "ถ้ามันไม่บางเท่า Rayban Meta ก็ไม่มีทางที่คนทั่วไปจะเอามาใช้ปกติหรอก" ไม่น่าจะจริง คือ ผมคิดว่าคงได้เห็นคนใช้แว่น Apple Vision กันเยอะแยะ ก่อนที่มันจะบางเท่า Rayban Meta ครับ
ส่วนตัวมองว่า ใหญ่แค่ Bigscreen Beyond ก็สุดยอดแล้วครับ
ใกล้เคียงสุดคงเป็น bigscreen beyond แต่อันนั้นต้องใช้ lighthouse แต่รูปแบบนี้พอเป็นไปได้เอา cpu แบตออกมาต่อข้างนอกให้หมดตัวแว่นเหลือเซนเซอร์กับเลนส์ก็น่าจะไม่หนักแล้ว
ผมทราบครับว่าแว่นของ Meta มันเป็นยังไง ส่วนคำตอบว่าสุดท้ายมันจะเป็นที่นิยมหรือเปล่า ก็ต้องดูกันต่อไปครับ ดูอย่างมือถือเองกว่าดีไซน์มันจะนิ่งทั้งความหนาและขนาดจอก็ใช้เวลาไปกว่า 15 ปี ผมว่าดีไซน์แว่น VR มันเพิ่งเริ่มต้นเอง มันคงเปลี่ยนไปได้อีกเยอะ ดีไซน์สุดท้ายจริงๆอาจไม่ใช่แบบที่เราเห็นตอนนี้ก็ได้
แต่ถ้ายังเป็นทรงแบบนี้ ผมก็ยังเชื่อว่ามันจะไม่รอดนะ 55
ส่วนตัวผมรอดู Visor อยู่ครับ น่าจะหนักกว่า Bigscreen Beyond ก็จริง แต่ดูแล้วเหมือนจะออกแบบมาให้เน้นใช้งานเป็น Wearable มากกว่าแค่แว่น VR ที่เล็กเบาเฉยๆ
Bigscreen Beyond ผมว่าภาพมันไม่ได้ดูใหญ่จริง มุมมองมันอาจจะแคบกว่าตอนใส่แว่นสายตาด้วย
รออีกหลายเจนซินะ กว่าจะพร้อม
รอใช้แบบ Denno coil หรือ Accel world
เก็บตังค์รอซื้ออีก 4 ปีก็ยังไม่รู้ว่าจะพอมั้ย 🥲
ส่วนตัวผมคิดว่า มันได้ฟีลอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือน iPhone รุ่นแรกแหะ คือเปิดตัวออกมาว้าวมาก ดูล้ำกว่าชาวบ้าน ดูผ่านการคิดมาอย่างดี แต่ก็มีอะไรหลายอย่างที่ชาวบ้านมี แต่ตัวเองยังไม่มี เหมือน iPhone รุ่นแรก นอกจากความว้าวเรื่อง Multi touch และ Full version browser แล้ว มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย อย่างอื่นทำได้ในระดับกลาง ๆ หรือบางอย่างด้อยกว่าด้วยซ้ำ (ไม่มี 3G) แต่พอมาหลัง ๆ เริ่มมี Appstore เครื่องเริ่มแรงขึ้น จอความละเอียดสูงขึ้น จอใหญ่ขึ้น กล้องดีขึ้น มันน่าใช้ มันลงตัว
คล้าย กับ Vision Pro ตอนนี้เลยที่ ความว้าวก็คือใช้มือทำท่าทางได้ เครื่องแรงกว่าชาวบ้านเพราะชิพมันแรง แต่ข้อเสียก็มีหลายอย่าง แบตอยู่ได้แปปเดียว ไม่มีแอพอะไรเท่าไร แถมต้องต่อสายอีก และที่สำคัญ ราคา!!! แต่สุดท้ายแล้ว มันดูมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นของที่มันน่าใช้ในชีวิตประจำวัน คือมันมองออกว่าถ้าเรามีแล้วมันจะทำให้ชีวิตเรามันดีขึ้นยังไงแหะ
แล้วการออกแบบที่มันมีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีสมัยนี้อีก เครื่องหนา ใหญ่ ใส่ไม่สบาย อนาคตถ้ามันเล็กลง ราคาถูกกว่านี้ เอาจอหน้าออก ใส่ชิพที่ Efficiency ดีกว่านี้ น่าจะทำให้เครื่องมันเล็กลงเบาลง แบตดีขึ้นกว่านี้ได้
สุดครับ มนุษย์เงินเดือนอย่างผม ยากจะหยั่งถึงวิสัยทรรศน์อันยาวไกลได้ ไกล้เคียงหนัง Sci-fi เข้าไปทุกวัน
อยู่ที่ราคาแล้ว แต่ ก็เห็นขายดี ของหมด ฉะนั้นราคาไม่ใช่ปัญหา แล้ว แพงกว่านี้ ก็น่าจะขายดี
ตัวที่ว้าวมากสำหรีบผม น่าจะ ใส่แว่นแล้ว มองข้างนอกได้เนียละ ทำให้ใส่ออกข้างนอกได้
อนาคต แว่นตาอาจจะแทนที่มอนิเตอเลยก็เป็นไปได้นะ
เอาจริงๆปัจจุบันผมก็ใช้ Xreal แทนจออยู่ครับ (ก็นะ มันก็ทำได้แค่แทนที่จอนั่นแหละ 55+)
3 รุ่นแรกทดลองตลาดละสิ้้ บอกมาว่าจะไปแนวไหนในอนาคต ใครจะใช้ มันจะผ่านไหมในชีวืตประจำวันที่หนักแบบนี้ หรือตัดอะไรออกดี
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ก็น่าจะแบบนั้นรุ่นนี้เหมือนทำมาลองตลาด แถมก็ทำอะไรแปลกๆอยู่หลายอย่าง เช่น ต่อกับ mac แล้วใช้ได้แค่จอเดียว กระจกลามิเนตที่ทำมาแปลกๆเป็น PL/GA/PL นอกจากไม่ได้ลดเรื่องรอยขีดข่วนแล้วก็ยังแตกได้เหมือนเดิมแถมหนักกว่าใช้พลาสติดไปเลยซะอีก ใส่แว่นใช้งานไม่ได้ต้องสั่งเลนส์มาใส่อย่างเดียว วัสดุผ้าที่ใช้ไปสักพักมันก็จะสกปรกถอดเอามาซักได้ปกติไหม ก็คงต้องรอรุ่นต่อไปที่น่าจะแก้เรื่องพวกนี้